วันต่อมา...
บริษัทปุณณา จำกัด
สวนหลังบริษัท
"เรียกมามีอะไรเหรอคะสรัล?" น้ำหนึ่งเอ่ยถามสรัลที่ยืนหันหลังอยู่เขาเรียกเธอออกมาทั้งที่ตอนนี้เป็นเวลางานแท้ ๆ ท่าทางจะเป็นเรื่องร้อนใจน่าดูเลยถึงได้รีบขนาดนี้แต่ว่าเธอก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องอะไร?
"ทำไมเดี๋ยวนี้สรังจะเรียกน้ำหนึ่งต้องมีอะไรด้วยเหรอคิดว่าเรากำลังดีกันและปรับตัวกันซะอีก" เขาหันมาและพูดกับเธอก่อนจะมองมาที่มือของเธออย่างเปิดเผย
"เปล่าหรอกก็แค่ถามดูเห็นว่ามันยังเป็นเวลางานท่าทางจะเรื่องสำคัญมากสินะ ทั้งที่รอตอนเที่ยงก็ได้เราเจอกันอยู่แล้ว" น้ำหนึ่งพูดขึ้น
"แค่มีเรื่องจะถามน่ะ...แหวนนั่นเอามาจากไหน?" หมับ! เขาถามและจับมือของน้ำหนึ่งขึ้นมา
"ก็ซื้อน่ะสิเห็นว่ามันสวยดีทำไมเหรอ?" น้ำหนึ่งถามตาใส
"ซื้อมาใส่แล้วประกาศบอกคนอื่นทำไมว่าสรัลขอแต่งงาน?" เขาถามเสียงเรียบนิ่งแต่น้ำหนึ่งรู้ว่าเขากำลังพยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองอยู่
"ประกาศอะไรอะสรัลหนึ่งแค่พูดเล่นกับน้อง ๆ ในทีมเฉย ๆ ก็มีแค่จอย เจมส์ มิน แล้วก็....แคร์เท่านั้นเอง เมื่อวานคุยเสร็จกลับบ้านเมื่อเช้าก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องของเราสักหน่อยแล้วสรัลรู้มาจากไหนเหรอน้องในทีมหนึ่งก็ไม่ได้สนิทกับสรัลจนต้องไปแซวเรื่องนี้นะ?" น้ำหนึ่งแกล้งถามออกไปอยากรู้ว่าเขาจะโกหกอะไรอีก
"เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกแค่ได้ยินผ่าน ๆ มานั่นแหละเลยมาถามดูปกติไม่ซื้อของราคาแพงแบบนี้นิทำไมครั้งนี้...ซื้อละ?" เขาถามเธอเพราะว่าที่ผ่านมาน้ำหนึ่งค่อนข้างประหยัดและรู้จักใช้เงินไม่คิดว่าเธอจะกล้าซื้อแหวนราคาเป็นล้านขนาด แปลว่าเธอต้องมีเงินระดับหนึ่งเลยแหะแล้วเขาก็คิดว่ายังไม่เลิกกับน้ำหนึ่งก็ดีจะได้เอาเงินมาซื้ออะไรแพง ๆ บ้าง
"ก็เห็นว่ามันสวยดีแล้วตอนไปซื้อท่านประธานก็ไปด้วยเลยได้ราคาพิเศษน่ะ"
"อ่ออออ"
"แล้วสรุปว่าไปรู้เรื่องแหวนมาจากไหนละบอกมาเถอะน่าาา"
"ไม่มีอะไรหรอกน่ะก็เห็นผ่าน ๆ ตาเลยลองถามดูแค่นั้นแหละ แต่ว่าหนึ่งก็ไม่ควรพูดเล่นว่าสรัลจะขอแต่งงานนะหนึ่งก็รู้ว่าเรากำลังเลิกกัน"
"สรัลอยากเลิกกับหนึ่งจริงเหรอ?" น้ำหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เอ่อ ตอนแรกก็คิดว่าจะเลิกแต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ได้อยากเลิกแล้ว...ตอนนั้นความเหงามันอาจจะครอบงำเลยพูดอะไรแบบนั้นออกไป"
"นั่นสิน่ะ เพราะว่าอีกไม่นานก็จะวันเกิดสรัลแล้วนิหนึ่งอุตส่าห์เตรียมของขวัญไว้แล้วด้วย"
"ของขวัญอะไรเหรอ?"
"แล้วสรัลบ่นว่าอยากได้อะไรละ?" น้ำหนึ่งพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์สรัลเคยบ่น ๆ ว่าอยากได้รถคันใหม่แต่ว่าเธอไม่ได้ซื้อให้หรอกแค่พูดไปอย่างนั้นแหละอยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะมีปฏิกิริยายังไง
"ระรถเหรอ?"
"ไม่รู้สินะ...แต่ถ้าสรัลอยากจะเลิกตอนนี้ก็ได้นะก็แค่ยกเลิกการ..."
"ไม่ ๆ ไม่เลิกหรอกน้าาาา~~ตอนนี้สรัลได้สติแล้วละตอนนั้นที่พูดไปมันอาจจะเสียสติก็ได้เรามาเริ่มกันใหม่แล้วก็ลองปรับกันดูเนอะ^^" สรัลยิ้ม
"ก็ได้"
"โอเคร! งั้นเดี๋ยวสรัลไปทำงานก่อนนะ"
"ตั้งใจทำงานน้าาาา สู้ ๆ^^"
"ค้าบบบบบ~~" แล้วสรัลก็เดินออกไปส่วนน้ำหนึ่งจากที่ตอนแรกกำลังยิ้มก็หุบยิ้มทันทีและหันมองแผ่นหลังของสรัลผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีนิสัยแบบนี้ ไม่สิ...เขาอาจจะเป็นแบบนี้มานานแล้วก็ได้แต่ว่าเธอไม่เคยเห็นเพราะว่ารักเขามากนั่นเอง ตอนนี้น้ำหนึ่งไม่ได้มีความรักต่อสรัลแล้วเพราะงั้นเลยมองเห็นความจริงที่มากขึ้น และรู้ว่าความจริงแล้วตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นยังไง
"ฉันหลงรักคนอย่างนายลงได้ยังไงกันนะ...สรัล" น้ำหนึ่งพูดกับตัวเองและรู้ว่าที่เขาเปลี่ยนใจไม่ยอมเลิกกับเธอก็เพราะว่าอยากได้รถและยิ่งเห็นว่าเธอใช้ของแพงก็อยากบางอย่างจากเธอ
"แต่ฉันจะไม่ยอมให้อะไรนายทั้งนั้น..." น้ำหนึ่งยิ้มมุมปากอย่างสะใจเมื่อคิดถึงแผนการที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้
หลายวันต่อมา...
"คุณหนึ่งได้ข่าวว่าจะแต่งงานกับคุณสรัลเหรอคะยินดีด้วยนะคะ^^"
"อะไรกันคะเนี่ยทำไมข่าวเผยแพร่ไวขนาดนี้เลยละคะเนี่ย ยังไงก็ขอบคุณมาก ๆ นะคะ^^" หลายวันที่ผ่านมานี้ไม่ว่าน้ำหนึ่งจะเดินไปไหนก็มีแต่คนแสดงความยินดีกับเธอที่จะแต่งงานแล้ว หลังจากนั้นสรัลก็ไม่ได้แก้ข่าวอะไรส่วนน้อง ๆ ในทีมก็เริ่มพูดให้แผนกอื่นฟังแล้วด้วยเลยทำให้เรื่องการแต่งงานของน้ำหนึ่งกับสรัลดังไปทั่วบริษัทผู้คนมากมายต่างกล่าวยินดีกับทั้งคู่ สรัลเองก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธออกไปเพราะว่าเขายังไม่อยากเลิกกับน้ำหนึ่งตอนนี้
"อย่าลืมเชิญพี่นะคะ"
"หนึ่งเชิญทุกคนอยู่แล้วค่ะ ถ้าแต่งงานน่ะไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ งั้นเดี๋ยวหนึ่งไปทำงานต่อก่อนนะคะท่านประธานรอรายงานการประชุมอยู่"
"ได้จ้าาาาา~~~"
ชั้นดาดฟ้า
ปัง!!
"แคร์ลากพี่มาแบบนี้ได้ยังไงฮะถ้าใครเห็นขึ้นมาจะทำยังไง?!" สรัลถามแคร์ที่กระชากของเขาขึ้นมาที่นี่
"รู้ก็รู้สิ!!หนูไม่อยากสนใจแล้ว!!ไหนพี่บอกว่าจะจัดการกับพี่น้ำหนึ่งไง!!แล้วทำไมตอนนี้เรื่องของพี่กับเขาถึงได้ดังไปทั่วบริษัทคะแถมพี่ยังไม่ปฏิเสธอีกนี่พี่อยากแต่งงานกับพี่น้ำหนึ่งจริง ๆ ใช่ไหม?!!" แคร์ตะโกนถามเสียงดัง
"ไม่ได้อยากแต่งด้วยแต่อยากได้อย่างอื่น" แต่สรัลกลับนิ่งและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ
"พี่สรัล!!!!"
"พี่อยากได้รถคันใหม่แคร์ซื้อให้ได้ไหม?" เขาถามแคร์อย่างเห็นแก่ตัว
"พี่สรัลหนูยังทดลองงานอยู่นะและพ่อก็ไม่ได้ให้เงินหนูเยอะด้วยแล้หนูอะเอารถที่ไหนมาให้..." แคร์เรียนจบแล้วแต่ว่าไม่รู้จะไปทำงานที่ไหนพ่อของเธอเลยฝากงานให้ที่นี่แต่ก็ยังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ ตอนนี้แค่ทดลองเท่านั้นเลยยังไม่ได้มีเงินเดือนสูงเท่าไหร่นักลำพังแค่ค่าใช้จ่ายของเธอมันก็เยอะแล้วด้วย
"นั่นไง...แต่ว่าน้ำหนึ่งให้พี่ได้อีกไม่นานจะวันเกิดพี่แล้วเราเอารถกันก่อนแล้วค่อยเลิก รออีกหน่อยนะหนูแคร์พี่จะหลอกเอาเงินมาจากน้ำหนึ่งแล้วเราก็ไปเที่ยวกัน ถ้าน้ำหนึ่งมีเงินซื้อแหวนราคาขนาดนั้นได้แปลว่าต้องมีเงินเยอะแน่นอนเลย"
"แต่ว่า..."
"แคร์หนูยังไม่ได้มีรายได้เยอะตอนนี้นิที่มีอยู่ก็แค่เงินจากการทดลองงาน"
"ระหว่างนี้ให้พี่ไปเอาของน้ำหนึ่งมาใช้ดีกว่านะ...พี่เองก็ไม่ได้มีเงินเดือนเยอะด้วยหนูก็รู้นิ" ทั้งคู่ถ้ารวมเงินกันแล้วก็มีรายได้เกือนแสนต่อเดือนแต่เพราะว่าทั้งคู่ชอบใช้ของแบรนด์เนมราคาแพง และทานอาหารหรูเพราะงั้นเงินเดือนเลยไม่ค่อยพอใช้ฉะนั้นต่อให้ได้เงินเยอะก็ไม่อาจจะสู้รายจ่ายของทั้งคู่ได้
"ถ้าวันเกิดพี่แล้วและได้รถมาแล้วพี่ต้องเลิกนะคะ!! บอกให้พี่น้ำหนึ่งโอนเป็นชื่อพี่ด้วยปกป้องการเอาคืน"
"ได้สิจ๊ะที่รัก ขอบคุณนะที่เข้าใจพี่น่ะ ฟอดดดดด" สรัลกอดและหอมแก้มแล้วแคร์โดยลืมไปว่าทั้งคู่อยู่ที่ทำงาน
"เหอะ!" น้ำหนึ่งที่แอบฟังอยู่ที่ประตูทางเข้าก็แค่นเสียงออกมาก่อนจะเดินหนีออกมาเพราะไม่อยากมองภาพตรงหน้าเห็นแล้วจะอ้วก
ห้องทำงานท่านประธานปุณณ์
"เอกสารเกี่ยวกับการวางแผนการประชุมครั้งหน้าค่ะ" น้ำหนึ่งเข้ามาเพื่อเสนอแผนการประชุมครั้งหน้า
"ติดต่อประสานงานทุกอย่างไว้แล้วหรือยัง?"
"เรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือแค่คอนเฟิร์มจากท่านประธานจากนั้นเราก็จะทำการยืนยันกับทั้งทางร้านอาหารและออแกนไนซ์ค่ะ"
"โอเครครับ คุณหนึ่งตัดสินใจตามที่เห็นสมควรเลยได้เลยนะครับ"
"ค่ะ ท่านประธาน...แล้วท่านประธานต้องการอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากแผนอีกไหมคะ?"
"อืม...ผมอยากให้ของชำร่วยกับคณะบริหารน่ะมันครบรอบ 20 ปีของบริษัทพอดีเลย"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวหนึ่งจะให้คนหาไว้ให้ต้องการเป็นของแบบไหนดีคะ?"
"คุณหนึ่งตัดสินใจได้เลยครับผมไว้คุณ..."
"ขะขอบคุณ งั้นเดี๋ยวหนึ่งขอตัวก่อนนะคะ" เขาก็พูดปกติแต่ทำไมเธอรู้สึกอ่อนไหวก็ไม่รู้
"ได้ข่าวว่าจะแต่งงาน" กึก! น้ำหนึ่งชะงักนิดหน่อยจากสิ่งที่ปุณณ์พูด
"เอ่อ มันก็แค่ข่าวลืมน่ะค่ะไม่มีอะไรหรอก" ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอต้องอธิบายกับเขาแต่เขาเป็นคนเดียวที่เธอไม่อยากให้เข้าใจผิด
"ดีแล้วเพราะว่าถ้าคุณหนึ่งยังแต่งงานกับคนแบบนั้น ผมคงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่"ปุณณ์พูดด้วยน้ำเสียงเข้มติดไม่พอใจเล็กน้อย
"ทะทำไมเหรอคะ?"
"ก็คนดี ๆ ต้องไปเกลือกกลั้วกับคนเลว ๆ ทั้งชีวิตไง"
'ด่าแรงงงงงงมาก >น้ำหนึ่งคิดในใจ
"นะหนึ่งไม่คิดสั้นอย่างนั้นหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง"
"เป็นห่วงน่ะไม่เท่าไหร่กลัวคุณจะไม่โสดมากกว่า"
"คะ?"
"ไม่มีอะไรนิคุณหนึ่งหูฝาดครับ ออกๆ ไปได้แล้วครับเดี๋ยวผมทำงานต่อก่อน" ปุณณ์ไล่น้ำหนึ่งเพื่อเปลี่ยนเรื่องส่วนน้ำหนึ่งก็ต้องเดินออกมาจากห้องทำงานอย่าง งง ๆ
เธอว่า...เธอได้ยินนะอะไรสักอย่าง โสด ๆ ???