เมื่อรถของทั้งคู่ออกไปแล้วน้ำหนึ่งก็ทรุดตัวกับพื้นและเอามือปิดใบหน้าของตัวเองก่อนจะปล่อยน้ำตาออกมานองหน้า เธอเสียใจที่ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เธอไว้ใจและสนิทด้วย เธอไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่เธอเอ็นดูมองเห็นว่าเป็นน้องสาวคนหนึ่งเธอทั้งสอนงานแก้งานให้พยายามบอกกล่าวเกี่ยวกับเรื่องที่แคร์ควรรู้ตลอดเวลาเพื่อให้เธอมีศักยภาพมากขึ้นในการทำงานเธอไม่เคยจะหวงวิชาให้ผู้หญิงคนนั้นเลย แต่ว่าวันนี้...เธอคนนั้นที่เธอมองว่าเป็นน้องสาวกลับเป็นแฟนลับ ๆ ของแฟนเธอ
"ฮึก! ฮืออออ ๆ ๆ " เธอไม่ได้เสียใจเกี่ยวกับสรัลเลยเพราะว่าเธอพอจะรู้อยู่แล้วแต่เธอไม่คิดเลยว่าจะเป็นแคร์
"ทำไม ฮึก! ทำไมถึงได้ทำกับฉันแบบนี้ ฮืออออ ๆ " กึก!!
"ใครทำอะไรคุณ?" เสียงของปุณณ์ทำให้น้ำหนึ่งต้องเงยหน้ามองทั้งที่ใบหน้ากำลังเปียกไปด้วยน้ำตาของเธอ
"ฮืออ ๆ"
"ว่าไงใครทำอะไรคุณเดี๋ยวผมจัดการให้เอง.." พรึ่บ! ปุณณ์นั่งย่อง ๆ ตรงหน้าน้ำหนึ่งก่อนยื่นผ้าเช็ดหน้าส่วนตัวให้กับเธอ
"มะไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวหนึ่งจัดการเอง ขอบคุณนะคะ" หมับ! ปุณณ์ประคองน้ำหนึ่งขึ้นจากพื้น
"ถ้าผู้ชายมันไม่ดีก็อย่าเก็บเอาไว้ ผู้หญิงอย่างคุณหนึ่งสามารถหาผู้ชายดี ๆ ได้มากมายเพราะงั้นอย่าร้องไห้เสียใจกับคนที่เขาไม่เห็นค่าเลยนะ" ปุณณ์พูดพร้อมเช็ดน้ำตาให้น้ำหนึ่ง
"ท่านประธานรู้เหรอคะ?" น้ำหนึ่น้ำหนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
"ไม่รู้ไม่เห็นครับ...เดี๋ยวผมพาไปทานข้าวเองทานอะไรดีครับวันนี้ผมตามใจคุณหนึ่งเลย" และปุณณ์ก็พาน้ำหนึ่งไปทานข้าวย้อมใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ห้างสรรพสินค้า
ร้านอาหารญี่ปุ่น
"แล้วจากนี้จะเอายังไงต่อ?" ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ปุณณ์ก็ถามขึ้นมาความจริงแล้วเขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นแล้วละ ไม่สิ ความจริงแล้วเขารู้อะไรมากกว่านั้นเพราะเขาชอบเจอแคร์อยู่กับสรัลบ่อย ๆ แต่เขาคิดว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลยไม่ได้พูดอะไรออกไปแต่วันนี้เขาต้องเจอเลขาของเขาร้องไห้เพราะความจริงที่เขารู้มานานแล้ว
"เรื่องอะไรเหรอคะ?" น้ำหนึ่งเงยหน้าถามปุณณ์
"แฟนของคุณน่ะ...เขามีคนอื่นนะจะปล่อยและอดทนเหรอ?" ปุณณ์เอามือเท้าคางและมองหน้าของน้ำหนึ่งอย่างไม่ละสายตา
"เรื่องนั้นก็คิดเอาไว้บ้างแล้วละคะ"
"ทำยังไงเหรอ?"
