ตอนที่ 1
“ซี๊ดดด...พี่ดล...มะลิเสียวจังเลย...อ่าส์...อุย...อูย”
เสียงครางกระเส่าดังมาจากหลังพุ่มไม้ในสวนหลังบ้านติดริมแม่น้ำขณะที่สองหนุ่มสาววัยรุ่นยังไม่แตะยี่สิบยืนกอดจูบลูบไล้กัน มะลิลา หลานสาวคนสวยวัยสิบแปดของเจ้าบ้านยืนบิดกายไปมาและปล่อยให้ ธดล เพื่อนชายที่หล่อนชวนมาเที่ยวบ้านในวันหยุดเชยชมเรือนร่างอวบอิ่มของหล่อนด้วยการดูดปาก ซุกไซ้ผิวขาวสวยไปตามลำคอและล้วงควักเข้าไปใต้ชายเสื้อของหล่อนตามอำเภอใจ ธดลเป็นหนุ่มวัยเดียวกันกับมะลิลา
“มะลิจ๋า...แล้วนี่ลุงกับป้าของมะลิไม่อยู่แน่นะจ๊ะ ถ้าเกิดมีใครมาได้ยินล่ะเรื่องใหญ่แน่ ๆ เลย”
ธดลกระซิบกระซาบขณะมือไม้ไม่อยู่นื่ง ทั้งล้วงทักควักในเสื้อของเพื่อนสาวที่พึ่งชวนเขามาเที่ยวบ้านหล่อนเป็นครั้งแรก
“ไม่มีใครหรอกดล...ซี๊ดดด....อ่าส์...วันนี้ลุงพาป้าไปธุระกว่าจะกลับเราก็มีความสุขกันไปหลายรอบล่ะมั้ง”
“มะลินี่กล้าจริงๆ...ไม่นึกเลยว่าวันนี้ดลจะได้มีโอกาสอย่างนี้กับมะลิ...ซู๊ดดด”
ธดลซู๊ดปากด้วยความกระสันเมื่อล้วงมือเข้าไปใต้ชายเสื้อแล้วเคล้นเต้าของมะลิลาให้มันสั่นในมือหยาบหนาแถมใหญ่ได้ใจของเขา แต่สองเต้าอวบของหล่อนใหญ่กว่ามือเขาเสียอีก มะลิลาหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน
“มะลิอยากชวนดลมาเที่ยวที่บ้านนานแล้ว มะลิชอบดลนะ...อืม...ดลทั้งตัวใหญ่น่ากอด เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนด้วย แบบนี้อะไรๆก็คงแข็งแรงไปหมดแน่เลย”
หล่อนเอ่ยชมเพื่อนชายที่ตั้งใจชวนมาเล่นเสียวที่บ้านเพราะมะลิลาเป็นโรคแพ้ผู้ชายกล้ามใหญ่ ธดลเป็นนักกีฬาของโรงเรียนจึงทำให้สัดส่วนของเขาบึกบึนเกินกว่าเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกันแถมยังหน้าตาดี ทั้งสองเป็นเพื่อนที่ไม่สนิทกันเท่าไหร่แต่เรียนอยู่ห้องเดียวกันและเมื่อเรียนจบมะลิลาได้พบกับธดลตอนสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ได้คุยกันถูกคอกันหลาย ๆ เรื่อง หล่อนเองก็เป็นเด็กในปกครองของลุงกับป้าเจ้าของบ้านหลังใหญ่ริมคลองที่รับเลี้ยงหล่อนมาแต่ยังเล็ก มะลิลาเป็นสาวเซี้ยวและก๋ากั่น หล่อนแร่ดเงียบ ภายนอกในสายตาของเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันหล่อนเป็นสาวหวานเรียบร้อยไม่มีปากเสียงกับใครแต่เบื้องหลังชอบชวนเพื่อนชายมาเล่นสนุกกันที่บ้าน โดยเรื่องนี้ถูกเก็บเป็นความลับอย่างดี หล่อนฟันเพื่อรร่วมรุ่นเดียวกันหลายคนแล้ว และทุกคนต่างติดใจในลีลาของหล่อนทั้งสิ้น และธดลก็เป็นรายต่อไป เมื่อพูดคุยกันถูกใจหล่อนจึงแกล้งชวนเขามาเที่ยวที่บ้าน ธดลไม่ขัดข้องแต่เขาก็แอบกลัวว่าลุงกับป้าของมะลิลาจะมาพบเข้าก็เท่านั้น
