ฉันยังคงยืนนิ่งๆ อยู่กับที่ไม่ได้เดินไปไหน เพราะฉันไม่รู้ว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน แล้วคำว่า 'อย่ายุ่ง' ของพี่วิลเซอร์เนี่ยมันหมายความว่ายังไง?
หมายถึงไม่ให้ฉันไปยุ่งกับคุณแม็กซ์เครย์ หรือไม่ให้คุณแม็กซ์เครย์มายุ่งกับฉันเหรอ แล้วถ้าเป็นข้อสองนี่ พี่วิลเซอร์ไม่ชอบฉันขนาดไม่อยากให้คนอื่นมายุ่งเหมือนที่เขาไม่อยากยุ่งงั้นเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้วนะ :(
"มึงมีสิทธิ์?" คุณแม็กซ์เครย์เอ่ยขึ้น โดยที่พี่วิลเซอร์ก็เงียบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปจนกระทั่งคุณแม็กซ์เครย์หันมาพูดกับฉัน "ไปนั่งที่โต๊ะดีกว่าครับ"
"เอ่อ..." ฉันไม่รู้จะไปนั่งดีไหม ฉันจึงเบือนสายตามองหาคุณพ่อคุณแม่ ก็ไม่พบว่าท่านยืนอยู่แถวนี้เลย
ฉันจึงหันกลับไปมองหน้าคุณแม็กซ์เครย์อีกครั้ง พร้อมพยักหน้าเบาๆ อย่างจำยอม ก้าวเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ที่อยู่แถวนั้น โดยมีคุณแม็กซ์เครย์เดินมานั่งลงข้างๆ ส่วนพี่วิลเซอร์ก็เดินไปนั่งลงฝั่งตรงข้ามฉัน
"คุณลินยังเรียนอยู่ใช่ไหม?" คุณแม็กซ์เครย์เอ่ยขึ้น โดยที่ฉันก็พยักหน้าเบาๆ
"ค่ะ ลินเรียนอยู่ปีสองค่ะ"
"มหา'ลัยเดียวกับไอ้วิล?"
"...ใช่ค่ะ" ฉันตอบก่อนจะหันไปมองหน้าพี่วิลเซอร์ที่ยกไวน์ขึ้นจิบช้าๆ โดยที่เขาก็มองหน้าฉันแวบนึง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่นด้วยท่าทางไม่สนใจ ฉันจึงหันมามองหน้าคุณแม็กซ์เครย์ "คุณแม็กซ์เครย์เป็นเพื่อนกับพี่วิลเหรอคะ?"
"จะว่าอย่างนั้นได้ครับ" ว่าจบคุณแม็กซ์เครย์ก็แค่นหัวเราะขึ้นเบาๆ โดยที่ฉันก็เลิกคิ้วยุ่งให้กับคำพูดของคุณแม็กซ์เครย์ "ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มผมขนาดนั้นก็ได้ เรียกสั้นๆ จะได้สนิทกันเร็วขึ้น"
"ถ้าว่างมากก็กลับไปนอน อย่ามานั่งอยู่ตรงนี้นาน" เสียงเข้มของพี่วิลเซอร์เอ่ยขึ้น ทำให้ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่วิลเซอร์ที่จ้องหน้าฉันอยู่
"พูดกับลินเหรอคะ"
"แล้วฉันมองหน้าใคร?"
"มึงไม่อยากให้ลินคุยกับกู?" ฉันยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไป คุณแม็กซ์เครย์ก็เอ่ยขึ้นซะก่อน
"ขวางหูขวางตา"
"..." ฉันปั้นหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย พี่วิลเซอร์นิสัยไม่น่ารักยังไงก็ยังคงไม่น่ารักอยู่เหมือนเดิม
"คุณหนูครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้ฉันรีบหันไปมองก็เจอคุณอาปืนยืนอยู่
"คะ?"
"ถ้าคุณหนูเบื่อกลับห้องก่อนก็ได้ครับ ผมเกรงว่าถ้านายมาเจอ จะเกิดเรื่องใหญ่" คุณอาปืนว่าจบก็เบือนสายตาไปมองที่คุณแม็กซ์เครย์ด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
"ลินไปได้เลยใช่ไหมคะ?" ฉันถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เพราะฉันก็ไม่ได้อยากจะอยู่ในงานนี้นาน โดยที่คุณอาปืนก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ฉันจะหันไปมองหน้าคุณแม็กซ์เครย์ "ลินไปก่อนนะคะ"
"..." คุณแม็กซ์เครย์พยักหน้าเบาๆ ฉันจึงหันไปมองหน้าพี่วิลเซอร์ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมานอกจากดันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"เดี๋ยวผมเดินไปส่ง"
"ไม่เป็นไรค่ะ ลินไปเองได้ค่ะ" ฉันตอบคุณอาปืนจบก็ก้าวขาเดินออกไปจากงาน
เฮ้อ~ ได้ออกมาจากที่นั่นสักที ไปนอนเบื่อๆ อยู่ห้องยังมีความสุขมากกว่าอีก
ติ๊ง~
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือของฉันส่งเสียงร้องดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังเดินไปที่ลิฟต์ มือเล็กล้วงลงไปในกระเป๋าคลัทช์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดู ก่อนจะเบิกตากว้าง สองขาที่กำลังจะเดินเข้าไปในลิฟต์ก็ต้องหยุดชะงักด้วยความตกใจ เมื่อคนที่ไลน์มาหาฉันคือพี่วิลเซอร์
พี่วิลเซอร์ไม่เคยไลน์หรือโทรหาฉันสักครั้ง นี่คือครั้งแรกที่พี่วิลเซอร์ไลน์มา
LINE -Wilzer-
Wilzer : อย่าอยู่ใกล้มัน
ฉันยืนอ่านข้อความจากพี่วิลเซอร์อยู่หลายวินาที ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
ฉัน : พี่วิลหมายถึงคุณแม็กซ์เหรอคะ ทำไมคะ?
ฉันยืนรอข้อความตอบกลับมาของพี่วิลเซอร์อยู่นาน แต่เขาก็ไม่ตอบกลับมา เพียงแค่กดอ่านเท่านั้น อะไรของเขานะ แต่ช่างเถอะ เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันก็เก็บโทรศัพท์ลงที่เดิมก้าวขาเดินเข้าไปในลิฟต์
อีกด้าน...
"มึงดูสนใจเธอมากนะ" แม็กซ์เครย์เอ่ยขึ้นพลางหยิบไวน์ขึ้นจิบช้าๆ โดยที่สายตาของเขายังคงจ้องมองที่ใบหน้าคมคายของอีกฝ่าย
"..." วิลเซอร์ละสายตาจากโทรศัพท์มือถือเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม็กซ์เครย์นิ่งๆ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้น
"หึ" แม็กซ์เครย์หลุดเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะเบือนสายตามองไปรอบๆ งาน ที่มีผู้หญิงมากมายในงานกำลังสนใจเขาทั้งสองคน "ที่นี่มีผับอยู่ชั้นใต้ดิน สนใจไหม?"
"ก็ดี" วิลเซอร์ตอบแค่นั้น ดันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกง ก้าวขาเดินออกไป โดยมีแม็กซ์เครย์และลูกน้องของเขาทั้งคนเดินตามไปติดๆ
ตุ้บ! ซ่า~
"อ๊ะ! ขอโทษค่ะ" ทันทีที่วิลเซอร์ก้าวขาเดินเข้ามาในผับที่อยู่ชั้นใต้ดินของทางโรงแรม จังหวะที่เขากำลังจะก้าวขาเดินตามแม็กซ์เครย์ไปที่โต๊ะ อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาชนเขาด้วยท่าทางมึนเมา ซึ่งทำให้เครื่องดื่มที่เธอถืออยู่ในมือหกเลอะเสื้อสูทของวิลเซอร์อย่างไม่ได้ตั้งใจ
"..." ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ หลุดออกจากปากของวิลเซอร์ เขาผลักตัวผู้หญิงคนนั้นออกอย่างแรงจนเธอเซถลาไปด้านหลัง ก่อนจะปลายตามองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ
"ขะ..ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ" เธอเอ่ยบอกด้วยท่าทางสำนึกผิดและหวาดกลัว รีบหยิบทิชชูในกระเป๋าสะพายข้างเดินเข้ามาหวังจะเช็ดคราบน้ำที่เลอะออกจากเสื้อของวิลเซอร์ แต่ช้ากว่าวิลเซอร์รีบถอยหลังออกห่างด้านท่าทางนึกรังเกียจ ท่าทางของเขาทำให้หญิงสาวนิ่งไปทันที
"อย่าแตะต้องตัวฉัน" วิลเซอร์กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ก่อนจะก้าวขาเดินไปที่โต๊ะ ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามแม็กซ์เครย์ที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่นิ่งๆ
"เธอหน้าตาใช้ได้ ให้เธอรับผิดชอบสิ" แม็กซ์เครย์เอ่ยขึ้นพลางใช้นิ้วเลื่อนแก้วไวน์ไปตรงหน้าวิลเซอร์
"ไร้สาระ" วิลเซอร์ตอบออกมาแค่นั้น พลางถอดเสื้อสูทโยนลงโซฟาข้างๆ อย่างไม่ใยดี โดยที่แม็กซ์เครย์ก็ได้เพียงยกยิ้มมุมปาก เพราะเขารู้นิสัยของวิลเซอร์ดี
"ถ้าคนที่ชนเป็นลิลิน มึงคงให้เธอรับผิดชอบ?"
"..." วิลเซอร์เงยหน้าขึ้นมองหน้าแม็กซ์เครย์ เอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์มาถือไว้ "สิ่งที่มึงน่าจะรู้ดีคือ กูไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องของกู"
"มึงสนใจเธอ?"
"..." วิลเซอร์ไม่ได้ตอบอะไรออกมานอกจากกระดกไวน์เข้าปากพรวดเดียวจนหมด ก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างแรง "ถ้ามึงสนใจงานเหมือนสนใจเรื่องกู งานคงออกมาดี"
"กูแค่ชอบเล่นอะไรที่มันสนุกๆ" แม็กซ์เครย์เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ หยิบไวน์ขึ้นจิบช้าๆ โดยที่สายตาของเขาจังคงจับจ้องที่ใบหน้าของวิลเซอร์
"สนุกมากไปมันก็ไม่ดี"
"หึ" แม็กซ์เครย์หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ "มึงจะเก็บซิงไว้อีกนานแค่ไหน?"
"เรื่องของกู"
"..." แม็กซ์เครย์ได้เพียงส่ายหน้าไปมา โดยที่วิลเซอร์ก็เงียบไปพลางนั่งจิบไวน์ช้าๆ ด้วยท่าทางนิ่งๆ เพราะเขาไม่ได้สนใจเรื่องแบบนั้น
ปึก!
"..." ผ่านไปนานหลายนาที วิลเซอร์ที่นั่งดื่มไวน์อยู่เงียบๆ ก็เริ่มมีอาการแปลกๆ เขาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างแรง โดยที่กรอบหน้าเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมาเล็กน้อย "อะ..ไอ้แม็กซ์ มึงทำไรกู!"
"กูแค่อยากทดลองยากับมึง" แม็กซ์เครย์เอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะโยนกล่องสีเหลี่ยมสีดำเล็กๆ ลงบนโต๊ะตรงหน้าวิลเซอร์ ก่อนหน้านี้หลายเดือนเขาได้เอาไปให้วิลเซอร์ทดลอง แต่เขากลับไม่ทดลอง
"มันใช่เรื่องไหมวะ" วิลเซอร์เอ่ยขึ้นเสียงสั่นเทา พยายามควบคุมสมองของตัวเองที่เริ่มมีความต้องการ เขารีบดันตัวลุกขึ้นก้าวขาเดินออกไปจากผับอย่างเร็วที่สุด
"หวังว่ามึงจะสนุก" แม็กซ์เครย์เอ่ยขึ้นแค่นั้น พลางหยิบกล่องสี่เหลี่ยมสีดำที่เขาผลิตมันกับมือขึ้นมาดูโดยที่ใบหน้าหล่อเหลาปรากฎรอยยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปาก
"นายเป็นอะไร" โฟล์กที่กำลังจะเดินเข้ามาหาวิลเซอร์ที่ผับเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มของเขาวิ่งออกไปด้วยท่าทางไม่สู้ดีนัก
"..." วิลเซอร์ปลายตามองลูกน้องคนสนิทเพียงนิด ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เขารีบก้าวเดินไปที่ลิฟต์กดไปที่ชั้นที่เขาพัก เพราะเขาต้องการที่จะให้ถึงห้องตัวเองเร็วๆ ก่อนที่จะเกิดเรื่องไม่อยากให้เกิดขึ้น
ตุ้บ!
"อ๊ะ! พี่วิล" แต่จังหวะที่เขาก้าวขาเดินออกไปจากลิฟต์เพื่อมุ่งหน้าไปที่ห้องของตัวเอง ไม่ทันที่วิลเซอร์จะได้ระวังตัว เขาเดินไปชนกับลิลินที่เปิดประตูออกมาจากห้องพอดี
"..." วิลเซอร์ปลายตามองหน้าลิลินนิ่งๆ ยิ่งเขาเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่เป็นเพศตรงข้าม เขายิ่งมีความรู้สึกบางอย่างมากขึ้น จนสมองของเขาหยุดต่อต้าน
"พี่วิลเป็นอะไรคะ" ลิลินเอ่ยถามด้วยใบหน้าเป็นห่วง เพราะเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ค่อยดีนัก
หมับ! ปัง!
"อ๊ะ..พี่วิลนั่นห้องลินนะ จะทำอะไร" ลิลินโวยวายขึ้นเสียงดังเมื่อวิลเซอร์ดึงตัวเธอให้เดินเข้าไปในห้องอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว พร้อมปิดประตูอย่างแรง "พี่วิลเป็นอะไร พี่วิลตั้งสติก่อนนะคะ"
"ไม่ไหว" วิลเซอร์พูดออกมาแค่นั้น เขาก็เหวี่ยงตัวลิลินขึ้นไปบนเตียงอย่างแรงจนเธอเบ้หน้าด้วยความเจ็บ โดยที่เขาก็รีบแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออก