ตอนที่7. การหมักสุราเป็นเรื่องง่าย พิชิตใจแม่ทัพยากกว่า/1
แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ใต้ผ้าห่มร่างกลมของหลิวชิวเยว่นอนหลับอยู่ แม่นมฉีเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับหลิงเอ๋อที่ยกอ่างน้ำร้อนมาวางไว้บนโต๊ะ วันนี้คุณหนูต้องกลับไปเยี่ยมบ้าน พวกนางจึงเข้ามาปลุกคุณหนูให้ตื่นมาเตรียมตัว ทั้งสองมองไปยังเตียงนอนพบเพียงร่างกลมนอนอยู่เพียงลำพัง
แม่ทัพเสิ่นจัดให้หลิวชิวเยว่พักอยู่เรือนบุปผาทางด้านหลังของจวน หลายคืนที่ผ่านมาคุณหนูของพวกนางต้องนอนเพียงคนเดียว ไร้เงาของผู้เป็นสามี
“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นเถอะเจ้าค่ะ”
เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังนอนหลับงัวเงียตื่นขึ้นมา ร่างอ้วนขยับลืมตาขึ้นแล้วก็หลับตาลงหันหลังให้ไม่อยากตื่น แม่นมฉีจึงเขย่าปลุกอีกหน
“วันนี้ต้องกลับไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่นะเจ้าคะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้หลิวชิวเยว่ก็พลิกตัวลืมตาขึ้นมอง ยอมลุกไปล้างหน้าแต่งตัว
“หลิงเอ๋อ เจ้าไปเรียนท่านพี่ด้วยว่า วันนี้พวกเราจะไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่”
หลิวชิวเยว่สั่งการสาวใช้ หลิงเอ๋อรับคำแล้วเดินออกไปยังเรือนด้านหน้า ใช้เวลาไปครู่หนึ่งก็กลับมารายงานผู้เป็นนายว่า
“ท่านแม่ทัพให้มาเรียนคุณหนูว่า วันนี้ท่านแม่ทัพมีภารกิจต้องเข้าวัง ไม่อาจไปพร้อมกับคุณหนู”
ได้ยินเช่นนั้นหลิวชิวเยว่ก็นึกหงุดหงิดใจขึ้นมา เสิ่นมู่ฉือแต่งภรรยาเข้าเรือนมาแต่ไม่เคยเอาใจใส่ นับจากวันแรกที่เข้าหอเขาก็ไม่มานอนร่วมห้องกับนางอีกเลย หลายวันมานี้แทบจะไม่ได้พูดคุยกับเขา เจอหน้าตอนเช้าเพียงวันละหนึ่งหน เขาก็ออกไปทำงาน กลับบ้านยามใดก็ไม่เคยรับรู้ ต่างคนต่างอยู่ในเรือนของตนไม่ข้องเกี่ยวกัน
“ช่างเถอะ ข้าไปกับพวกเจ้าก็ได้”
สตรีในยุคของนางไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบุรุษ เมื่อเขาไม่ไปนางไปเองก็ได้
แม้ว่าแม่ทัพเสิ่นไม่ตามไปเยี่ยมบ้านภรรยาด้วย แต่เขาก็เตรียมของขวัญให้ภรรยานำไปให้บิดามารดา หลิวชิวเยว่นั่งรถม้ามาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิว พบบิดาและคนในครอบครัวมารอต้อนรับ ชาวบ้านพากันมารอดูอยู่ด้านหน้าคฤหาสน์ เมื่อเห็นว่าหลิวชิวเยว่กลับมาเยี่ยมบ้านเพียงลำพัง หลิวกวานก็เอ่ยถามบุตรสาวว่า
“ท่านแม่ทัพไม่ได้มาด้วยหรือ”
“ท่านพี่มีงานด่วน ต้องเข้าวังเจ้าค่ะท่านพ่อ วันนี้จึงไม่ได้ตามมาด้วย”
หลิวชิวเยว่ไม่อยากให้บิดาต้องห่วงใยนาง จึงบอกออกไปแบบนั้น ชีวิตของสตรีในสมัยโบราณเมื่อออกเรือนก็เหมือนน้ำถูกสาดออกไป
“ท่านเขยฝากของขวัญมาให้นายท่านด้วยเจ้าค่ะ”
แม่นมฉีไม่อยากให้คุณหนูของตนลำบากใจ จึงเอ่ยแก้สถานการณ์ หลิงเอ๋อกับบ่าวรับใช้พากันขนข้าวของมากมายในรถม้าเข้าไปวางไว้บนโต๊ะ
“เจ้าคงหิวแล้ว พ่อเตรียมอาหารที่เจ้าชอบไว้มากมาย”
หลิวกวานจึงค่อยวางใจ ชวนบุตรสาวรับประทานอาหาร ด้วยรู้ว่าหลิวชิวเยว่จะหิวทุกชั่วยาม อาหารจึงถูกจัดเตรียมไปไว้เต็มโต๊ะ ล้วนเป็นอาหารที่หลิวชิวเยว่ชอบ
“พ่อครัวทางนั้นทำอาหารถูกปากเจ้าหรือไม่ เจ้าดูซูบผอมลงไปไม่น้อย”
นางหลี่ชิงเหลียนมารดาเลี้ยงของหลิวชิวเยว่ คีบน่องไก่ใส่ชามข้าวให้ลูกเลี้ยง นางแต่งเข้าตระกูลหลิวมาหลังจากมารดาของหลิวชิวเยว่จากไป มีโอกาสได้ดูแลบุตรสาวของสามีจนออกเรือน
“ขอบคุณค่ะท่านแม่ ท่านก็กินเยอะๆ นะเจ้าคะ”
หลิวชิวเยว่คีบอาหารใส่ชามให้มารดาเลี้ยง และคีบให้บิดาและน้องชายด้วย ในใจรู้สึกถึงความอบอุ่นในครอบครัว บิดาของร่างนี้รักบุตรสาวมาก มารดาเลี้ยงมีเมตตา น้องชายก็รักใคร่กับพี่สาวชวนนางสนทนาไม่หยุด
“พี่สาว ข้าอยากเป็นทหาร ท่านบอกพี่เขยให้รับข้าเข้ากองทัพได้หรือไม่”
หลิวชิงหยวนเอ่ยขึ้น บิดาส่งเสริมให้เขาศึกษาเล่าเรียนเป็นบันฑิต แต่เขากลับชื่นชอบการฝึกยุทธ
“หยวนเอ๋อพูดจาเหลวไหล”
นางหลี่ชิงเหลียนดุบุตรชาย ตระกูลหลิวเป็นพ่อค้าแต่บุตรชายของนางกับแหกคอกอยากเป็นทหาร บิดาส่งเสริมให้เป็นบัญฑิตหวังให้สอบราชการ แต่หลิวชิงหยวนวันๆ เอาแต่วิ่งไปสำนักฝึกยุทธ มีแต่รอยฟกช้ำกลับมาทุกวัน
“เอาเถอะๆ หากหยวนเอ๋ออยากเป็นทหาร ก็ให้เขาลองดู”
หลิวกวานเป็นบิดาที่ตามใจบุตร เขาเกิดมาในตระกูลพ่อค้าก็จริง แต่เขาเปิดโอกาสให้บุตรชายได้เลือกทางเดินชีวิตด้วยตัวเอง อย่างไรเสียหากหลิวชิงหยวนไม่ประสบความสำเร็จสามารถกลับมาทำการค้าได้
“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวล หยวนเอ๋อของเราเก่งกล้าสามารถ ต่อไปเขาจะสร้างชื่อเสียงให้ตระกูลหลิวได้อย่างแน่นอน”
หลิวชิวเยว่สนับสนุนน้องชาย ครอบครัวตระกูลหลิวมีบุตรน้อยพี่น้องรักใคร่ปรองดอง ความทรงจำของร่างเดิมนั้นรักน้องชายคนนี้มาก นางจึงซึมซับความรู้สึกนี้ไปด้วย
“ขอบคุณขอรับพี่สาว ข้าจะหาโอกาสไปคารวะพี่เขย”
หลิวชิงหยวนยิ้มกว้าง ตั้งใจจะหาโอกาสไปเยี่ยมพี่สาวและพี่เขยในสักวัน
หลิวชิวเยว่อยู่ที่บ้านบิดาราวครึ่งวันก็ขอตัวกลับ ระหว่างทางนางอยากแวะไปดูร้านค้าที่บิดายกให้เป็นสินเดิม รถม้าแล่นเข้าไปยังเขตการค้าของเมืองหลวงแคว้นชิงเป่ย
หลิวชิวเยว่เปิดม่านหน้าต่างรถม้ามองดูอย่างสนใจ ภาพผู้คนแต่งตัวสวยงามมากมายเดินกันอย่างขวักไขว่ บ้านเรือนร้านรวงสองข้างทาง ล้วนสร้างความตื่นตะลึงให้คนที่ข้ามภพมา ความเจริญรุ่งเรืองในยุคอดีตของเมืองหลวงแคว้นชิงเป่ย ไม่ต่างจากภาพจำลองในซีรีส์แนวโบราณ รถม้าไปหยุดที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง
“นี่คือโรงเตี๊ยมเยว่จิน ท่านพ่อของคุณหนูยกที่นี่ให้เป็นสินเดิมของคุณหนูเจ้าคะ”
แม่นมฉีลงจากรถประคองหลิวชิวเยว่ให้เดินดูกิจการของตัวเอง ตระกูลหลิวมีร้านค้ามากมาย หลิวกวานยกร้านค้าให้บุตรสาวหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านขายผ้า ร้านขายข้าวสาร ร้านขายเครื่องประดับ รวมถึงโรงเตี๊ยม หลงจู๊ผู้ดูแลร้านค้าต่างๆ นำบัญชีมาให้หลิวชิวเยว่ตรวจดู
“ต่อไปทุกหนึ่งเดือน พวกเจ้าส่งบัญชีไปให้ข้าตรวจที่จวนท่านแม่ทัพ หากมีปัญหาอะไรก็ให้คนมาแจ้งข้าได้”
“คุณหนูเจ้าคะ หลงจู๊อาจจะไม่สะดวกนะเจ้าคะ ให้หลิงเอ๋อมารับบัญชีไปให้คุณหนูตรวจจะสะดวกกว่า”
แม่นมฉีท้วงขึ้น จวนแม่ทัพใช่ว่าจะปล่อยให้คนภายนอกเข้าไปวุ่นวายได้ง่ายๆ หลงจู๊เองก็คงไม่สะดวกใจจะเข้าไปพบหลิวชิวเยว่
“ข้ารู้แล้ว เอาเป็นว่าข้าจะออกมาตรวจบัญชีเอง”
หลิวชิวเยว่คิดหาลู่ทางทำกินเพิ่ม นางตรวจดูบัญชีรายรับของร้านค้าต่างๆ แล้ว รู้สึกว่าท่านพ่อใจดีกับนางมาก ล้วนยกร้านค้าที่ขายดีมาให้นางเป็นสินเดิม บางบ้านมักจะให้ความสำคัญกับบุตรชายมากกว่าบุตรสาว แต่หลิวกวานรักลูกเท่ากันจึงให้สินเดิมลูกสาวมามากมาย นางไม่น่าจะลำบากแล้ว
"หอสุราชิงเหอได้เตรียมสุราชั้นยอด ให้คุณหนูนำกลับไปฝากท่านแม่ทัพด้วยขอรับ"
หลงจู๊ผู้ดูแลหอสุราชิงเหอให้คนขนไหสุรามาให้หลายไห หลิวชิวเยว่เห็นแล้วตาลุกวาว
นอกจากเป็นซีอีโอของบริษัทผลิตและจำหน่ายสุราเยว่จิ่วแล้ว นางยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหมักสุราและไวน์ พอได้เจอสุราในยุคโบราณทำให้เปรี้ยวปากอยากชิมรสชาติ
"เกรงใจหลงจู๊แล้ว ให้เด็กขนไปไว้ในรถม้าเถอะ"
หลิวชิวเยว่ตรวจตราบัญชีของร้านค้าเสร็จก็เดินทางกลับจวน
ระหว่างกลับก็คิดหาทางต่อยอดธุรกิจของนาง จากสภาพความเป็นอยู่ปัจจุบัน จวนแม่ทัพมีเงินสำรองไม่มากนัก เบี้ยหวัดรายปีของแม่ทัพใหญ่แห่งชิงเป่ยน่าจะมีมากกว่านี้ เหตุใดถึงได้เหลือเงินก้นถุงน้อยเพียงนี้ กลับไปนางคงต้องตรวจดูบัญชีของจวนอีกครั้ง จะได้รู้ว่าใช้เงินทองสิ้นเปลืองไปกับเรื่องใด
พอถึงจวนก็สั่งให้ขนไหสุราไปเก็บไว้ในคลัง แล้วเอามาเก็บไว้ในห้องไหหนึ่ง
"แม่นมฉี หลิงเอ๋อ วันนี้ข้าจะเลี้ยงสุราพวกเจ้า"
หลิวชิวเยว่ให้แม่นมฉีกับหลิงเอ๋อเตรียมกับแกล้ม ทั้งสองจัดโต๊ะเตรียมอาหารและรินสุราใส่กาไว้เรียบร้อย
"แม่นมฉี หลิงเอ๋อนั่งลงเถอะมาๆ เรามาดื่มให้สำราญใจ"
แม่นมฉีกับหลิงเอ๋อสบตากัน เข้าใจว่าคุณหนูหลิวคงเสียใจที่ท่านแม่ทัพไม่ไปเยี่ยมบ้านด้วย ชาวบ้านที่มามุงดู ล้วนนินทากันสนุกปากว่า หลิวชิวเยว่ถูกแต่งเข้าจวนเพื่อบังหน้า ที่แท้สามีของนางเป็นชายชอบตัดแขนเสื้อ ไม่ใส่ใจมาเยี่ยมบ้านภรรยาเช่นนี้ ดูก็รู้ว่าไม่ให้ความสำคัญกับครอบครัวภรรยา
"สุราจากหอสุราชิงเหอค่อนข้างแรง คุณหนูค่อยๆ ดื่มนะเจ้าคะ"
หลิงเอ๋อรินสุราให้ผู้เป็นนาย หลิวชิวเยว่มองจอกสุราอย่างดูแคลน สุราโบราณจะแรงสักแค่ไหนกันเชียว จึงยกขึ้นดื่มหมดจอกในคราวเดียว ก่อนจะร้องครางออกมา เมื่อเกิดความรู้สึกร้อนวาบตั้งแต่ลำคอลงไปตามลำไส้