“ไม่ต้องกลัวนะดล ป้ากับลุงยังไม่กลับมาง่าย ๆ หรอก โน่นแน่ะ...กว่าจะกลับก็เกือบค่ำ ทั้งสองคนชอบไปไหว้พระทำบุญที่วัด บางทีก็ไปบ้านเพื่อน”
เลยเป็นการเปิดโอกาสให้หล่อนได้พาเพื่อนชายมาเล่นสนุกด้วยกันบ่อยครั้ง ไอ้เรื่องสนุกที่ว่าก็ไม่พ้นเรื่องใต้หว่างขาซึ่งเป็นธรรมดาของธรรมชาติหนุ่มสาวเวลาเกิดความกลัดมันขึ้นมา ทั้งสนุกและเร้าใจ ธดลยิ้มกริ่ม
“ถ้าอย่างนั้นเราก็สนุกกันได้เต็มที่เลยสินะ”
“ว๊าย! นั่นดลจะทำอะไรน่ะ”
หล่อนร้องตกใจเมื่อธดลถอดเสื้อของเขาออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อของนักกีฬาหนุ่มที่ทำให้มะลิลากลืนน้ำลายแทบไม่ลงคออันแห้งผาก หญิงสาวแกล้งร้องอุทานไปอย่างนั้นแต่ก็อดที่เลียปากตัวเองเหมือนกำลังหิวกระหายไม่ได้ พอถอดเสื้อออกแล้วธดลก็ถอดกางเกงของเขาออก ถอดกระทั่งกางเกงชั้นในและยืนจังก้าเปลือยกายแบบไม่อายฟ้าดิน มะลิลาแสร้งทำหน้าเหมือนหวั่นกลัว
“ดลเนี่ย...ทำอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้”
ธดลยกยิ้มมุมปาก “แบบนี้มะลิชอบนี่ไม่ใช่เหรอ เปิดเผยให้เห็นกันจะ ๆ ไปเลย เพราะถึงยังไงตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่บ้าน ว่าแต่มะลิชอบหรือเปล่าล่ะ ไอ้ขนาดแบบนี้น่ะ”
ธดลยักคิ้วหลิ่วตาขณะยืนเอามือเท้าสะเอวตรงหน้าหญิงสาว มะลิลาแกล้งทำเป็นเขินอายทั้งที่หล่อนก็ผ่านเรื่องแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ธดลมีอะไรแตกต่างจากเพื่อนหนุ่มคนอื่นของหล่อน ต่างกันยังไงน่ะเหรอ ก็ต่างกันตรงที่เขาทั้งบึกบึน ไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อบึกบึนน่ามองแต่เครื่องเพศของเขายังไม่เป็นสองรองใคร ขนาดของมันที่กำลังผงาดเหยียดยาวนั้นอลังการจนหล่อนน้ำลายเกือบไหล วัดขนาดท่อนเนื้อห่อหุ้มด้วยหนังหยุ่นโปนปูดด้วยเส้นเอ็นแล้วน่าจะประมาณเก้านิ้วเห็นจะได้ ถ้ายาวและใหญ่มากกว่านี้หล่อนคงแทบกลั้นใจเลยทีเดียว
บทที่ 2
ขณะนั้นเองที่สองหนุ่มสาวกำลังยืนประจันหน้ากัน อีกด้านหนึ่งของบ้าน เทพไท เจ้าของบ้านวัยห้าสิบก็เดินออกมาที่สวนด้านหลัง เขายืนเกาหัวแกรก ๆ ที่หลังห้องครัวหลังจากกลับบ้านมากะทันหันเพราะลืมของเอาไว้ ปล่อยให้เมียของเขาอยู่บ้านเพื่อนไปก่อน ชายวัยกลางคนชะเง้อมองเหมือนหาอะไรอยู่
“เอ...มะลิมันหายไปไหน ไหนบอกว่าอยู่บ้าน พอกลับมาไม่เห็นมีใครสักคน...อืม...หรือว่าอยู่ที่สวนหลังบ้านเนี่ย”
ว่าแล้วก็ดับความสงสัยของตัวเองด้วยการเดินเข้าไปในสวน เขาเดินไปแบบเงียบกริบกระทั่งได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน เทพไทนึกเอะใจแปลกๆ พลางก็รำพึงกับตัวเอง
“เอ...หรือว่ามะลิจะอยู่หลังบ้าน แต่เมื่อกี๊เราเห็นรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หน้าบ้านคันหนึ่ง หรือว่าจะเป็นของเพื่อนมะลิมัน”