เพื่อนใหม่

1433 คำ
"หลังจากแยกย้ายกันเข้าห้องเรียนแล้ว ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลของแต่ละชมรม ตัดสินใจและเลือกให้ดีว่าชมรมใดที่เหมาะกับความรู้ความสามารถของเรา วันนี้พอเท่านี้ แยกย้ายกันได้" พอครูใหญ่พูดจบทุกคนก็ปรบมือแล้วแยกย้ายกันขึ้นอาคารเรียนของตัวเอง "เธอจะเลือกชมรมไหนเหรอ" น้ำตาลที่เดินอยู่ข้างหน้าหันมาถาม "ยังไม่รู้เลย ว่าจะรอเพื่อนสนิทดูก่อนน่ะ แต่อีกสองสามวันเธอถึงจะมาโรงเรียน แล้วเธอล่ะ" ฉันถามย้อนกลับไป "ฉันชอบศิลปะ เลยตั้งใจว่าจะเข้าชมรมศิลปะน่ะ" "ดีจังเลยเนอะ ที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร แต่ฉันนี่สิ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไรเลย" ไม่สิ...ฉันรู้ว่าฉันไม่ชอบอะไร นั่นก็คือคีตะไงล่ะ ไม่ชอบมากๆ เลย "เรียนปีสุดท้ายแล้ว ต้องรู้แล้วนะว่าตัวเองชอบอะไร จะได้เลือกคณะเรียนต่อถูกไง" "นั่นสินะ" น้ำตาลพูดถูก ฉันควรจะเริ่มคิดได้แล้ว จากนั้นเราก็ไม่พูดอะไรกันอีก รีบเดินขึ้นอาคารเรียนแล้วไปที่ห้องเรียน ขณะที่ฉันกำลังอ่านโบรชัวร์แนะนำชมรมต่างๆ อยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีคนแย่งมันไปจากมือ ฉันรีบหันขวับไปดูก็ปรากฏว่าเป็น คีตะ! "เอาคืนมานะ!" "ไม่คืน จะอ่านไปทำไมของไร้สาระพวกนี้" เขาว่าพร้อมกับเอาโบรชัวร์ไปซ่อนไว้ข้างหลัง "อ่านไปเธอก็ตัดสินใจไม่ได้อยู่ดี" "เรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่ง เอาคืนมา!" ฉันจะลุกออกจากโต๊ะไปแย่งมันคืนมา แต่คุณครูที่ปรึกษาก็เข้ามาซะก่อน แล้วพูดถึงเรื่องชมรมอีกรอบอยู่นาน "สุดท้ายนี้ เอกสารที่หัวหน้าห้องแจกไปมีความสำคัญอย่างมาก อย่าลืมเขียนชื่อตัวเอง และชื่อชมรมให้ชัดเจน ส่งครูไม่เกินวันศุกร์นะคะ อ้อ! ที่สำคัญเลยคือ เมื่อเขียนลงไปแล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นคิดดีๆ วันนี้มีเพียงเท่านี้ ตั้งใจเรียนกันล่ะเด็กๆ" ครูกลับออกไปแล้ว นักเรียนในห้องรีบหันหน้าเข้าหากันจับกลุ่มคุยเรื่องชมรมต่อ ฉันได้แต่นั่งหน้ามุ่ยเพราะอ่านรายละเอียดแต่ละชมรมยังไม่ครบ ก็ถูกคีตะแย่งโบรชัวร์ไปซะก่อน ซึ่งตอนนี้หมอนั่นก็ฟุบหน้าหลับลงกับโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ฉันเกลียดนายที่สุดเลย! ทำไมต้องมานั่งข้างกันด้วย หงุดหงิดว้อยยย!!! แต่ในขณะที่ฉันกำลังฟาดงวงฟาดงาอยู่นั้น เพื่อนที่นั่งอยู่ติดประตูก็เดินมาเรียกฉัน "ต้นเตย มีคนมาหา ยืนรออยู่ข้างนอกแน่ะ " "ใครเหรอ" ใครกัน? แล้วทำไมไม่เข้ามาข้างในล่ะ "ผู้ชายที่ย้ายมาใหม่น่ะ" ผู้ชายที่ย้ายมาใหม่? ต้นน้ำน่ะเหรอ เขามาหาฉันทำไม "จ้ะ ขอบใจที่มาบอกนะ" ฉันบอกขอบคุณเพื่อนแล้วค่อยๆ ขยับเก้าอี้ออกเพราะกลัวคีตะจะตื่น แล้วรีบวิ่งออกไปที่หน้าห้องทันที "ต้นเตย มาแล้วเหรอ" เป็นต้นน้ำจริงๆ ด้วย ว่าแต่เขามาหาฉันทำไมกัน ทั้งๆ ที่เพิ่งคุยกันก่อนจะเข้าแถวนี่นา "อืม มีอะไรกับฉันรึเปล่า" "ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่กลับจากเข้าห้องน้ำแล้วเดินผ่านน่ะ ก็เลยลองเรียกดู" "ห้องน้ำ? นายอยู่ห้องเจ็ด เข้าห้องน้ำฝั่งโน้นน่าจะใกล้กว่านะ ทำไมถึงอยากเดินไกลข้ามมาเข้าฝั่งนี้ล่ะ" บนอาคารเรียนมีห้องน้ำอยู่สองฝั่ง ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่เข้าทางฝั่งของตัวเองที่อยู่ใกล้กว่า "เอ่อ...ทางนั้นคนเยอะน่ะ ขี้เกียจเข้าแถวรอคิว เลยมาเข้าฝั่งนี้ คนน้อยดี" "งั้นเหรอ เอาเถอะๆ ไม่ได้มีธุระอะไร แค่ผ่านมาเฉยๆ ใช่ไหม" ฉันจะได้กลับเข้าห้อง เพราะดูนาฬิกาใกล้ถึงเวลาที่คุณครูจะมาแล้ว "ก็ใช่" "งั้นฉันกลับเข้าข้างในก่อนนะ นายเองก็กลับห้องตัวเองไปได้แล้ว เดี๋ยวคุณครูก็มาแล้ว" ฉันว่าแล้วก็หมุนตัวจะกลับเข้าห้อง แต่ต้นน้ำก็เรียกไว้อีก "เดี๋ยวสิ เอ่อ...ฉันขอเบอร์โทรศัพท์เธอหน่อยได้ไหม ฉันเพิ่งย้ายมายังไม่ค่อยมีเพื่อนเลย แต่รู้สึกถูกชะตากับเธออย่างบอกไม่ถูก เวลามีปัญหา ฉันจะได้ปรึกษาเธอได้ไง" ฉันพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมบอกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองไป เขารีบล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดและบันทึกเอาไว้ "ขอบใจนะ ที่ยอมเป็นเพื่อนกับฉัน ถ้าเธอมีปัญหาหรือเรื่องเดือดร้อนอะไรก็บอกฉันได้เลย" "อือๆ ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนกัน นายรีบกลับห้องเถอะ คุณครูมาแล้ว" ฉันหันไปเห็นคุณครูเดินขึ้นบันไดมาก็รีบหลบเข้าห้องทันที ส่วนต้นน้ำก็รีบกลับห้องตัวเอง ที่อยู่ถัดจากห้องของฉันไปอีกสองห้อง "ตกลงเธอตัดสินใจได้รึยังว่าจะเข้าชมรมไหน" ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับต้นน้ำอยู่ ซึ่งเขาโทร.มาตอนที่ฉันกำลังจะเข้านอนพอดี "ยังเลย ครูให้ส่งไม่เกินวันศุกร์ ก็คงจะวันศุกร์โน่นแหละถึงจะตัดสินใจได้" "เธอนี่นา เอางี้ไหมล่ะ มาอยู่ชมรมเดียวกับฉันสิ" "นายเลือกได้แล้วเหรอ ชมรมอะไรล่ะ" "ชมรมบาสเกตบอลน่ะ" ไม่! ฉันไม่มีทางเข้าชมรมนั้นแน่นอน "ชมรมบาสฯ ไม่ล่ะ ขอบใจ" "ทำไมล่ะ น่าสนุกดีนะ" สนุกกับผีน่ะสิ! "เชิญนายสนุกไปคนเดียวเถอะ ฉันคงไม่สนุกด้วยหรอก ดีไม่ดีกว่าจะจบเทอม