"ก็...แก้แค้นละมั้งคะ?"
"แก้แค้น?"
"ก่อนจะเลิกกันก็ควรทำอะไรให้อีกฝั่งต้องเสียใจและเจ็บใจสิคะ" น้ำหนึ่งตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"พึ่งรู้ว่าคุณหนึ่งเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น"
"ถ้าเขามาบอกเลิกหนึ่งก่อนและให้เหตุผลอะไรที่ดีกว่านี้ก็คงไม่เป็นแบบนี้ค่ะ ถ้ามาบอกหนึ่งว่าไม่รักหนึ่งแล้วและต้องการไปหนึ่งก็จะไม่รั้งเขาไว้แต่นี่เขาเล่นมีคนอื่นแล้วอยากเลิกกับหนึ่งแถมยังพูดเหมือนว่าหนึ่งเป็นคนผิดอีกที่ไม่มีเวลาให้เขา ไม่สามารถดูแลเขาได้ทั้งที่ความจริงหนึ่ง...ทำอะไรเพื่อเขาตั้งเยอะ" น้ำหนึ่งก้มหน้าลงเมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาที่เคยทำให้สรัลแล้วก็รู้สึกเสียใจและเสียดาย
"นั่นสินะที่เขาเข้าทำงานที่นี่ได้ก็เพราะคุณนิ...ทานข้าวต่อเถอะผมไม่ถามอะไรแล้ว" ปุณณ์บอกและตักอาหารใส่จานของน้ำหนึ่งสองสามอย่าง
"ขอบคุณนะคะ..."
"ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกแล้วกันผมยินดีช่วย"
"หนึ่งไม่กล้าให้ท่านประธานช่วยอะไรหรอกค่ะ แค่นี้ก็ดีมากแล้วขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะที่วันนี้พาหนึ่งมาเลี้ยง"
วันต่อมา
บริษัทปุณณา จำกัด
พรึ่บ!
"ว้าววว! ดอกไม้จากไหนคะเนี่ยทำไมสวยจัง?" เช้าวันต่อมาน้ำหนึ่งมาทำงานปกติพร้อมกับดอกไม้ช่อโตและแคร์ก็เดินมาที่โต๊ะทำงานของน้ำหนึ่งพอดีเธอเลยถามขึ้น
"อ่อ สรัลซื้อให้พี่น่ะพอดีว่าวันนี้เป็นวันครบรอบของเรา"
"ระเหรอคะ...พี่สรัลเนี่ยยังหวานอยู่เลยนะคะทั้งที่คบกันมาตั้งนานแล้วยังใส่ใจพี่น้ำหนึ่งเหมือนเดิมเลย"
"นั่นสิ...เขาเสมอต้นเสมอปลายตลอดแหละมีแต่พี่นี่แหละที่ไม่ค่อยมีเวลาให้เขาน่ะ"
"ก็เป็นเลขาเบอร์หนึ่งของท่านประธานนิคะงานก็ต้องเยอะเป็นธรรมดา"
"ใช่ สรัลเขาเลยงอนพี่น่ะ...พี่เลยคิดว่าต้องใส่ใจเขามากกว่านี้แล้วละจะได้ทำให้ความรักของเรายืดยาวววว" น้ำหนึ่งพูดด้วยท่าทางมีความสุข ดอกไม้น่ะสรัลไม่ได้ให้เธอหรอกแต่เธอแค่ต้องการก่อกวนและปั่นประสาททั้งคู่เท่านั้นเอง
'ต่อไปนี้จะทำให้นั่งไม่ติดเลย เธอจะต้องกังวล กระวนกระวาย' น้ำหนึ่งคิดในใจ
"อ่าาาา~ ดีแล้วละคะเหมือนพี่สรัลจะชอบผู้หญิงขี้อ้อนนะคะ"
"นั่นสิเมื่อก่อนที่เราคบกันใหม่ ๆ พี่ก็อ้อนเขาตลอดแหละแต่พอเข้าวัยทำงานเลยลดเรื่องพวกนั้นลงมาบ้างแต่ตอนนี้พี่คิดได้แล้วว่าควรจะกลับไปอ้อนเขาบ้าง"
"ค่ะ ขอให้สำเร็จงั้นแคร์ไปทำงานก่อนนะคะ" และแคร์ก็เดินออกไปทันทีภายในของเธอร้อนระอุไปหมดและโกรธสรัลมากที่ยังมีเยื่อใยกับน้ำหนึ่งอยู่
"เธอทำฉันก่อนนะแคร์..." น้ำหนึ่งมองแคร์ที่เดินออกไปก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ
พักเที่ยง
แผนกการตลาด
หมับ!!
"ไปจะทานข้าวแล้วเหรอที่รัก^^" น้ำหนึ่งมาที่แผนกของสรัลและเมื่อเจอเขาเธอก็เข้าไปกอดแขนและถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มให้เขาจนคนในแผนกต้องยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งคู่
"ทำอะไรของเธอ?" สรัลกระซิบถามพร้อมกับกัดฟันเบา ๆ
"ก็มาพาสรัลไปทานข้าวไงคะวันนี้เนี่ยหนึ่งตั้งใจจะพาสรัลไปทานของชอบเลยนะ^^"
"เป็นบ้าอะไรเนี่ย?" เขาพูดเสียงเรียบ
"กำลังง้อที่รักอยู่ไงหายงอนได้แล้วนะคะ หนึ่งง้อสุด ๆ แล้วเนี่ย" เธอเอาหน้าถูแขนของเขา
"โห่~สรัลแฟนน่ารักขี้อ้อนอย่างนั้นอย่างอนนานดิ"
"ช่ายยยย~~พี่ว่ารีบ ๆ คืนดีเถอะ" เสียงของคนในแผนกเขาแซว
"ป่ะทานข้าวกัน^^"
"เหอะ!" สรัลเลยต้องจำใจเดินออกมากับน้ำหนึ่งแม้ว่าภายใจเขาจะอึดอัดก็ตาม เขาไม่เข้าใจว่าน้ำหนึ่งทำแบบนั้นทำไมทั้งที่ผ่านมาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยน้อยมาก ๆ ที่เธอจะอ้อนเขาแถมยังที่สาธารณะอย่างในที่ทำงานอีกปกติน้ำหนึ่งจะรักษาภาพลักษณ์มาก ๆ และนั่นทำให้สรัลเริ่มสับสน
"ทำหน้าดี ๆ หน่อยสิ"
"ต้องการอะไรกันแน่ทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย?" สุดท้ายสรัลก็ทนไม่ไหวและถามน้ำหนึ่งออกไป
"ก็...สรัลบอกเองว่าเบื่อหนึ่งใช่ไหม?"
"อืม"
"แถมยังบอกว่าหนึ่งไม่มีเวลา ไม่ใส่ใจอีก ใช่ไหม?"
"อืม"
"นี่ไงต่อไปนี้หนึ่งจะใส่ใจสรัลมาก ๆ และมีเวลาให้สรัลเยอะ ๆ ทำตัวน่ารัก ๆ สรัลจะได้ไม่เบื่อหนึ่งไง...หนึ่งกำลังพยายามปรับปรุงตัวอยู่"
"ทำได้?"
"แล้วที่หนึ่งทำเมื่อกี้สรัลไม่เห็นเหรอเมื่อก่อนหนึ่งทำแบบนั้นหรือไงละคะแค่นี้สรัลก็น่าจะรู้แล้วว่าหนึ่งกำลังเปลี่ยนตัวเองอยู่" น้ำหนึ่งพยายามพูดเพื่อให้สรัลเชื่อตัวเอง
"จะทำได้นานแค่ไหนกัน"
"คอยดูได้เลยไปทานข้าวกัน" หมับ! น้ำหนึ่งจับมือของสรัลไปทางโรงอาหารของบริษัทโดยมีสายตาหนึ่งกำลังจับจ้องอยู่ด้วยความโกรธและอิจฉาจนตัวสั่น