เฮือกกก!!! ร่างของนักร้องดังชาวฮ่องกงลุกพรวดพราดจากเตียงนอนขึ้นมานั่ง เสียงกรีดร้องของเธอดังก้องออกไปจนถึงด้านนอกจนประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมร่างของพยาบาลและทีมงานที่คอยดูแลหญิงสาวต่างพากันมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเตียงคนไข้
“คุณถิงถิงเป็นอย่างไงบ้าง!” ทีมงานที่คอยดูแลเธอถามกลับมาด้วยความเป็นห่วง
ในขณะที่คนถูกถามกำลังนั่งหายใจถี่ๆ ขึ้นลงติดต่อกันจนร่างหอบโยนออกมาจนเห็นได้ชัด ด้วยภาพเหตุการณ์ที่เธอเห็นนั้นยังติดตาไม่ลืมเลือนไปจากความทรงจำแต่อย่างใด
“อย่าเพิ่งถามอะไรเธอเลยนะคะ คุณถิงถิงมีอาการตื่นตกใจกลัวให้พักผ่อนก่อนดีกว่าค่ะ” นางพยาบาลที่คล้ายเป็นหัวหน้าแผนกบอกกับทีมงานที่มายืนรอฟังข่าวอาการป่วยกะทันหันของนักร้องดัง
“คุณพยาบาลคิดว่าเธอจะมีอาการทรุดลงไหมครับ” ทีมงานหันกลับไปถามพยาบาลด้วยความอยากรู้
“สำหรับอาการต้องรอคุณหมอเจ้าของไข้มาตรวจให้แน่ใจอีกรอบค่ะ จึงสามารถบอกได้อย่างชัดเจนระหว่างนี้คุณถิงถิงพักผ่อนให้มากจะดีกว่า” หัวหน้าพยาบาลอธิบายกลับไป
ทีมงานทุกคนภายในห้องต่างพยักหน้าขึ้นลงเมื่อได้ยินคำอธิบายกลับมาเช่นนั้น ในขณะที่นักร้องสาวคนดังค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพลางใช้สายตาสำรวจไปทั่วบริเวณเพื่อให้แน่ใจว่าเธออยู่ที่ไหนกันแน่และสิ่งที่เห็นคือความจริงหรือว่าความฝัน และพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ภายในห้องสีขาวที่ถูกตกแต่งอย่างดี พรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องมือแพทย์อันทันสมัยด้วยนักร้องคนดังถูกส่งตัวมารักษาในโรงพยาบาลดีที่สุดในเซี่ยงไฮ้
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง” หยางเฟยอี้เอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความดีใจของทีมงานที่ได้ยินนักร้องคนดังส่งเสียงออกมา
“ที่นี่คือโรงพยาบาลเอกชนในเซี่ยงไฮ้ครับ คุณถิงถิงมีอาการหน้ามืดและหมดสติไปขณะที่แฟนเพลงกำลังรุมล้อมเพื่อมอบของขวัญและรอรับลายเซ็นจากคุณอยู่ แล้วตอนนี้รู้สึกเป็นอย่างไงบ้างดีขึ้นไหมครับ”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนกค่อยๆ มีสีหน้าคลายลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ที่แท้เราก็ฝันไปนี่เอง! โชคดีที่มันไม่ใช่ความจริงโล่งอกไปที” หญิงสาวพูดพึมพำอยู่คนเดียว
เฮ้อ! เธอถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความโล่งอกที่เหตุการณ์ดังกล่าวเป้นเพียงแค่ความฝันไม่ใช่เรื่องจริง ท่ามกลางสายตาของทีมงานและพยาบาลอีกหลายคนต่างยืนมองด้วยความแปลกใจกับท่าทีดังกล่าวของนักร้องดัง
หยางเฟยอี้เงยหน้าขึ้นมามองอย่างช้าๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับทุกคน
“ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ! ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง สงสัยเป็นเพราะโหมทำงานหนักและไม่ได้พักผ่อนติดกันหลายวัน นอนวันละหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวัน มิหนำซ้ำก่อนจะบินมายังไม่ได้ทานข้าวรองท้องก็เลยทำให้หน้ามืดหมดสติไปอย่างที่เห็น เอาเป็นว่าสบายใจได้นะคะ ถิงถิงโอเคแล้วค่ะแต่ที่จะไม่โอเคคงเพราะตอนนี้หิวข้าวมากเลย” หญิงสาวพูดพลางยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของเธอขึ้นลงไปมา
จ๊อกกก!!! เสียงน้ำย่อยในกระเพาะส่งเสียงดังออกมาจนเธอต้องใช้มือตบขึ้นลงเพื่อให้มันหยุดร้อง
“อือหือ! ร้องดังขนาดนี้ช่างไม่รักษาหน้ากันบ้างเลย” เธอบ่นพึมพำท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคนภายในห้องปรากฏขึ้นบนใบหน้าและโล่งใจเป็นปลิดทิ้ง
“เดี๋ยวผมโทรสั่งอาหารมาให้คุณถิงถิงได้รับประทาน ชอบอะไรเป็นพิเศษบอกมาได้เลยครับ งดอาหารที่ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นหรือจะทานอาหารพวกคีโตดีครับ” เสียงทีมงานเอ่ยถามความเห็นกลับไป
หญิงสาวรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นการใหญ่เมื่อได้ยินอาหารประเภทดังกล่าว
“ไม่เอาค่ะ! ไม่ชอบอาหารพวกนั้นเลย หลงลืมอะไรไปหรือเปล่าคะถิงถิงเพิ่งอายุ 19 เองนะ กำลังกินกำลังนอนและก็กำลังโต ทำไมให้รีบอดอาหารด้วยและให้ทานแต่อาหารคีโต ยอมรับว่ามีประโยชน์แต่ขอเป็นเวลาอื่นแล้วกัน ตอนนี้สั่งอะไรมาถิงถิงกินแหลกไม่เหลือ หิวจนตาลายไปหมดแล้ว” นักร้องดังบอกความต้องการของเธอออกไป
“โอ๊ยตายลืมไปเลย นี่ถ้าคุณถิงถิงไม่พูดก็ไม่ได้คิดถึงข้อนี้จริงๆ ด้วย เอาเป็นว่ารอสักครู่นะครับเดี๋ยวจะรีบจัดการให้เลย” ทีมงานสคนดังกล่าวอาสาอย่างแข็งขันพร้อมรีบหันหลังกลับ ก่อนจะส่งสัญญาณให้ลูกน้องออกไปจากห้องพักคนไข้
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!” หญิงสาวร้องเรียกรั้งเอาไว้
“มีอะไรจะสั่งเพิ่มอีกเหรอครับ” ทีมงานคนดังกลาวหันกลับมาถาม
นักร้องดังนั่งคิดอยู่เพียงครู่ว่าจะถามดีหรือไม่ถามดี แต่เพื่อความแน่ใจจึงตัดสินใจเอ่ยออกไป
“เออ...พวกคุณในที่นี้มีใครรู้จักจวนเดียวดายบ้างไหมคะ” หยางเฟยอี้พูดพร้อมกลั้นใจนั่งฟังรอคำตอบ
และตัดสินใจเอาไว้แล้วว่าถ้ามีชื่อจวนดังกล่าวที่ได้ยินผู้หญิงในความฝันกำชับก่อนร่างจะละลายหายไปมีอยู่จริง เธอจะบินกลับฮ่องกงทันทีอย่างไม่รีรอแม้แต่น้อย
ในขณะที่ทุกคนภายในห้องดังกล่าวรวมไปถึงนางพยาบาลทที่กำลังก้าวออกไปจากห้อง ต่างพากันมองหน้ากันไปมาสอบถามกันให้วุ่นวายว่ามีใครรู้จักชื่อจวนดังกล่าวหรือไม่
“ชื่อจวนประหลาดแบบนั้นคงจะมีแต่ในนิยายเท่านั้นแหลครับคุณถิงถิง ของจริงไม่มีหรอก และอีกอย่างขึ้นชื่อว่าจวนจะมีแต่ระดับเชื้อพระวงศ์ ขุนนางใหญ่และคหบดีผู้มั่งคั่งที่จะเรียกที่อยู่อาศัยของตัวเองว่าจวนแบบนั้น สมัยนี้ไม่มีใครเรียกบ้านตัวเองว่าจวนแบบนั้นหรอกครับ เดี๋ยวนี้พากันเปลี่ยนมาเรียกว่าคฤหาสน์กันหมดแล้ว” ทีมงานอธิบายให้นักร้องสาวอย่างละเอียด จนอีกฝ่ายมีใบหน้าคลายกังวลเป็นปลิดทิ้ง
“ขอบคุณค่ะทุกคน! ตกลงไม่มีเนอะจะได้สบายใจ..โอ๊ยโล่งอก” ประโยคสุดท้ายถิงถิงพูดพึมพำกับตัวเองพลางยกมือลูบหน้าอกของเธอขึ้นลงด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม”
ท่ามกลางสายตาของทุกๆ คนที่เห็นนักร้องดังวัยดรุณีแรกรุ่นแสดงท่าทีออกมาเช่นนั้น ก่อนจะพากันส่ายหน้าไปมา
“วัยรุ่นเขาก็พากันเป็นแบบนี้แหละ ได้ยินอะไรแปลกๆ ก็มักจะชอบถามผู้หลักผู้ใหญ่อย่างเราเพื่อจะได้ความรู้กลับไป ว่าแต่ชื่อจวนเดียวดายก็เพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรกนี่แหละ คนบ้าอะไรตั้งชื่อจวนตัวเองแบบนั้น ทำอย่างกับว่าตั้งอยู่โดดเดียวกลางสุสานอย่างนั้นเลย”
เสียงพูดคุยของทางทีมงานได้ยินอย่างชัดเจน ทำให้คนฟังที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ยิ่งมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นไปอีกว่า ว่าชื่อดังกล่าวไม่มีจริงอย่างแน่นอน
“ก็แค่ความฝัน! ไม่ใช่ความจริงเสียหน่อย พวกเขาก็พูดถูกใครบ้าที่ไหนจะมาตั้งชื่อจวนตัวเองแบบนั้น สงสัยต่อไปนี้จะต้องกินอาหารให้ตรงเวลาและพักผ่อนให้มากกว่านี้ จะได้ไม่ต้องฝันอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้แบบนี้อีก...เฮ้อ! สบายใจจังเลย”