บทที่1
'มิ่งขวัญลูก'
'จ๋าพ่อ'ชายวัยกลางคนเอ่ยเรียกชื่อของลูกสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ฝ่ามือสั่นเทาของบุตรสาวคว้ามือซูบเซียวของบิดาขึ้นมาจับน้ำตาเม็ดใสไหลอาบหน้าดวงตาหมองเศร้ามองหน้าผู้เป็นพ่อที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียงไม้ภายในห้องนอนบ้านไม้หลังเก่าที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
'ถ้าวันไหนพ่อไม่อยู่ พ่อฝากมิ่งขวัญดูแลบัวผันกับแม่การะเกดด้วยนะลูก'
'ฮึก พ่อจะไปไหนขวัญไม่ให้พ่อไปไหนทั้งนั้น พ่อต้องอยู่กับพวกเราสิจ๊ะ'
'อย่าหลอกตัวเองเลยลูก ฮึก พ่อรู้ตัวเองดีว่าพ่อคงอยู่กับลูกได้ไม่นาน'ด้วยโรคร้ายกัดกินแพร่กระจายไปทั่วทั้งปอดในระยะสุดท้ายไร้หนทางรักษาให้หายทำให้ลูกน้อยและภรรยาได้แต่ทำใจ แต่มันก็เกินกว่าจะรับมือไหวผลรายได้จากการทำสวนไม่ดีเท่าไหร่เงินเก็บที่มีอยู่น้อยนิดก็เอามาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยุงเสาหลักของครอบครัวให้อยู่ได้ไปวัน ๆ จนแทบไม่มีจะกินต้องอดมื้อกินมื้อเดือดร้อนต้องไปกู้หนี้ยืมสินมารักษาพยุงชีวิตของผู้เป็นพ่อช่วยต่อลมหายใจของท่าน
'มิ่งขวัญ สัญญากับพ่อนะลูกถ้าหากวันไหนพ่อไม่อยู่ หนูต้องเป็นเสาหลักช่วยดูแลน้องและแม่ อย่าทิ้งน้องกับแม่นะลูก'
'จ๊ะพ่อ'
เพียงแค่มิ่งขวัญให้คำมั่นสัญญาเวลาพลบค่ำในวันเดียวกัน จรัญ บิดาผู้ให้กำเนิดก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสวยสร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับมิ่งขวัญ บัวผันและศรีภรรยาอย่างการะเกดอยู่ไม่น้อย
ควันสีดำลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าในวันทำพิธีเผา ชาวบ้านต่างพากันเข้ามาปลอบและให้กำลังใจ หนทางชีวิตมืดมัวไร้หนทางก้าวเดินไปเมื่อสูญเสียเสาหลักต้นใหญ่ของบ้าน
บรึน โฮ่ง โฮ่ง
เสียงรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่แล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านไม้หลังเก่าสภาพแทบจะดูไม่ได้ ใต้ถุนบ้านมีไอ้หมึกสุนัขสีดำถูกล่ามเอาไว้เห่าไล่ชายร่างใหญ่สองคนที่เปิดประตูลงมาจากรถด้วยสีหน้าดุดันและท่าทีคุกคาม
"ใครมากัน"การะเกดม้ายสาววัยสี่สิบปลาย ๆ เดินลงบันไดเมื่อเห็นว่าเป็นใครขับรถเข้ามาจอดตรงหน้าตีนบันไดบ้าน
"คุณนายให้ฉันสองคนมาทวงหนี้ หวังว่าแม่การะเกดคงจะไม่ลืม"
"ฉันไม่ลืมหรอกจ้ะ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินมาใช้หนี้จริง ๆ "
ปึง
"ว๊าย อย่าทำอะไรฉันเลยนะจ๊ะ ฉันกลัวแล้ว"การะเกดสะดุ้งตัวโยนร้องเสียงหลงด้วยความตกใจและหวาดกลัวชายร่างใหญ่ตรงหน้า สีหน้าและไหนจะแววตาดุดันทำเอาขาทั้งสองข้างสั่นฉี่แทบไหลรดผ้าถุง
"ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็รีบหาเงินมาใช้หนี้ แม่การะเกดก็รู้ดีว่าคุณนายไม่ชอบรออะไรนาน ๆ "
"พี่จ๊ะ พี่ช่วยพูดกับคุณนายหน่อยจะได้ไหม ตอนนี้ฉันไม่มีเงินไปคืนให้คุณนายจริง ๆ ผัวก็พึ่งจะมาตายเงินที่ไปยืมมาฉันก็ใช้ทำศพผัวไปหมดแล้ว"
"ไม่ได้ ถ้าไม่มีให้ก็เตรียมตัวตายกันได้เลย"ชายร่างใหญ่พูดจาข่มขู่ทิ้งเอาไว้ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไปสวนทางกลับมิ่งขวัญและบัวผันที่เดินกลับมาจากไปหาผักบุ้งจากท้ายทุ่งนามาทำอาหารมื้อเย็น
"ใครมาเหรอจ๊ะแม่"มิ่งขวัญเดินเข้ามาถามผู้เป็นแม่สลับมองท้ายรถกระบะที่ขับออกไปด้วยความเร็วฝุ่นตลบ
"ลูกน้องของคุณนายเขามาทวงเงินที่แม่ไปยืมมาทำศพพ่อน่ะสิ"
"แม่ก็เอาคืนเขาไปสิจ๊ะไม่เห็นจะยากตรงไหน"บัวผันในวัยเริ่มแตกเนื้อสาวเอ่ยด้วยความไม่ประสาหารู้ความดวงตากลมโตใสซื่อมองหน้าผู้เป็นแม่ผู้ให้กำเนิด
"นั่นสิจ๊ะแม่ เงินที่ชาวบ้านช่วยกันใส่ซองทำบุญก็พอจะเหลืออยู่บ้างถึงมันจะไม่พอก็ยังดีกว่าเราไม่ได้จ่ายหนี้ให้คุณนายเลยนะจ๊ะ"การะเกดเม้มริมฝีปากเข้าหาสมองเริ่มคิดหนักแต่เมื่อมองสีหน้าของลูกสาวทั้งสองเธอจึงยอมตกลงนำเงินส่วนนึงไปคืนให้กับเจ้าหนี้และขอผ่อนผันในส่วนที่เหลือ
"ฉันเห็นแก่จรัญหรอกนะถึงยอมให้แม่การะเกดผ่อนผันเงินยังติดค้างฉันอยู่"
"ฉันต้องขอขอบคุณ คุณนายมาก ๆ เลยนะจ๊ะที่ยังเมตตาฉันกับลูกทั้งสองไว้ฉันจะรีบหาเงินส่วนที่เหลือมาคืนให้เร็วที่สุด"
"อืม"
กาลเวลาผ่านไปใช่ว่าทุกอย่างจะเรียบง่ายสวยหรูตามอย่างที่คิดเศรษฐกิจไม่ดีส่งผลกระทบต่อการทำสวนข้าวของทุกอย่างแพงการทำสวนหยุดชะงักและไหนจะหน้าแล้วไร้ฝนฟ้า การะเกดนั่งหน้างอคอตกคิดหนักมองสวนไร้ของตัวเองที่แห้งแล้งติดต่อมานานหลายเดือน
"ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นคุณนายเอาเราสามคนแม่ลูกตายแน่"เมื่อคิดได้เช่นนั้นการะเกดตัดสินใจขายสวนและบ้านสมบัติชิ้นสุดท้ายที่สามีทิ้งไว้ให้ก่อนตายก่อนจะหอบลูกสาวทั้งสองคนหนีเข้าเมืองใหญ่ไปตายเอาดาบหน้า
'มิ่งขวัญ หนูต้องดูแลน้องกับแม่ให้ดี ๆ นะ'ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของมิ่งขวัญที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับผู้เป็นพ่อว่าจะดูแลน้องสาวและแม่ให้ดีที่สุด
ฟ๊อด
"คิดอะไรอยู่คนเดียวเหรอครับที่รัก"น้ำเสียงอ่อนโยนมาพร้อมกับแรงกอดรัดจากทางด้านหลัง ความอบอุ่นแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย
มิ่งขวัญหญิงสาวในวัยสวยสะพรั่งหมุนกายหันหน้ากลับมาหาสามี ริมฝีปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นเปล่งประกายไปด้วยความรักยามเมื่อจ้องมองหน้าคนรักซึ่งเป็นสามีที่แต่งงานอยู่กินกันมาได้สามปี
"เปล่าค่ะ ขวัญแค่ยืนคิดอะไรเพลิน ๆ ว่าแต่เหมล่ะคะกลับมาจากทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมขวัญไม่ได้ยินเสียงรถเลย"
"จุ๊บ ก็เพราะขวัญเอาแต่ยืนเหม่อเลยไม่ได้ยินเสียงรถของเหมยังไงล่ะครับ"เหมราชสามีผู้แสนดีอบอุ่น นักธุรกิจหนุ่มทายาทเจ้าของโรงแรมระดับfirst classและไหนธุรกิจระดับใหญ่โตอีกมากมายชายหนุ่มผู้แสนดีดีกรีจบปริิญญามาจากต่างประเทศแต่กลับพบรักกับพนักงานสาวสวยตำแหน่งพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมตัวเองอย่างมิ่งขวัญ