“ฝ้ายจะมาทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาพี่” นักรบเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย คนที่ถูกเอ่ยชื่อสะดุ้งตัวก้มหน้างุด และเผลอจิกเล็บลงบนฝ่ามือตัวเองแน่น
“อ้าว...นี่เมื่อเช้ามาลากตัวยายฝ้ายไปคุยเรื่องนี้เองเหรอพี่รบ อยู่ดีๆมาแย่งเลขาลินได้ไง กว่าลินจะอ้อนฝ้ายให้มาทำงานช่วยได้นะเนี่ย ฝ้ายมีดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยนะ คนเก่งๆอย่างนี้ จะมาชุบมือเปิบได้ไง” นลินขมวดคิ้วมองพี่ชายอย่างสงสัย
“ลินเพิ่งเริ่มทำงาน ยังไม่มีอะไรหรอกแค่เรียนรู้งานไปเรื่อยๆก็พอ เดี๋ยวพี่จะค่อยๆสอน ส่วนฝ้ายเพิ่งจะมาทำงานในตำแหน่งเลขา มีอะไรให้ต้องเรียนรู้อีกเยอะ คุณดาริกาเลขาของพี่จะได้ช่วยแนะนำเพื่อนเราด้วยไงไม่ดีเหรอ พี่เบื่อเมื่อไหร่จะคืนฝ้ายให้ลินก็แล้วกัน” นลินทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้าง
“ก็ดีเหมือนกัน งั้นฝ้ายไปเป็นผู้ช่วยเลขาพี่รบก่อนนะ พี่รบทำงานเก่ง จะได้สอนงานฝ้ายได้ พอเก่งแล้วฝ้ายก็ค่อยมาเป็นเลขาลิน เราจะเป็นผู้บริหารกับเลขาคู่ใจที่สาวและสวยที่สุดในประเทศเนอะ” นลินพูดอย่างอารมณ์ดี หากแต่แก้วกานดานั่งหัวใจตุ๊มๆต่อมๆไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใคร
อาหารเช้าเวลา11.00น. ช่างไร้รสชาติเหลือเกินสำหรับเธอ หลังจากที่นักรบรังแกเธออีกรอบเมื่อเช้านี้ โดยที่เธอคิดว่าเขาได้มีการบันทึกภาพที่ น่าอายของเธอไว้บางช่วง ทำให้แก้วกานดาไม่สามารถคัดค้านในสิ่งที่เขาต้องการได้ เพราะคำขู่ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดยังดังก้องอยู่ในหู
“ถ้าฝ้ายหนีไปอีก ผมจะส่งภาพนี้ให้ทุกคนบนโลกได้รับรู้ว่า ฝ้ายเร่าร้อนแค่ไหน”
ในตอนแรกนลินขอร้องให้แก้วกานดามาทำงานด้วยในตำแหน่งเลขาส่วนตัว เธอตอบปฏิเสธในทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่าการทำงานในบริษัทเดียวกับนลิน นั่นหมายความว่าเธอต้องเจอกับนักรบด้วย เพราะเป็นบริษัทของครอบครัวเขา หากแต่การเสนอเงินเดือนที่สูงลิ่วของเพื่อนทำให้เธอเปลี่ยนใจ เธอมีภาระหนี้ก้อนโตที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้แก้วกานดาตัดสินใจรับปากเพื่อน และคิดว่านักรบเป็นผู้บริหารระดับสูงคงไม่มีเวลามายุ่งกับตัวเอง แต่รู้สึกว่าเธอจะคิดผิดถนัด แก้วกานดามีกำหนดเริ่มงานในเดือนหน้า เพราะเธอยังต้องทำงานที่เดิมก่อนจนถึงสิ้นเดือนนี้
“ฝ้ายเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ” นักรบพูดโดยไม่มองหน้าแก้วกานดา
“เอ่อ...ฝ้ายต้องทำงานที่เดิมถึงสิ้นเดือนนี้ค่ะ” น้ำเสียงเบาหวิวอย่างเกรงกลัว เอ่ยตอบไปอย่างหวาดหวั่น
“ผมเริ่มจ่ายเงินเดือนให้คุณตั้งแต่พรุ่งนี้ คุณก็ต้องเริ่มงานพรุ่งนี้” นักรบสบตากลมโตด้วยแววตาข่มขู่
“ให้ฝ้ายพักผ่อนก่อนสิพี่รบ อย่าโหดนักเลยน่า ลินกับฝ้ายวางแผนกันไว้ว่าจะพักต่อที่นี่อีกสักสองคืนนะพี่รบ ดูซิยังไม่เริ่มงานเลย ก็ขู่ซะผู้ช่วยเลขาหน้าเหลือสองนิ้วแล้ว” นลินพูดจบก็หันไปยิ้มกับแก้วกานดา ซึ่งอีกฝ่ายยิ้มตอบแบบฝืนๆ และแอบเหล่ตามองคนที่นั่งตีหน้าเคร่งขรึมว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไร
“ก็ดีเหมือนกัน พักต่ออีกสักสองคืน พี่ก็เหนื่อยๆ ไม่ได้พักมานานแล้ว จะได้อยู่เป็นเพื่อนลินกับฝ้ายด้วย ดีไหม” นักรบยิ้มให้น้องสาวตนเอง
“ดีที่สุดเลยค่ะพี่ชาย แค่พี่รบมาเซอร์ไพรส์งานวันเกิดเมื่อคืนลินก็ปลื้มปริ่มสุดๆแล้ว ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่รบต้องขับเรือพาลินกับฝ้ายไปเที่ยวเกาะนะ” นักรบพยักหน้ายิ้มๆ นลินทำหน้าตาดีใจสุดๆ ผิดกับแก้วกานดาที่ใจเต้นแรง ในใจรู้สึกหวาดกลัวการที่ต้องอยู่บ้านหลังเดียวกันกับผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เมื่อวานก่อนจะตัดสินใจมางานเลี้ยงวันเกิดนลิน ที่บ้านพักส่วนตัวริมชายหาดของครอบครัวเขาและนลิน แก้วกานดาก็ลองเลียบเคียงถามหานักรบแล้ว แต่นลินบอกว่าพี่ชายเธอติดงานไม่ได้มาด้วย หญิงสาวจึงยอมนั่งรถมากับนลิน หากเธอรู้ว่าต้องมาเจอกับเขา และต้องมาโดนเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอจะไม่ยอมมาเหยียบที่นี่เด็ดขาด
“ไปเปลี่ยนชุดกันเถอะฝ้าย ไปว่ายน้ำที่เกาะส่วนตัวกัน บรรยากาศเงียบสงบ หาดทรายสวยมาก” นลินยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้ววางลง ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งขึ้นไปบนบ้าน เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะอย่างเบิกบาน ผิดกับแก้วกานดาที่อยากจะร้องไห้ออกมา เธอหันไปมองนักรบอย่างกล้าๆกลัวๆ ซึ่งเขามองเธออยู่ก่อนแล้ว
“รีบไปเปลี่ยนชุดสิ หรือจะให้ผมเปลี่ยนให้” แก้วกานดารีบลุกจากเก้าอี้ทันที หญิงสาววิ่งตามนลินขึ้นไปบนบ้าน โดยไม่หันกลับมามองสายตาพราวระยับ ที่มองตามร่างของเธอจนลับตา
นลินและแก้วกานดาเดินจูงมือกันลงบันไดมา ทั้งสองอยู่ในชุดว่ายน้ำบิกินี่สีสดใส และพันผ้าบางพลิ้วสีพื้นผืนใหญ่ไว้ที่เอว นลินรวบผมเกล้าไว้บนศีรษะ แต่แก้วกานดาปล่อยผมยาวระบ่าเนียน นักรบนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว เขามองกราดทั่วร่างเธอ และนี่ก็หนึ่งในสาเหตุที่เธอตัดสินใจปล่อยผม อย่างน้อยมันก็ปิดบังอกอวบเธอจากสายตาลวนลามของเขาได้ไม่มากก็น้อย
“ไปกันเถอะพี่รบ ร่างกายต้องการทะเล้ ทะเล” นลินเดินนำหน้าออกประตูบ้านไปอย่างมีความสุข แก้วกานดารีบสาวเท้าเดินตาม แต่คนตัวโตลุกขึ้นยืนแล้วดึงรั้งแขนเธอแรง จนร่างเล็กแต่อวบอัดเซปะทะอกกว้าง
“ถ้าไม่ติดว่ายายลินอยู่ด้วยนะ ผมจับฝ้ายลอกคราบแล้วกดลงตรงโซฟาตอนนี้เลยล่ะ รู้ไหมว่าฝ้ายกำลังยั่วผม”
แก้วกานดาพยายามสะบัดตัวออกจากเขา “หยาบคาย...คิดแต่จะเอาเปรียบคนไม่มีทางสู้”
“ใครว่าฝ้ายไม่มีทางสู้ นี่ไม่รู้ตัวเลยหรือว่าเวลาผมอยู่ในตัวฝ้ายน่ะ ฝ้ายสู้มือ แล้วก็สู้...” นักรบเบี่ยงไปกระซิบข้างหูเล็ก แก้วกานดาแก้มร้อนผ่าว สะบัดหน้าหนีกัดริมฝีปากแน่น
“พี่รบ ฝ้าย เร็วๆสิ ทำอะไรกันอยู่น่ะ” เสียงนลินโวยวายมาจากนอกบ้านทำให้นักรบปล่อยแขนกลมกลึง หญิงสาวรีบวิ่งออกจากประตูบ้านไปทันที นักรบมองตามร่างระหงแล้วหัวเราะในลำคอ