บทที่ 1
"มันหมดยุคสมัยแล้วครับพ่อที่จะมาคลุมถุงชน"
"มันไม่ใช่เรื่องคลุมถุงชนนะลูก มันเป็นเรื่องความเหมาะสม พ่อไม่สนใจว่าลูกจะมีใครอยู่ แต่ผู้หญิงที่พ่อจะรับเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้าน ก็คือเธอคนนี้"
"ถ้าพ่อชอบ..พ่อก็แต่งงานเองสิครับจะไปยากอะไร"
พอคำนี้ออกจากปากของลูกชาย ที่รักซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลถึงกับตวัดสายตามองไปที่ผู้เป็นสามี
"หาเรื่องให้พ่อหัวแตกแล้วไหมล่ะ" ไทเกอร์ก็มองไปที่ภรรยาเช่นกัน
"ผมไม่อยากพูดกับพ่อเรื่องนี้แล้วครับ..ไร้สาระสิ้นดี" ว่าแล้วสิบทิศก็ยันกายลุกขึ้นจากโซฟาสุดหรู
"ก็ได้..ถ้าลูกเห็นว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ พ่ออุตส่าห์เสนอให้ลูกก่อนนะ ลูกไม่ต้องการงั้นพ่อจะยกให้เข็มทิศ แล้วกัน"
"คุณ!" ที่รักใช้สายตาแบบไม่พอใจกับคำพูดของสามี เธอเคยปรามหลายครั้งแล้วว่าไม่ให้เอาลูกทั้งสองมาเปรียบเทียบ หรือถ้าคนนี้ไม่รับก็จะโยนให้คนนั้น
แต่ไทเกอร์ก็ไม่หันมองมาทางผู้เป็นภรรยา เพราะเขารู้ดีว่าต้องจัดการกับลูกชายยังไง ..ไม่รู้ว่ามันได้นิสัยมาจากไหนดื้อรั้นเป็นบ้า! (ถ้าใครจำไทเกอร์ได้ เขาคือคนที่เคยทำให้ภรรยาแท้งเพราะความดื้อรั้น โดยการอุ้มภรรยาโยนลงน้ำ จนทำให้แท้งลูกคนแรก ส่วนลูกคนที่ 2 และที่ 3 เป็นผู้ชายทั้งสอง)
สิบทิศค่อยๆ หันกลับมาหาผู้เป็นพ่อแบบช้าๆ "ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร"
เรามารู้จักสิบทิศกันบ้าง ชายหนุ่มรูปหล่อ สูงยาวเข่าดี ศึกษาจบมาจากต่างประเทศ ที่จริงไม่อยากจะกลับมาเลยด้วยซ้ำ แต่สู้แรงกดดันของผู้เป็นพ่อไม่ได้ เขาก็เลยจำเป็นต้องได้บินกลับมา
กลับมาถึงยังไม่ทันไร ก็เจอผู้เป็นพ่อเล่นงานโดยการยัดเยียดผู้หญิงให้
"เธอชื่อละอองดาว"
"หึ..หึ.หึฮ่าาาา"
"แกขำอะไร"
"พ่อไปเอาป้าที่ไหนมายัดเยียดให้ผมเนี่ย"
หลายวันต่อมา..
"ตั้งแต่วันนั้นมันยังไม่กลับบ้านใช่ไหม"
"คุณก็เพลาๆ ลงบ้างเถอะค่ะ ลูกเราโตแล้วนะ"
"มันสมควรที่จะมาช่วยงานพ่อได้แล้ว ดูตาไต้ฝุ่นสิ ตอนนี้แทบจะรับช่วงต่อจากพ่อได้อยู่แล้ว" (ไต้ฝุ่นคือลูกชายราชสีห์ พี่ชายไทเกอร์)
"ฉันบอกแล้วไงว่าคุณอย่าเอาลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่น"
"ผมไม่ได้เปรียบเทียบ ผมแค่ยกตัวอย่างลูกของคนอื่นเฉยๆ"
"แล้วมันต่างอะไรกันตรงไหนล่ะคะ"
"พูดไปก็มีแต่จะทะเลาะกัน"
"ถ้าลูกไม่รักไม่ชอบ ก็อย่าไปบังคับลูกเลยค่ะ"
"คุณจะให้มันไปคว้าผู้หญิงที่มันหิ้วกลับมาจากเมืองนอกด้วยเนี่ยนะ"
"คุณก็อย่าหัวสูงนักเลย" ที่รักอดที่จะตำหนิสามีไม่ได้
"ผมไม่ได้หัวสูง แต่สมบัติของคุณตาที่ท่านทิ้งไว้ให้ ผมกลัวว่าผู้หญิงพวกนั้นจะมาผลาญ.."
"ฉันไม่คุยกับคุณแล้วคุณไทเกอร์!" พูดไปพูดมาก็วนกลับมาหาสมบัติของตัวเองอีก นี่แหละชีวิตคนรวยก็มีทุกข์ในแบบฉบับของพวกเขาเหมือนกัน
"เอ้าา.. คุยเรื่องลูกอยู่ดีๆ ก็ทะเลาะกันซะงั้น" ไทเกอร์ได้แต่มองตามบั้นท้ายภรรยาที่เดินสะบัดก้นออกจากห้องไป
[ผับดังใจกลางเมืองกรุง]
สิบทิศเดินเข้ามาในผับ..สายตาคมสอดส่ายไปจนทั่ว เพื่อมองดูว่าเพื่อนๆ นั่งอยู่โต๊ะไหน พอเจอกลุ่มเพื่อนชายหนุ่มก็ตรงเข้าไป "..ว่าไงวะ"
"มึงนั่นแหละว่าไง ได้ข่าวว่ากลับมาหลายวันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเพิ่งโผล่หน้ามาหาเพื่อนฝูงได้" คนที่ถามก็คือเขตแดน เพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยม
"ก็เรื่องเดิมๆ นั่นแหละ"
"เรื่องเดิมๆ? อย่าบอกนะว่าเรื่องพ่อของมึง" ก้องหล้าเพื่อนสนิทอีกคนได้พูดแทรกขึ้น
"ชีวิตนี้กูไม่ค่อยมีเรื่องกับใครหรอกนอกจากพ่อ"
"มึงลืมอีกคนหรือไงวะ..น้องมึงไง" ก้องหล้ายังพูดขึ้นมาอีก
"ไม่ต้องไปเอ่ยถึงมันได้ไหม" ตั้งแต่กลับมาเมืองไทย สิบทิศยังไม่เจอหน้าเข็มทิศน้องชายเลย
"มึงจำน้องแนทได้ไหมวะ" เขตแดนก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
"แนทไหน?"
"พอมาแล้วเดี๋ยวมึงก็คงจะจำได้เอง"
เพียงไม่นานผู้หญิงที่เขตแดนพูดถึงก็เดินเข้ามา
"นั่นไง..สวยขึ้นเยอะเลยใช่ไหมล่ะ"
แต่สายตาสิบทิศไม่ได้มองดูผู้หญิงคนที่เดินมาก่อน..ชายหนุ่มมองผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังและตอนนี้เธอเดินเข้ามากับ..
"เฮ้ย.. นั่นน้องมึงนี่หว่า"