คงได้ประสาทกินพอดี" "ทำไมเป็นงั้นล่ะ" ก็เพราะอีตาบ้าคีตะอยู่ชมรมนั้นน่ะสิ! "ชมรมนั้นมีคนที่ฉันไม่ค่อยชอบขี้หน้าอยู่ด้วยน่ะสิ ถ้าเป็นนาย นายก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ" อีกอย่างชมรมบาสฯ น่ะคนเยอะสุด โดยเฉพาะพวกผู้หญิง เล่นบาสฯ ไม่เป็นหรอก แต่อยากเข้าเพราะจะได้เห็นบรรดาหนุ่มนักกีฬาสุดฮอตแบบใกล้ชิดต่างหาก "ก็จริงนะ แล้วเทอมที่แล้วเธออยู่ชมรมไหนล่ะ" "เทอมที่แล้วเหรอ อยู่ชมรมห้องสมุด" "โห! เด็กเรียนสุดๆ เลย" "เด็กเรียนที่ไหนล่ะ ที่นั่นน่ะเงียบสงบ เหมาะแก่การนอนต่างหาก นายนี่ไม่รู้อะไรเลย" "หึหึ เธอนี่ตลกดีนะ ว่าแล้วฉันก็คิดถึงลูกพี่ลูกน้องของฉันคนหนึ่ง เราอายุเท่ากันแต่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยคุยกันเลย เห็นแค่ในรูปถ่าย รอยยิ้มของเธอสดใส เหมือนกับเธอเลยนะต้นเตย แต่คิดว่าถ้าได้เจอกันคงสนิทกันเร็วน่าดู" "เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน งั้นก็เป็นญาติกันน่ะสิ แล้วทำไมถึงไม่เคยเจอกันล่ะ" มีเรื่องแปลกๆ แบบนี้ด้วยเหรอ "เราอยู่กันคนละที่น่ะสิ" น้ำเสียงของเขาฟังดูเศร้าๆ ยังไงไม่รู้ "คนละที่ก็ไปหากันได้นี่นา" "ฉันก็อยากไปหาเธออยู่นะ แต่เราอยู่กันคนละประเทศน่ะ" "อ๋อ..." ฉันรับคำสั้นๆ แค่นั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ อยู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องของตัวเองขึ้นมา ที่มีญาติพี่น้องอยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีก็เหมือนไม่มี ตั้งแต่พ่อกับแม่เสียไปเมื่อแปดปีที่แล้ว ฉันก็ไม่เคยเจอญาติๆ คนไหนอีกเลย ที่เจอบ่อยก็แค่น้าพิมพ์กับน้าวี น้าสาวและน้าเขยที่แวะเวียนมาเยี่ยมอยู่เดือนละครั้งสองครั้ง "ต้นเตย...ต้นเตย ทำไมเงียบไปล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า ต้นเตย..." "ฮึ?" ฉันหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเรียกอยู่ข้างหูหลายครั้ง "เป็นอะไรไป อยู่ดีๆ ก็เงียบไป หรือว่าฉันพูดอะไรที่ทำให้เธอโกรธรึเปล่า" เขาถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน "เปล่าๆ ไม่ได้เป็นอะไร แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ อีกอย่างก็เริ่มง่วงแล้ว อันที่จริงตอนนายโทร.มา ฉันกำลังจะเข้านอนพอดีน่ะ" "งั้นฉันไม่กวนเธอแล้ว นอนเถอะ ฝันดีนะ" "อืม นายเองก็เข้านอนเหมือนกันนะ ฉันวางล่ะ" ฉันพูดจบก็รีบวางสายทันที แล้วก็ไม่แตะโทรศัพท์อีกเลย ปิดไฟที่หัวเตียงแล้วรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงพยายามข่มตาให้หลับ แล้วก็หลับไปในที่สุด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม