ลูกสาววัยแปดขวบ
‘เมธาวิน บรรณวิทย์’ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อ ดวงตาคมดุจตาเหยี่ยว เพราะชอบออกกำลังกาย และชอบเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะการปีนหน้าผา ทำให้รูปร่างดูกำยำ และเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ
เขามีลักยิ้มที่แก้มข้างซ้ายเป็นเอกลักษณ์ เวลาที่ยิ้มจะดูสดใสและมีเสน่ห์มาก แต่กลับมีกำแพงที่ทำให้ใครไม่กล้าเข้าใกล้หรือสนิทสนมด้วยก็คือนัยน์ตาที่ดุดัน และปราศจากความเป็นมิตร
เมธาวินเป็นเจ้าของรีสอร์ตหลายแห่ง ครอบครัวของเขาเริ่มต้นจากรีสอร์ตเล็กๆ บนเกาะส่วนตัวในจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นมรดกตกทอดกันมาในครอบครัว แต่เขาแนะนำให้พ่อและแม่ขายเกาะเพื่อนำเงินมาลงทุนทำรีสอร์ต ‘ฟ้าใส’ บนเกาะหลีเป๊ะในช่วงที่กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
รีสอร์ตฟ้าใสได้รับความนิยมมากจนถูกจองเต็มข้ามปี ซึ่งเมธาวินเป็นที่คนที่มองการณ์ไกล ในจังหวะที่รีสอร์ตฟ้าใสกำลังเป็นที่นิยม เขาก็เปิดอีกหลายแห่งตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่นที่กระบี่ ภูเก็ต พังงา และในอีกหลายๆ จังหวัด เพียงไม่กี่ปีฐานะของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนจัดอยู่ในทำเนียบมหาเศรษฐีหนุ่มร้อยล้าน
เมื่อประสบความสำเร็จในธุรกิจรีสอร์ต เขาก็เริ่มต่อยอดด้วยการเปิดโรงแรม ‘สกาย’ ที่ตั้งใจให้มีสาขาไปทั่วโลก และปัจจุบันโรงแรมสกายมีมากกว่าสิบแห่ง ความสำเร็จในหน้าที่การงานทั้งที่ยังหนุ่มแน่นส่งผลให้เมธาวินกลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มมีชื่อเสียง และได้รับการจับตามอง เมื่อบวกกับความหล่อเหล่าที่ไม่เป็นรองดาราหรือนายแบบ ถึงจะเป็นพ่อม่ายลูกติด แต่ก็ยังเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่สาวๆ ต่างก็หมายมั่นปั้นมือที่จะเป็นเจ้าของ
รถเบนซ์เอสคลาสสีดำสะท้อนแสงไฟเงาวับขับเข้ามาจอดในโรงรถ เมื่อเสียงเครื่องยนต์ค่อยๆ เงียบลง เมธาวินก้าวลงจากรถ พร้อมกับถอดสูทตัวนอกพาดไว้กับแขนก่อนจะเดินตรงเข้าไปในบ้าน
‘น้ำค่ะ คุณเมธ’ แม้จะเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว แต่ ‘ไสว’ แม่บ้านเก่าแก่วัยหกสิบสอง ข้าเก่าเต่าเลี้ยงที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นคุณยายก็ยังไม่นอน เพราะไสวเอ็นดูเมธาวินเหมือนกับลูกชายจึงมักจะอยู่รอคนเป็นเจ้านาย แม้จะกลับดึกแค่ไหนก็ตาม
“ทำไมถึงยังไม่นอน ผมบอกหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าไม่ต้องรอผมกลับ” เขาบอกอย่างเป็นห่วงเพราะเห็นว่าไสวอายุมากแล้ว ก่อนจะรับน้ำไปจิบพอให้หายคอแห้ง แล้วส่งแก้วคืน
แม่บ้านสูงวัยรับแก้วไปแล้วยิ้มๆ “ยังไม่ได้ทานอะไรมาใช่หรือเปล่าคะ” เมื่อคนถูกถามพยักหน้าก็พูดต่อ “เพราะแบบนี้ยังไงละคะป้าถึงต้องอยู่รอ มีมัสมั่นไก่ค่ะ เดี๋ยวป้าไปอุ่นให้นะคะ”
“เอาใส่กล่องให้ผมก็แล้วกัน ผมจะเอาไปกินในรถ ผมแค่แวะมาอาบน้ำแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะต้องไปสนามบิน”
“อะไรกันคะ เพิ่งจะกลับมาถึงก็จะออกไปอีกแล้ว ไม่พักผ่อนเสียหน่อยก่อนละคะ” ไสวบอกอย่างเป็นห่วง
“โรงแรมที่เชียงใหม่มีปัญหา ผมต้องรีบขึ้นไปดู ตั้งใจว่าจะบินไฟลต์แรกเลย”
ไสวหันมองก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ว่าแต่น้องเมย์หลับหรือยัง”
“เพิ่งจะหลับค่ะ แต่กว่าจะหลับได้ก็ทำเอาพี่เลี้ยงถึงกับเครียดไปเหมือนกัน”
เจ้าของคำถามพยักหน้าแล้วเดินตรงไปยังบันได เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสองเมธาวินเปิดประตูห้องนอนของ ‘เมธาวี’ อย่างเบามือ แล้วยืนมองเด็กหญิงวัยแปดขวบที่เพิ่งจะรับมาอยู่ด้วยเมื่อสามเดือนก่อนนอนหลับอยู่บนเตียงด้วยแววตานิ่งๆ เมธาวีเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก สวยเหมือนตุ๊กตา ผมยาว ผิวขาวใสดูน่าทะนุถนอม แม้จะเป็นเด็กหญิงวัยเพียงแค่แปดขวบ แต่ก็ดูสวยมากกว่าจะใช้คำว่าน่ารักเหมือนอย่างเด็กทั่วไป
เมธาวินเป็นพ่อคนตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ แต่ทันทีที่เมธาวีเกิดพ่อและแม่ของเขาก็รับไปเลี้ยง เพราะเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการสร้างเนื้อสร้างตัว แต่หลังจากที่พ่อและแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเรือคว่ำที่สตูลจนเสียชีวิตพร้อมกันทั้งสองคน เขาจึงต้องรับลูกสาวกลับมาอยู่ด้วย
แต่เพราะตลอดแปดปีที่ผ่านมาเมธาวีอยู่กับปู่ และย่ามาโดยตลอด นานครั้งคนเป็นพ่อถึงจะลงไปหาสักทีหนึ่ง ถึงจะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดแต่ก็ปราศจากความผูกพัน การเจอหน้าค่าตาที่แทบจะนับครั้งได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกแทบไม่มีเลย
สำหรับเมธาวินแล้ว เด็กผู้หญิงที่กำลังนอนหลับอย่างน่าเอ็นดู ก็แทบไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้า หนุ่มเจ้าของบ้านถอนหายใจออกมาเบาๆ หนักใจกับหน้าที่ของพ่อที่เพิ่งจะเริ่มต้น ก่อนจะค่อยๆ ปิดประตูอย่างเบามือ แล้วเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง
“คุณเมธกลับมาแล้วหรือคะ” แมว พี่เลี้ยงของเมธาวี สาววัยรุ่นอายุยี่สิบสองถามพร้อมส่งรอยยิ้มเชิญชวน
เมธาวินมองรอยยิ้มอย่างเข้าใจความหมาย เนินอกถูกดันจนแถบทะลักออกจากคอเสื้อกล้ามรัดรูป กางเกงขาสั้นโชว์ต้นขาขาวผ่อง เรียกรอยยิ้มจากมุมปากของเมธาวินได้ในทันที
“เพิ่งจะกลับ แล้วเธอล่ะ ทำไมถึงยังไม่นอน”
“แมวรอคุณเมธอยู่น่ะค่ะ มีเรื่องของน้องเมย์จะปรึกษา” พี่เลี้ยงวัยรุ่นบอกพร้อมขยับเข้าใกล้
หนุ่มเจ้าของบ้านมองสำรวจเนินอกตามที่คนเป็นเจ้าของเชิญชวน
“เข้าไปคุยในห้องคุณเมธได้ไหมคะ”
“ได้สิ” เมธาวินเดินนำเข้าไปในห้องของตัวเอง
พี่เลี้ยงสาวคลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะพาหุ่นเย้ายวนของตัวเองเดินตามพ่อม่ายหนุ่มเข้าไปในห้อง
ประตูห้องนอนของเมธาวีค่อยๆ แง้มออก เด็กสาวพาร่างเล็กๆ ของตัวเองออกมายืนมองประตูห้องนอนของคนเป็นพ่อ แววตาของเด็กหญิงวัยแปดขวบเต็มไปด้วยความเกลียดชัง