ตอนที่ 6 คิดถึงคนบนฟ้า

1636 คำ
  ตอนที่ 6 คิดถึงคนบนฟ้า ชีวิตของจ้าวกุ้ยหลิน จะเป็นเหมือนดั่งนิทานที่ท่านแม่ของนางได้เล่าให้นางฟังก่อนนอนหรือไม่ มันเป็นนิทานของพวกชาวผมทอง ในความมืดมิดของค่ำคืนในวันที่สาม ซึ่งสามีได้แต่งงานใหม่ นางซึ่งเป็นภรรยาคนแรกก็ถูกเขาทิ้งขว้างอย่างไม่ไยดี กุ้ยหลินหิ้วท้องหิวจนถึงยามเย็น อาจิงสาวใช้ก็แอบออกไปข้างนอกเรือนได้เพราะรู้จักมักคุ้นกับบ่าวรับใช้ที่ยืนเฝ้าหน้าประตูนั้นเป็นอย่างดี งานแต่งที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ อาจิงสาวใช้คิดว่าอย่างไรอาหารวันนี้ต้องเหลือแน่ ๆ สองเท้าของอาจิงเดินย่อง ๆ เข้าไปในครัวที่ดับไฟแล้ว นางคุ้นเคยเป็นอย่างดี แววตาจดจ้องอยู่ที่ถาดกลม ๆ ใบใหญ่วางอยู่บนเตาฟื้นนั้น ไอร้อนยังมีอยู่ สาวใช้ผู้รักนายสาวคนใหม่รีบเปิดขึ้นมา ได้กลิ่นหอมชวนหิว นางจึงได้นำซาลาเปาร้อน ๆ ใส่เอาไว้ในถุงผ้าใบหนึ่ง นางรีบหยิบมาสี่ลูก จากนั้นยังไม่ลืมหยิบขนมมาอีกสามชิ้น ติดมือมาด้วย ผู้ เป็นนายสาวกำลังพึมพำอยู่กับความว่างเปล่า “ท่านแม่ เจ้าชายคงจะมีแค่ในนิทานของท่านกระมัง” ม่านน้ำตาเริ่มปกคลุมดวงตาคู่งาม เมื่อคิดถึงมารดาที่จากไปด้วยโรคร้าย ท่านแม่บอกว่าถึงเวลาที่นางจะต้องจากไปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นมาทำให้ดูเหมือนมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากนัก ท่านแม่นั้นเป็นคนจากต่างภพ นางไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยเสียด้วยซ้ำไป สิ่งเดียวที่นางคงเชื่อมั่นอยู่นั่นคือคำสอนมากมายที่ท่านแม่ได้สอนนางเอาไว้ “ข้าคิดถึงท่านแม่จังเลยเจ้าค่ะ” คนตัวเล็กแม้จะงดงามเพียงใด รูปโฉมของนางที่ต้องอำพรางเอาไว้เพื่อปกป้องตนเองจากเหล่าชายหนุ่ม หากนางเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแล้ว ผิวพรรณที่ขาวจัดมิใช่ผิวคล้ำเกรียมแดดเกรงว่าที่บ้านของนางคงจะปั่นป่วนทีเดียว ดวงตางดงามทอดมองไปที่ท้องฟ้ากว้างใหญ่ เหม่อมองอยู่ครู่หนึ่ง นางจึงยกยิ้มอย่างดีใจ เมื่อนางเห็นภาพเงาของท่านแม่ส่งยิ้มมาให้ ราวกับกำลังปลอบใจลูกสาวที่น่าสงสารผู้นี้ ม่านน้ำตาของกุ้ยหลินได้พังทลายลง นางร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน แม้ว่าภายนอกจะดูเข้มแข็งเพียงใด แต่ภายในจิตใจของนางก็ยังคงอ้างว้างและโดดเดี่ยวยิ่งนัก มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาอีกครั้งหนึ่ง ส่งยิ้มที่ซ่อนความขมขื่นเอาไว้ มอบรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เสแสร้งปั้นแต่งขึ้นมา มอบให้คนที่อยู่บนฟากฟ้านั่น “ท่านแม่ ข้าจะเข้มแข็ง ข้าจะออกไปจากที่นี่ให้ได้” “ฮูหยินมาแล้วเจ้าค่ะ กำลังร้อน ๆ เลย” อาจิงรีบวิ่งเข้ามาแล้ววางถุงที่ใส่ซาลาเปาที่โต๊ะ เรียกนายสาวให้รีบมา หากเดี๋ยวมันเย็นจะไม่อร่อยเอาได้ กุ้ยหลินได้ยินเสียสาวใช้ นางรีบปาดน้ำตาทิ้งทันที ดวงตากลมโตงดงามนั้นดูแดงก่ำ เพราะเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา อาจิงเห็นสีหน้าของฮูหยินน้อยยิ่งทำให้นางปวดใจยิ่งนัก นางเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าอย่างไรฮูหยินน้อยก็เป็นสตรีที่ต้องการความรักจากสามี ทว่าคุณชายน้อยมิเคยแลเหลียวสักนิด “อาจิง ลำบากเจ้าจริง ๆ” น้ำเสียงอ่อนโยนมอบให้สาวใช้ผู้นี้ นับวันนางถูกชะตาสาวใช้ผู้นี้เหลือเกิน หากนางได้ก้าวออกไปแล้ว อาจิงจะอยู่อย่างไรกัน ทำให้นางคิดถึงเป็นแน่ “ข้าจะลำบากอันใดเจ้าคะ” นางอยู่ที่นี่ไม่ได้ลำบากอันใดสักนิดเดียว แต่กลับปวดใจที่เห็นฮูหยินน้อยนั้นหมองเศร้าเสียมากกว่า “มากินซาลาเปาก่อนเจ้าค่ะ กำลังร้อน ๆ อ้อ ยังมีขนมเปี๊ยะอีกด้วย” อาจิงสาวใช้พูดกับฮูหยินน้อย “อืม ขอบใจนะ เจ้าดีกับข้าจริง ๆ” กุ้ยหลินซาบซึ้งใจยิ่งนัก นึกไม่ถึงในความอ้างว้างโดดเดี่ยวในจวนนี้ นางยังโชคดีที่มีสาวใช้ผู้นี้ “ฮูหยินน้อย อย่าขอบใจข้าน้อยเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยทำตามหน้าที่ และก็...ข้าน้อยนั้นอดที่จะเห็นใจไม่ได้” อาจิงนางเป็นคนจิตใจอ่อนโยนแม้ว่าจะถูกฮูหยินใหญ่ดุด่า ต่าง ๆ มากมาย สาวใช้รุ่นพี่ในเรือนต่อว่านาง นางก็หาได้สนใจอันใดไม่ นางรู้สึกราวกับว่าฮูหยินน้อยนั้นช่างน่าเห็นใจเหมือนกันกับนาง เมื่อมาอยู่ต่างที่เช่นนี้ หากนางเป็นเหมือนคนพวกนั้น ฮูหยินน้อยจะเป็นอย่างไร “เจ้าช่างจิตใจงดงามเหลือเกินอาจิง” กุ้ยหลินฝืนยิ้มให้สาวใช้ผู้นี้ ทั้งสองคนกินซาลาเปาพูดคุยกันไป จนกระทั่งกุ้ยหลินง่วงนอน แต่ทว่าเรือนหอนั้นเกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อเจ้าบ่าวมิได้เข้าหอกับเจ้าสาว และยังต้องเรียกหาท่านหมอกลางดึกอีกด้วย “ท่านพี่ ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ” เมื่อฮูหยินใหญ่เอ่ยปากเช่นนี้ มีหรือที่สามีอย่างขุนนางกวนจะไม่รู้ เรื่องราววุ่นวายในจวนเกิดขึ้นเป็นเพราะว่ารับจ้าวกุ้ยหลินมาเป็นสะใภ้ “จะให้ข้าทำอย่างไร บีบบังคับนางให้หย่าใช่หรือไม่” ขุนนางกวนเอ่ยขึ้นมา สีหน้าแม้จะไม่พอใจภรรยาอยู่บ้าง ที่บางครั้งนางก็ทำเกินกว่าเหตุ กลั่นแกล้งเด็กน้อยคนนั้นก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ดุด่าสะใภ้ แต่เขาก็ใช่ว่าจะชอบหน้าของนาง “ท่านก็เห็นแล้วนี่นางร้ายเพียงใด เมื่อวานเป็นข้าที่ถูกหมามุ่ยเล่นงาน วันนี้ลูกชายข้ากับท่านยังถูกนางแกล้งอีก” กวนฮูหยินนั่งหน้าตาบูดบึ้ง ดึกดื่นแล้วนางยังไม่ได้นอนพัก ยังคงนั่งโต้เถียงกับสามีเพียงแค่ลูกสะใภ้ไร้กำพืดเท่านั้น หากไม่ใช่ว่านางใจดีตกปากรับคำกับฮูหยินจ้าว คิดจะนำเด็กน้อยคนนั้นมาเป็นสะใภ้ เรื่องร้าย ๆ มันก็คงจะไม่เกิดขึ้นเป็นแน่ เพียงแค่เพราะนางอยากตอบแทนน้ำใจที่จ้าวฮูหยินจัดการคนร้ายที่วิ่งราวเงินของนางในตลาด