เมื่อกลับมาถึงบ้านชายหนุ่มก็รีบทำอาหารให้กรรัมภาทาน เธอแอบยืนมองเขาอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง จากนั้นก็ตัดสินใจก้าวเท้าเข้าไปหาเขาช้าๆ เธอหยิบผ้าคลุมกันเปื้อนยื่นไปตรงหน้าของเขา ทีแรกเหมือนว่าเขาจะปฏิเสธแต่จากนั้นเขาก็ขอให้เธอช่วยผูกให้เขาแทน หญิงสาวช่วยผูกผ้ากันเปื้อนอย่างตั้งใจเพราะไม่อยากให้ชุดขาวสะอาดของเขามีรอยเปื้อน
“ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณอุตส่าห์ทำของอร่อยให้พรีนทานเลยนี่หน่า”
“ชอบไม่ชอบอะไรบอกผมได้เลยนะครับ ผมจะได้ทำแต่ของที่พรีนชอบ”
“พรีนสงสัยแล้วนะคะว่าคุณทำอาชีพอะไรกันแน่ แอบไปทำเชฟเสริมด้วยหรือเปล่าคะเนี่ย”
“ฮ่าๆ ฝีมือผมยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกนะครับ ในครัวร้อนไปรอเย็นๆข้างนอกเถอะครับ”
“อยากดูนี่คะ”
“คุณแม่ดื้ออย่างนี้ลูกจะดื้อไหมครับ”
“ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ” หญิงสาวบอกปัดออกไปจากนั้นก็ผละห่างไปรอข้างนอก เธอเขินอายจนแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายเมื่อเขาก้มหน้ามาถามใกล้ๆลมหายใจเป่ารสรินกันชวนใจหวิว
“คนบ้า ขยันทำให้เขินอยู่ได้” กรรัมภาซุกหน้าไปกับหมอน ไม่รู้เขาจะได้ยินเสียงหัวใจที่มันเต้นโครมครามของเธอหรือไม่ ชายหนุ่มหลังจากทานอาหารด้วยกันเสร็จเขาก็ไม่ได้ออกไปไหนอีก เธอจึงหนีหน้าเขาด้วยการนอนหลับ เธอรู้สึกอยากนอนอยู่ตลอดพอหัวถึงหมอนก็หลับทันที ด้านปริญมีสายสำคัญโทรเข้ามาหาเขาไม่รอช้าที่จะกดรับสาย
“พรุ่งนี้มาหาลุงหน่อยสิปริญ ลุงมีคนจะแนะนำให้รู้จัก”
“อย่าคิดจะคลุมถุงชนผมนะครับ ผมไม่ยอมแน่”
“แต่หลานไม่เปิดใจคบใครสักทีนี่”
“ผมมีแฟนแล้วครับ”
“วะ ว่าไงนะ นี่ลุงหูฝาดใช่ไหม”
“ไม่ได้หูฝาดแน่นอนครับ ถ้าผมพร้อมเมื่อไรผมจะพาไปเปิดตัวเองครับ”
“ไม่เห็นจำเป็นต้องรอพร้อมเลยนี่หน่า หรือจะให้ลุงไปหาดีไหม”
“แน่นอนว่าไม่ครับ ผมขอเวลาอีกหน่อยนะครับ รับรองว่าลุงไม่ผิดหวังแน่นอน”
“ก็ได้ๆ ลุงจะรอนะ”
“ขอบคุณครับ”
กรรัมภาตื่นขึ้นมาอีกทีก้พบว่าห้องทั้งห้องูกประดับไปด้วยดอกไม้สวยงาม มองแล้วรู้สึกสบายตาและสดชื่นมากๆ เธอไม่รู้ว่าเขาจะขยันเอาใจเธอไปถึงไหนเหมือนกัน
“อื่อ นี่มันอะไรคะ”
“สำหรับพรีนครับ สดชื่นไหมครับ”
“สดชื่นมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะแต่คุณคงลืมไปเรื่องที่พรีนบอกให้ประหยัด”
“ฮ่าๆแค่นี้ผมจ่ายไหวอยู่แล้วครับ”
“มันสวยมากค่ะพรีนชอบ”
“พรีนชอบผมก็พอใจแล้วครับ เมื่อสักครูคุณลุงผมท่านโทรมาหาครับ”
“ท่านว่ายังไงบ้างคะ”
“ท่านกำลังจะจับคู่ให้ผมครับถ้าผมไม่ยอมพาแฟนไปเปิดตัว”
“แฟน? แฟนหรอคะ”
“ใช่ครับ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันพอแต่งงานกันไปก็เป็นสามีภรรยาไงครับ”
“ไม่คิดว่าคุณจะขี้ตู่ขนาดนี้นะคะเนี่ย”
“ฮ่าๆว่ามาได้เลยครับผมไม่โกรธ”
“ชิ”
เธอเลยอยากจะจัดการความเรียบร้อยห้องพักให้เขาสักหน่อยจึงถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าเช็คดูความเรียบร้อยแล้วก็ได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่เนียบมากๆ ดูอย่างเสื้อเชิ้ตของเขาสิยังต้องเรียงจากสีอ่อนไปสีเข้มเลย มีกล่องใบหนึ่งวางอยู่ด้านล่างของตู้เธอเปิดมันออกก็พบว่าเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง เมื่อเปิดออกดูพบว่ามันไม่ใช่หนังสือธรรมดาแต่มันคือไดอารี่ของคนตัวโต นั่นก็แสดงว่าเขาเป็นคนชอบจดบันทึกสิ่งต่างๆที่ได้พบเจอมา หญิงสาวยิ้มเต็มใบหน้าไม่คิดว่าคนตัวโตแบบเขาจะมีมุมอ่อนโยนแบบนี้ด้วย เขาบอกรักผู้เป็นลุงหลายต่อหลายครั้งนั่นคงเป็นเพราะเขาเหลือท่านเพียงคนเดียวที่เป็นที่พักพิง คุณลุงของเขาเป็นคนที่เก่งมากที่เลี้ยงหลานชายให้เติบโตมาเป็นคนที่อบอุ่นเป็นที่พึ่งพาให้คนอื่นได้ รอยยิ้มของเธอหุบลงเมื่อเจอภาพถ่ายภาพหนึ่ง มุมด้านล่างขวามือเขียนเอาไว้ว่ารักและคิดถึงเสมอ เขาคงจะหมายถึงผู้หญิงใบหน้าหวานดวงตากลมโต ตัวเล็กบอบบางที่นอนหนุนตักเขาอยู่แน่ๆ ใบหน้าของคนทั้งคู่เปื้อนยิ้มเต็มไปด้วยความสุข ในเมื่อเขามีคนรักอยู่แล้วทำไมตอนนี้ถึงยังเป็นโสดและมายืดอกรับผิดชอบเธอกับลูกได้อย่างไม่ติดขัด เธอได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆ แค่คิดว่าในใจของเขามีคนอื่นอยู่เต็มพื้นที่ของหัวใจ ใจเธอก็เจ็บแปลบไปหมดแล้ว เธอคงต้องรักษาระยะห่างกับเขาเอาไว้ไม่ให้ถลำลึกความรู้สึกที่มีต่อเขาไปมากกว่านี้ เขาอาจจะแค่ใจดีแต่ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเธอก็เป็นไปได้ หญิงสาวสะบัดศีรษะไปมาเบาๆพยายามปัดเรื่องส่วนตัวของเขาออกและหาอย่างอื่นทำแทน
อีกด้านหนึ่งภานุและครอบครัวกำลังเป็นเดือดเป็นร้อนกับการหายตัวไปของเธอมากขึ้นทุกวัน โรงสีข้าวของภานุกำลังมีปัญหามาดาของเขาจึงอยากจะให้เขาแต่งงานกับกรรัมภาเพื่อช่วยเหลือด้านการเงิน กมลทิพย์ไม่รู้เลยว่าบ้านของภานุนั้นกำลังมีปัญหาเพราะครอบครัวนั้นยังใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยเหมือนเดิมคงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับลูกสาวตนที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว