“ขอบคุณค่ะน่าทานมากเลยค่ะ ไม่อยากเชื่อว่าคุณจะเข้าครัวได้ด้วย” หญิงสาวตอบกลับยิ้มๆ กลิ่นหอมๆของอาหารตรงหน้ายั่วให้เธอน้ำลายไหล
“เมนูง่ายๆผมทำได้หมดแหละครับ ยิ่งมีพรีนมาอยู่ด้วยแบบนี้ผมยิ่งต้องคิดหาเมนูที่มีประโยชน์มาให้ทาน”
“ใครสอนคะเนี่ย คุณแม่ของคุณแน่เลยใช่ไหมคะ”
“คุณพ่อคุณแม่ผมท่านเสียแล้วครับ ตอนผมเรียนอยู่เมืองนอกต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง”
“ขอโทษด้วยนะคะ แล้วอย่างนี้คุณ...”
“ผมอยู่กับคุณลุงครับ เอาไว้วันหลังผมจะพาไปทำความรู้จักกับท่านนะครับ แต่ที่แน่ๆท่านต้องจับเราสองคนแต่งงานกันแน่” ชายหนุ่มตอบกลับยิ้มๆ หญิงสาวรีบเอ่ยขอร้องทันทีเพราะยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องแต่งงานจริงๆ
“งั้นอย่าเพิ่งไปเลยนะคะ ถือว่าพรีนขอร้อง”
“โอเคครับไม่เห็นต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นก็ได้ครับ ไม่อยากแต่งงานกับผมขนาดนั้นเลยหรอครับ” ชายหนุ่มตอบกลับยิ้มๆ เอ็นดูคนตรงหน้าไม่น้อย เขาเข้าใจดีที่เธอกลัวว่าจะทำให้มารดาของตนเสียใจถ้ารู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง หญิงสาวคว้าขนมปังมาเคี้ยวตุ้ยๆ เธอรู้สึกว่าแค่อาหารธรรมดาๆหนึ่งอย่างแต่มันมีความสุขเวลาได้ทานมากๆ
“ปะ เปล่าค่ะแค่ยังคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา”
“ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเถอะนะครับ”
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ พรีนรู้สึกเหมือนมาเป็นภาระคุณเลยค่ะ”
“อย่าคิดแบบนั้นเลยครับ ผมขอถามหน่อยได้ไหมครับว่าปกติพรีนทำงานที่ไหน”
“พรีนเป็นนักเขียนค่ะ”
“จริงหรอครับ อาชีพนักเขียนเป็นอะไรที่น่าสนใจมากเลยครับ นักเขียนไม่รู้ว่าทำไมถึงได้คิดอะไรเป็นเรื่องเป็นราวยาวๆได้นะครับ ผมขอคาราวะเลย”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะคะ ทุกอย่างเริ่มต้นจากการอ่านค่ะ เลือกทำในสิ่งที่ชอบไม่ว่าอาชีพอะไรก็สำเร็จได้แน่นอนค่ะ”
“งั้นต้องไปหาแรงบันดาลใจมาจากไหนละครับ”
“ในห้องก็หาแรงบันดาลใจได้ค่ะแต่ถ้าไปออกไปเที่ยวบ้างก็จะเป็นการเปิดโลกเห็นอะไรใหม่ๆ” ทุกครั้งที่เธอได้เดินทางสมองของเธอจะรู้สึกโปร่งโล่งและไอเดียต่างๆจะเกิดขึ้นก็ตอนนี้แหละ
“เยี่ยมเลยครับ ผมจะหาวันหยุดพาพรีนไปเที่ยวก็แล้วกันนะครับจะได้เขียนงานออกมาได้ดีขึ้น”
“เจ้านายของคุณไม่ว่าอะไรหรอคะถ้าลาหยุดบ่อยๆ”
“ไม่หรอกครับเพราะผมทุ่มเททำงานมาตลอด”
“จริงสิคะ คุณบอกว่าอยู่เมืองนอกคุณไปเรียนอะไรมาหรอคะ”
“เรียนทั่วๆไปน่ะครับ พวกบริหาร” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างปัดๆนึกเสียใจแล้วเหมือนกันที่เริ่มต้นด้วยการโกหก แต่เขาจะขอพิสูจน์อะไรอีกหน่อยก็แล้วกันถึงเวลานั้นจะบอกความจริงเธอทุกอย่างเลย
“แล้วอย่างรถละคะ รถแพงก็ต้องเติมน้ำมันดีๆ พรีนว่าเรามาประหยัดกันดีไหมคะ พรีนไม่อยากให้คุณหาเงินมาเลี้ยงพรีนอยู่ฝ่ายเดียว”
“อย่าคิดมากเลยครับ เรื่องหาเงินมันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัวอยู่แล้ว อย่าลืมสิครับว่าตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยย้ำน้ำเสียงหนักแน่น ครอบครัวเดียวกันหรอถ้าเธอได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับเขาก็คงจะดีน่ะสิ แต่ครอบครัวมันต้องก่อเกิดมาจากความรักนี่หน่าซึ่งเขาไม่ได้รักเธอ
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ต่อจากนี้เราเลิกขอบคุณแล้วก็เลิกเกรงใจกันเถอะนะครับ ผมรู้แค่ว่าต่อจากนี้อนาคตของเราจะมีกันและกันก็พอ ไม่ใช่สิมีเจ้าตัวน้อยของเราด้วย” ชายหนุ่มถือวิสาสะยกมือขึ้นมาวางบนหน้าท้องของหญิงสาว ใจเธอเต้นระรัวขยับตัวถอยห่างอัตโนมัติ
“ขอโทษที่จู่โจมเร็วเกินไปครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างรู้สึกผิด
“แหะๆ พรีนยังไม่ชินน่ะค่ะอย่าโกรธกันเลยนะคะ”
“ไม่โกรธหรอกครับ”
กมลทิพย์โทรหาลูกสาวอีกครั้ง กรรัมภากดรับสายทันทีที่เห็นว่ามารดาโทรมาหา หล่อนรู้ว่าท่านเป็นห่วงเธอแค่ไหนแต่เธอยังไม่พร้อมกลับไปสู้หน้ากับท่านเพราะเจ้าตัวน้อยในท้องไม่ใช่เป็นเพราะภานุอีกต่อไปแล้ว
“กลับบ้านเราได้แล้วนะลูก”
“แม่คะพรีนยังสนุกกับการทำงานที่นี่เลยค่ะ”
“เอาไว้ลูกแต่งงานแล้วให้ตาภานุพาไปหาแรงบันดาลใจก็ได้นี่ลูก”
“คุณแม่ขาคุณแม่ก็รู้นี่คะว่าพรีนไม่อยากถูกจับแต่งงานพรีนถึงได้หนีมาอย่างนี้ เลิกพูดเรื่องแต่งงานเถอะนะคะถือว่าพรีนขออีกสักครั้ง”
“แต่ลูกควรจะมีคนดูแลได้แล้วนะลูก ลูกถึงวัยที่จะมีครอบครัวแล้วยิ่งเลือกมากตัวเลือกก็จะน้อยลงนะลูก”
“ฮ่าๆ คุณแม่กลัวพรีนจะลงจากคานทองไม่ได้ใช่ไหมคะ”
“พูดเป็นเล่นไปเถอะเดี๋ยวก็ลงมาไม่ได้จริงๆ”
“เอาไว้พรีนพร้อมพรีนจะรีบกลับไปหาเลยนะคะ บ๊ายบายค่ะ สัญญาณไม่ค่อยดีเลยค่ะคุณแม่ แคะๆตืดดด” หญิงสาวแกล้งทำเป็นสัญญาณไม่ดีหลังจากวางสายก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“แกล้งผู้ใหญ่ไม่ดีนะครับ”
“อะ อุ้ย! คุณเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรคะ”
“มาทันได้ยินคนมีเล่ห์เลี่ยมพอดีเลยครับ”
“คุณปริญน่ะ อย่ามาว่าพรีนนะคะ”
“ไม่งอนนะครับ ว่าแต่เรื่องแต่งงานนี่มันยังไงหรอครับ”
“แม่อยากให้แต่งงานกับลุกชายของคนรู้จักน่ะค่ะ พรีนไม่อยากถูกคลุมถุงชนเลยหนีมาแล้วก็เจอคุณไงคะ”
“เหมือนพรหมลิขิตเลยนะครับ”
“อะ เอ่อ...” เธอไม่กล้าตอบกลับอะไรออกไปกลัวจะเผยพิรุธจึงได้แต่ทำตาปริบๆ
วันรุ่งขึ้นปริญออกไปทำงานแต่เช้าโดยเขาได้ทิ้งโน้ตเอาไว้ให้เธอที่ข้างหัวเตียงใจความว่าได้จัดเตรียมอาหารเช้าให้เธอเรียบร้อยแล้ว หญิงยิ้มออกมาเต็มใบหน้าแพ้ให้กับความเอาใจใส่ของเขามากๆ พอมีเวลาว่างหญิงสาวก็โทรไปเล่าเรื่องราวให้ชญานีฟัง เธอโชคดีที่เขาเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงไม่อย่างนั้นลูกของเธอก็จะกลายเป็นลูกไม่มีพ่อ ตอนนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆเขาเป็นคนออก เธออยากจะช่วยเขาแบ่งเบาภาระต่างๆภายในบ้านด้วยการทำงานเสริมแต่ว่าชายหนุ่มสั่งห้ามทันที โดยให้เหตุผลว่าเธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพราะเขาสามารถดูแลได้จริงๆ ในเมื่อเธอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาแล้วเพื่อนสาวจึงแนะนำให้เธอเปิดใจให้กับพ่อของลูกเพื่ออนาคตที่สดใสของลูกน้อย เธอเองก็อยากจะลองอยู่เหมือนกันหากว่าเขาไม่มีใครในใจเธอก็พร้อมจะจับมือเขาก้าวเดินไปด้วยกันในอนาคต