เนื่องจากเจ้าบ่าวเป็นกำพร้าไร้ซึ่งบิดามารดา พิธีไหว้ฟ้าดินจึงจัดอย่างเรียบง่าย ร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ถูกแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อประคองมาทำพิธี ทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่เคร่งครัดนัก ยอมให้คนช่วยประคองเจ้าสาวจนจบพิธี จากนั้นคนรับใช้ทั้งสองได้พาเจ้าสาวไปยังเรือนหอ
“คุณหนูหิวไหมเจ้าคะ”
แม่นมฉีเอ่ยถาม มองร่างของเจ้าสาวที่กำลังนั่งรออยู่บนเตียงวิวาห์ด้วยความตื้นตันใจ นางเลี้ยงดูหลิวชิวเยว่มาตั้งแต่แรกคลอด บัดนี้คุณหนูของนางออกเรือนแล้ว
“ฉัน... เอ่อ ข้าหิว ช่วยหาอะไรมาให้กินหน่อย”
หลิวชิวเยว่ต้องเปลี่ยนสรรพการพูดของตนให้เข้ากับคนยุคนี้ หลังจากตั้งสติได้ก็คิดทบทวนมาตลอดทางที่นั่งอยู่บนเกี้ยวเจ้าสาว จำต้องยอมรับสภาพว่าตนเองได้เกิดใหม่ในร่างคนในอดีต
หากจำไม่ผิดเจ้าของร่างนี้คือบรรพบุรุษของตระกูลหลิวนามว่า หลิวชิวเยว่ !
ในบันทึกของตระกูล ได้กล่าวถึงความสามารถมากมายของท่านบรรพบุรุษ หลิวชิวเยว่นั้นเกิดในวันเดือนเดียวกับท่านบรรพบุรุษจึงได้ชื่อนี้มา นางเป็นทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลหลิว เจ้าของบริษัทผลิตและส่งออกสุรา เยว่จิ่ว
เหตุใดตัวนางถึงข้ามมิติมาสวมร่างของบรรพบุรุษผู้นี้กัน แม้ยากจะเชื่อจนต้องหยิกแขนตัวเองหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งไม่ใช่ความฝัน
“อีกสักครู่ท่านแม่ทัพจะมา โปรดทำตามคำแนะนำที่ข้าได้เคยบอกไว้นะเจ้าคะ”
แม่นมฉีเอ่ยขึ้น หลังจากหลิวชิวเยว่กินอาหารที่หลิงเอ๋อนำมาให้จนอิ่มหนำแล้ว
“แม่นมเคยแนะนำอะไรข้าบ้าง ข้าลืมไปแล้ว”
หลิวชิวเยว่เอ่ยถาม นางเพิ่งเข้ามาอยู่ในร่างนี้จะไปจำเรื่องราวของเจ้าของร่างได้อย่างไร
“ก็เรื่อง...”
แม่นมฉีขยับเข้ามาแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ คนได้ฟังหน้าแดงขึ้นมาทันที ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่นมฉีสั่งสอน
“แม่นมท่านบอกสิ่งใดกับคุณหนูกันแน่ เหตุใดคุณหนูถึงได้หน้าแดงเหมือนลูกผิงกั๋วแบบนั้น”
หลิงเอ๋อเห็นแก้มของคุณหนูมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาก็นึกสงสัย แม่นมฉีกำลังสั่งสอนเรื่องอันใด นางอยากรู้บ้าง
“เอาไว้ตอนเจ้าออกเรือน ข้าจะบอกสิ่งนี้กับเจ้า”
แม่นมฉีส่ายหน้ากับท่าทางของหลิงเอ๋อ พลางดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวลงมาปิดไว้ดังเดิม กำชับหลิวชิวเยว่อีกครั้ง
“คุณหนูจำสิ่งที่ข้าได้บอกไว้นะเจ้าคะ ไม่ต้องเป็นกังวลนะเจ้าคะ”
เงาของใครบางคนกำลังเดินมายังห้องหอแห่งนี้ ถึงเวลาที่แม่นมฉีกับหลิงเอ๋อต้องออกไปแล้ว
“คารวะท่านแม่ทัพ ฝากดูแลคุณหนูของข้าด้วยนะเจ้าคะ”
แม่นมฉีฝากฝังคุณหนูของตนกับผู้เป็นเจ้าบ่าว แม่ทัพเสิ่นมู่ฉือเพียงพยักหน้ารับ ทั้งสองเดินออกไปพร้อมกับปิดประตูห้องให้ หลิงเอ๋อหันไปมองประตูห้องหอ แล้วเอ่ยออกมาว่า
“แม่นมฉี ท่านว่าคุณหนูจะรับมือท่านแม่ทัพ ไหวหรือไม่เจ้าคะ”
“หุบปาก ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องเป็นกังวล ไปได้แล้ว”
แม่นมฉีไล่เจ้าตัวปากมากให้ไปห่างจากห้องหอ ในใจสวดภาวนาต่อเทพยดาขอให้คุณหนูของนางผ่านค่ำคืนนี้โดยราบรื่น
หลิวชิวเยว่นั่งตัวแข็ง มองเงาร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวของตน หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างเดิมในชาติก่อน มีผู้ชายมากมายต่างเข้ามาเกี้ยวพา หลิวชิวเยว่อาศัยว่าตัวเองทั้งสวยรวยและเก่งกาจ จึงมีนิสัยค่อนข้างหยิ่งทระนงตน บุรุษคนใดล้วนไม่ต้องตา ใช้ชีวิตเป็นสาวโสดจนจบชีวิตลง โดยไม่เคยมีคนรักสักคน
ไม่คิดว่าเข้ามาอยู่ในร่างนี้ไม่ทันข้ามวัน ก็จะมีสามีเสียแล้วหรือนี่...
“ข้าแซ่เสิ่น มีนามว่ามู่ฉือ บัดนี้เป็นสามีของเจ้า”
เสิ่นมู่ฉือเอ่ยขึ้น เขาหยิบคันชั่งแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเจ้าสาว เปิดผ้าคลุมออกช้าๆ เทียนแดงมงคลในห้องหอสาดกระทบ ใบหน้ากลมของหลิวชิวเยว่ปรากฎต่อหน้าผู้เป็นเจ้าบ่าว แม่ทัพเสิ่นมองเจ้าสาวของตนด้วยสายตาเรียบนิ่ง หยิบผ้าคลุมมาสอดไว้ในอกเสื้อแล้ววางคันชั่งลง จับกาสุรารินเหล้ามงคลสองถ้วย ส่งให้หลิวชิวเยว่หนึ่งถ้วยและถือไว้หนึ่งถ้วย
“ดื่มสุรามงคลกันเถิด”
หลิวชิวเยว่รับถ้วยสุรามาถือไว้ ขณะมองใบหน้าหล่อเหลาของแม่ทัพหนุ่ม รูปลักษณ์ของเขาทำให้คนเห็นถึงกับตาพร่า หากเทียบกับหนุ่มๆ ไอดอลในยุคของตน ชายหนุ่มตรงหน้ารูปงามกินขาด
บุรุษผู้นี้หรือจะมาเป็นสามีของนาง หลิวชิวเยว่รู้สึกจั๊กจี้หัวใจขึ้นมา...
“ดื่มสุรามงคลนี้แล้ว ก็เท่ากับว่าเราทั้งสองเป็นสามีภรรยา ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี”
น้ำเสียงของเขาช่างทุ้มนุ่มหูเหลือเกิน ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ให้อารมณ์ของคุณชายจอมเย่อหยิ่ง หัวใจของคนมองเต้นระรัว มองใบหน้าของเจ้าบ่าวด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม ในสมองแอบจินตนาการถึงสิ่งที่แม่นมฉีได้สั่งสอนไว้
“ค่ำคืนนี้ คุณหนูต้องตามใจเจ้าบ่าวให้มาก เขาจะทำสิ่งใดก็ให้คล้อยตาม อย่าขัดขืนนะเจ้าคะ”
คำพูดของแม่นมฉีแวบเข้ามาในหัว หลิวชิวเยว่อดยิ้มเขินไม่ได้ หล่อๆ แบบนี้ ใครขัดขืนก็โง่แล้ว รีบรับถ้วยสุรามายกขึ้นดื่ม
ทว่า... สุรามงคลไหลผ่านคอไม่ทันจะถึงกระเพาะ เจ้าบ่าวก็ดึงถ้วยในมือเจ้าสาวออกแล้ววางลงบนโต๊ะ โน้มใบหน้าก้มลงมาหา ทำเอาใบหน้ากลมราวจันทร์เต็มดวงปรากฎสีเรื่อบนพวงแก้ม หัวใจเต้นรัวแรงราวกับตีกลอง
หลิวชิวเยว่หลับตาพริ้มเผยอปาก รอรับจุมพิตแสนหวานจากเจ้าบ่าว เสียงทุ้มดังขึ้นข้างใบหูว่า
“วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว คืนนี้เจ้าพักผ่อนเถอะ”
อ๊ะ อ้าว...
เจ้าสาวหมาดๆ ถึงกับลืมตาโพลง นิ่งอึ้งตะลึงงัน มองใบหน้าหล่อเหลาเขาแต้มรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะพาร่างสง่างามไปเอนกายยังเตียงอีกมุมของห้อง
เพล๊ง !!!
เกิดเสียงแตกดังลั่นขึ้นในหู ใบหน้ากลมราวดวงจันทร์มีความรู้สึกร้าวไปทั้งหน้า หากก้มไปมองบนพื้นคงจะพบเศษหน้าร่วงเป็นชิ้นเล็กๆ พร้อมจินตนาการอันแสนบรรเจิดได้ถูกทำลายลงไป
บทเรียนก่อนวิวาห์ ที่แม่นมฉีอุตส่าห์สอนสั่ง กลายเป็นหมันไปเสียแล้ว !
เทียนแดงมงคลสาดแสงกระทบร่างหนุ่มสาวปรากฎเงาบนผนังห้อง ร่างหนึ่งเป็นบุรุษมองเงาก็รู้ว่ารูปงามเพียงใด แต่อีกร่างกลับอ้วนกลม ไม่ต่างจากหมีแพนด้าสวมชุดเจ้าสาว
หลิวชิวเยว่หันไปมองภาพเงาสะท้อนนั้น ถึงกับสะดุ้งกับสารรูปของตัวเอง พลันอารมณ์พุ่งพล่านก็ค่อยสงบลง
ตัวนางมาเกิดใหม่อยู่ในร่างหญิงอ้วน แม้ไม่ได้อัปลักษณ์ แต่ก็ใช่ว่าจะน่าพิสมัย แววตาของเจ้าบ่าวบ่งบอกทุกอย่างแล้ว ว่า เหตุใดเขาจึงไม่แตะต้องเจ้าสาวของเขา ความหยิ่งทระนงในตัวตนเดิมทำให้หลิวชิวเยว่ไม่ยอมแพ้
ช่างสิ ไม่ปรารถนาข้าก็ช่างท่าน ผู้ใดสนใจกันเล่า!