และเห็นเด็กน้อยหน้าตาพริ้มเพราน่ารักน่าเอ็นดู จึงคิดว่านางน่าจะเหมาะสมเป็นลูกสะใภ้ เพราะความปากพล่อยของตนเองแท้ ๆ “หากเจ้าทนไม่ได้ ก็ถามนางเสียสิ อยากให้นางหย่ากับเจ้าลูกชายตัวดี นางอยากได้อะไรเจ้าก็เงินทองให้นาง” ขุนนางกวนเอ่ยขึ้น ยามนี้เขาง่วงนอนเต็มทน จะต้องนั่งถ่างตาพูดคุยกับเรื่องหลังบ้านที่ราวกับว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เรื่องเพียงแค่นี้หากจัดการไม่ได้ และถ้าให้คนอย่างเขาจัดการก็เกรงว่าจะเป็นที่ครหาเอาได้ เขาไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องหลังบ้าน มิสู้ให้ภรรยาจัดการเสียยังจะดีกว่า “ท่านพี่ หากนางเรียกร้องจนเกินไปเล่า ข้ามิต้องให้ตามที่นางต้องการรึเจ้าคะ” กวนฮูหยินมิ อยากจะเสียเงินทองให้ลูกสะใภ้ที่มีแต่ตัว หวังจะหย่าร้างเรียกเงินทองจากนางเป็นแน่ นางยอมให้เงินแต่มันก็ไม่ใช่ง่ายดายนักหรอก ส่วนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนั้นกำลังนั่งอมทุกข์ เมื่อรู้ว่าตนเองถูกเล่นงานเข้าให้ ความแค้นเคืองโกรธเกรี้ยวแทบอยากจะไปเรือนหลังนั้นจัดการสตรีหน้าด้าน เรียกร้องความสนใจจากเขา “ท่านพี่ พรุ่งนี้ท่านต้องจัดการนางให้ข้านะ ข้าไม่ยอมอย่างไรก็ไม่ยอม” โม่อวี้เฟย ยามนี้นางได้กลายเป็นภรรยาของกวนเหวินปินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้จะรู้สึกเสียหน้าที่นางแต่งงานทีหลังสตรีไร้กำพืดคนนั้น แต่นางก็ดีใจยิ่งนักที่คนรักของนางเขาทำตามสัญญาว่า หากเขาแต่งงานกับนาง เขาจะไม่มีวันเข้าหอกับคนอื่นที่ไม่ใช่นาง “ท่านเห็นหรือไม่ สิ่งที่นางทำ ผิวของข้าจึงเป็นเช่นนี้” โม่อวี้เดือดดาลยิ่งนัก มิคิดจะญาติดีกับอีกฝ่าย และมาดหมายว่าอย่าให้เจอหน้าเชียว มิเช่นนั้นนางจะจัดการสั่งสองให้รู้เสียบ้างว่าอย่ามาเก่งกับนาง อีกอย่างคนอย่างโม่อวี้เฟยไม่มีวันยอมอย่างเด็ดขาด กล้าทำนางถึงขนาดนี้ รอก่อนเถิด นางจะสำแดงเดชให้อีกฝ่ายประจักษ์กับตาเอง ผู้หญิงหน้าไหนก็อย่าได้มาเข้าใกล้สามีของนาง “พี่รู้แล้ว พรุ่งนี้พี่จะจัดการไล่ตะเพิดนางไปให้พ้นหน้าดีหรือไม่เล่า” สามีพูดเอาอกเอาใจภรรยาที่เขารักยิ่งนัก อีกอย่างเขาก็ไม่อยากจะเห็นหน้าหรืออยู่ร่วมห้องกับสตรีที่เนื้อตัวมีแต่กลิ่นสาบ และกลิ่นสาบนั้นก็ดูเหมือนจะแรงมากจนเขานึกขยะแขยงยิ่งนัก “ก่อนไล่นางให้พ้นหูพ้นตา ข้าขอสั่งสอนนางให้รู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร” แววตาของอวี้เฟยนั้นดูมุ่งร้ายไม่เบา เกรงว่าพรุ่งนี้คนที่จะถูกทำร้ายน่าจะเป็นสองผัวเมียนี้เสียมากกว่า กุ้ยหลินมิใช่กล้วย ที่ใครคิดจะปอกนั้นดูง่ายดายไปเสียหมด “ได้ พรุ่งนี้พี่ตามใจเจ้า จะตีนาง จะทำร้ายนางอย่างไรพี่ไม่ห้าม ขอเพียงแค่...อย่าให้นางตายก็พอแล้ว เกรงว่าเจ้าจะถูกคนนินทา ครหาเอาได้”  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม