บทที่11 ป่าหิมวันต์

1970 คำ
จ้าวจักราคุยกับสมิงพระเสร็จกำลังจะเดินกลับเข้าถ้ำ แต่กลับได้กลิ่นธูปลอยมาจึงพูดขึ้นเบาๆว่า "ขอให้เปิดทางให้รึ ข้ายังไม่เปิดให้หรอกยังไม่ถึงเวลาของพวกเจ้า มันยังเป็นเวลาของข้ากับเมียข้าอยู่" จักราพูดขึ้นอย่างรำคาญใจ "ท่านจ้าวเจ้าข้า ปล่อยนายหญิงกลับออกไปเถิดเจ้าข้า" สมิงพระพูดขอร้อง "พอได้แล้วสมิงพระ หยุดพูดแล้วกลับไปทำหน้าที่ของเจ้าได้แล้ว" จักราพูดออกคำสั่งกับสมิงพระ สมิงพระจึงหยุดพูดและกลับไปทำหน้าที่ของตนเอง จักราจึงเดินกลับเข้าไปในโถงถ้ำเพื่อเข้าไปหาเมริกาอีกครั้ง "เมย์ เตรียมตัวเถอะพี่จะพาไปเที่ยวเล่นอย่างที่เจ้าเคยชอบ" จ้าวจักราพูดเชิญชวนเมริกาน้ำเสียงเอาอกเอาใจเมียอย่างมาก "ค่ะ " เมริกาตอบรับและลุกขึ้นยืนพอดีกับที่นางไม้ชบาทำผมให้เมริกาเสร็จแล้วพอดี "ท่านจ้าวจะพานายหญิงไปที่ใดหรือเจ้าคะ" นางไม้ชบาถามแต่กลับได้รับสายตาคมดุสีทองเป็นคำตอบกลับมา "อุ๊ย ลืมไปไม่ใช่กิจของนางไม้" นางไม้ชบาพูดออกมาเองแบบรู้ตัวว่าไม่ควรถามนายเหนือหัว จักราพาเมริกาเดินลัดเลาะออกจากถ้ำไปยังป่าหนาทึบทางทิศเหนือของถ้ำ "อีกไกลไหมคะกว่าจะถึง" เมริกาถามจักรา "ข้างหน้าของเจ้านี่แหละ จะถึงแล้ว" จักราตอบยิ้มๆ "ฉันได้ยินเสียงน้ำ" เมริกาพูดและหยุดคิด "มันคือเสียงน้ำตกหรือเปล่าคะ" "พี่ไม่บอก เจ้าเดินไปดูเอาเองเถิด" จักราตอบยิ้มๆ ทำให้เมริกาส่งค้อนคมมาให้และออกเดินไปดู "เดี๋ยวเถอะทำท่าทางแบบนี้ใส่พี่ เจ้าจะโดนอย่างที่เคยโดน" จักราพูดพร้อมทำท่าทางยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำให้เมริการีบเดินเร็วๆ ไปตามเสียงน้ำเหมือนต้องการเดินหนีจักรา เมื่อเดินไปถึงเมริกาก็ถึงกับตกตะลึงในความสวยงามของภาพเบื้องหน้าที่ตนเองได้เห็น "สวยจังเลยค่ะ สระน้ำที่นี่ทำไมน้ำถึงได้ใสเป็นสีมรกตแบบนี้ มีน้ำตกด้วย สวยจังเลยเมย์ไม่เคยเห็นที่ไหนจะสวยเท่ากับที่นี่เลยค่ะ ที่นี้มีชื่อไหมคะ" เมริกาตื่นเต้นกับภาพตรงหน้าและร้องถามจักราออกไป "มี สระนี้ชื่ออโนดาต สระนี้มีภูเขาล้อมรอบ 5 ลูก น้ำตกที่เจ้าเห็นมาจากภูเขาคันธมาทน์ ที่เรายืนอยู่นี้เป็นฝั่งทิศเหนือ เป็นที่อยู่ของพวกยักษ์และราชสีห์ ถ้าเดินตามลำธารนี้ไปจะไปเจอดินแดนปากแม่น้ำสีหมุข เป็นดินแดนที่อยู่ของพ่อและแม่พี่เอง" จักราตอบคำถามของเมริกา "ปากแม่น้ำสีหมุขหรือคะ ที่นั่นมีหมู่บ้านด้วยหรือคะ" เมริกาถามจักราอีก ด้วยความอยากรู้อยากเห็น "มีสิ ที่นั่นเป็นดินแดนกายสิทธิ์หรือดินแดนบังบด แต่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเจ้ามากเท่าใดหรอกแค่เจ้ามองไม่เห็น ที่บ้านของพ่อแม่พี่ก็อยู่กันเป็นครอบครัว ผู้คนที่นั่นยึดมั่นในคำพูด ยึดมั่นในศีลธรรม ทุกวันพระเขาจะใส่ชุดขาวไปถือศีลและฟังธรรมะจากพระอริยเจ้าเป็นประจำ เจ้าอยากไปหรือไม่พี่จะพาไป" จักราพูดเล่าให้เมริกาฟังพร้อมกับพูดเชิญชวนให้ไปเที่ยวบ้านพ่อแม่ของตัวเองด้วย "ไปได้หรือคะ เมย์อยากไปค่ะ" เมริกาตอบน้ำเสียงตื่นเต้น ความอยากเที่ยวทำให้ลืมเรื่องที่ต้องกลับบ้านไปหาพ่อแม่ไปเสียเลย "ไปได้ ไว้พี่จะพาไปเจอแม่ของพี่ แม่พี่ก็เป็นเช่นเดียวกับเจ้านั่นแหละ" จักราพูดยิ้มๆ ชั่วครู่ต่อมาเมริกาก็เห็นเหล่าผู้หญิงมีปีกบินได้บินลงมาเล่นน้ำ เมริกาจำได้ว่าผู้หญิงเหล่านั้นบางคนได้ไปรำมโนราห์ในเธอดู จึงถามจักราด้วยความตื่นเต้น "คุณ ผู้หญิงคนนั้นมีปีกเหมือนนกเลยค่ะ และผู้หญิงคนนั้นเขาเคยไปรำมโนราห์ให้ฉันดูด้วยค่ะ" เมริกาชี้ให้จักราดูท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก "พี่เรียกนางเหล่านี้ว่านางกินรี พวกนางเป็นเทวีปักษีมีความสามารถในการร่ายรำได้สวยงามมาก ก็คนที่เจ้าเห็นมารำมโนราห์ให้เจ้าได้ชมนั่นแหละ" จักราพูดบอกเมริกาเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เขาเห็นอยู่ทุกวัน "กินรีหรือคะ กินรีคือนางมโนราห์ที่ฉันเคยเรียนภาษาไทยเรื่องพระสุธนกับนางมโนราห์นะหรือคะ อะไรกันฉันอยู่ที่ไหนกันนี่" เมริกาถามจักราและรำพึงพูดกับตัวเองคนเดียว "คงจะเป็นเช่นเจ้าพูด แต่พี่ไม่รู้หรอกนะว่านางใดที่ชื่อนางมโนราห์ของเจ้า" จักราตอบ "ว้ายคุณนั้นมันเสือ เสือคุณ แต่ทำไมเสือมันมีปีกเล่าคะ" เมริการีบหลบมาอยู่ด้านหลังของจักราด้วยความกลัวและตกใจเมื่อเห็นสัตว์รูปร่างแปลก บินร่อนลงมาดื่มน้ำในสระ ตัวเป็นเสือลำตัวลายสลับเหลืองแต่มีปีกแบบนก "ไม่ต้องกลัวหรอกเมย์ มันไม่ทำอะไรเจ้าหรอก มันคือเสือปีก ครั้งหนึ่งมันเคยพาเจ้ามาให้เจ้าได้พบกับพี่ เจ้าคงลืมไปแล้วไว้พี่จะเล่าให้เจ้าฟัง" จักราพูดบอกเมริกายิ้มๆเมื่อนึกถึงความหลังครั้งก่อน "เสือปีกหรือคะ ทำไมสัตว์และสิ่งมีชีวิตที่นี่ถึงได้มีรูปร่างประหลาดๆ ทั้งนั้นเลยล่ะคะ" เมริกาถาม "ที่เจ้าว่าประหลาดเจ้าหมายรวมถึงผัวของเจ้าด้วยหรือไม่" จักราถามยิ้มๆ "ค่ะ นับว่าประหลาดด้วยเหมือนกันค่ะ" เมริกาตอบ "ยอมรับว่าพี่เป็นผัวแล้ว งั้นเมย์ก็เรียกพี่ว่า พี่จักร ได้แล้วสิใช่หรือไม่" จักราถาม "ใครยอมรับกันคะ เมย์แค่หมายถึงคุณก็เป็นคนแปลกประหลาด" เมริกาพูดเสียงเบาด้วยความเขินอาย "ไม่เป็นไรยังไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร สงสัยพี่คงต้องทำบ่อยๆ เจ้าจะได้จำได้ว่าพี่เป็นผัวเจ้า" จักราพูดยิ้มๆ "คนบ้า" เมริกาว่าจักราและสบัดหน้าหนี "คนบ้าที่ไหนกัน พี่มิใช่มนุษย์เยี่ยงเจ้าหรอก" จักราเถียงสีหน้ายิ้มๆ "งั้นก็เป็นเสือบ้าแทนก็แล้วกันค่ะ" เมริกาพูดและส่งค้อนให้อีกวงใหญ่ "เอาละๆ พี่ไม่แกล้งเจ้าแล้ว เราเดินไปทางโน้นกันเถอะพี่จะพาเจ้าไปดูดอกไม้ พรรณไม้ต่างๆ ทางโน้น" จักราพูดเชิญชวน "เดี๋ยวก่อนสิคะ เมย์อยากดูเหล่ากินรีเล่นน้ำก่อนดูแล้วเพลินจัง เมย์อยากเล่นน้ำในสระนี้ด้วยจังเลยเล่นได้หรือเปล่าคะท่านจ้าว" เมริกาถามจักราเสียงอ้อนเพราะอยากลงไปเล่นน้ำ "เล่นได้แต่พี่ไม่ให้เจ้าลงไปเล่นหรอก สระนี้จะมีพวกวิทยาธร ยักษ์ นาค เทวดาทั้งหลายลงมาอาบน้ำ อีกประเดี๋ยวคงจะมีพวกกินนรตัวผู้มาเกี้ยวพาราสีนางกินรี ไหนจะพวกคนธรรพ์ที่ชอบเล่นพิณเครื่องดนตรีเจ้าคนพวกนี้คารมดี พี่กลัวว่าถ้ามันมาเห็นเมียของพี่เข้ามันจะพากันหลงใหลมาเกี้ยวเมียพี่ ไม่เอาหรอกพี่ไม่ให้เจ้าลงไปเล่น" จักราพูดเสียงหนักเพราะอาการหึงหวงเมียของตนเอง "แต่น้ำในสระมันใสมากเลยเมย์อยากเล่น ท่านจ้าวก็ลงไปเล่นเป็นเพื่อนเมย์สิคะ" เมริกายังคงอ้อนขอลงไปเล่นน้ำ "ไม่ได้ ไว้ไปเล่นที่ถ้ำทองของเราเถอะนะมันเป็นส่วนตัวไม่ต้องลงไปเล่นรวมกับใคร แล้วเจ้ารู้หรือไม่ที่น้ำในสระมันใสเพราะอะไร" "เพราะอะไรละคะ" "ก็เพราะว่าพื้นสระอโนดาตเป็นแผ่นหินกายสิทธิ์ ชื่อมโนศิลา บริเวณที่เป็นดินก็เป็นดินกายสิทธิ์ชื่อหรดาล น้ำมันถึงได้ใสแจ๋วสะอาดอย่างไรเล่า แต่พี่ไม่ให้เจ้าลงไปหรอกไว้ตอนเย็นพี่จะพาไปเล่นที่สระส่วนตัวของพี่รับรองสวยไม่แพ้ที่นี่หรอกนะ เจ้าอย่าดื้อดึงไปเลยพี่ว่าเราไปนั่งเล่นพักผ่อนในสวนดอกไม้กันดีกว่า ประเดี๋ยวพี่จะหาลูกไม้ให้เจ้ากินด้วย" จักราบอกกับเมริกา "ก็ได้ค่ะไว้ไปเล่นตอนเย็นก็ได้ ท่านจ้าวห้ามหลอกเมย์นะ" เมริกาพูดและเดินตามจักราไปยังสวนดอกไม้ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสระอโนดาต "โอ้โห......ดอกไม้ที่นี่สีสันแปลกตาสวยจังเลยค่ะ เมย์ไม่เคยเห็นเลย ดอกอะไรคะนี่เหมือนไข่ดาวเลย กลิ่นก็หอมมากด้วย" เมริกาพูดถามเมื่อจักราพามานั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่กำลังออกดอกสวยงามบานสะพรั่งเต็มต้น "เขาเรียกดอกบุนนาคเจ้าไม่เคยเห็นหรือ แต่พี่ว่าเจ้าเคยเห็นนะแค่จำไม่ได้ รอให้ดอกปาริชาตบานเสียก่อนเถิดพี่จะเอามาให้เจ้าได้ดมกลิ่นของมันเผื่อความจำของเจ้าจะคืนกลับมา" จักราพูดบอกเมริกาที่กำลังตื่นตากับดอกไม้นานาพันธุ์ "แล้วดอกขาวๆ อันนี้ละคะดอกอะไรหรือคะท่านจ้าว" เมริกาถามจักราอีก "เขาเรียกดอกโกสุม ลูกของมันก็กินได้นะเป็นโอสถรักษานางที่ไม่สามารถมีลูกได้ เจ้าอยากลองกินดูหรือไม่เผื่อว่าเราจะได้......" จักราถามขึ้นน้ำเสียงกรุ้มกริ่ม "ไม่ค่ะ ไม่กินค่ะ" เมริการีบพูด "เจ้าหิวหรือไม่ พี่จะหาลูกไม้ให้เจ้ากิน" จักราถามเมริกาด้วยความเป็นห่วง "ไม่ค่อยหิวหรอกค่ะ แต่เมื่อวานกินผลไม้ที่ชบาหามาให้แล้วมันรู้สึกอิ่มมีแรงมาก อิ่มกว่ากินข้าวเสียอีกนะคะเหมือนได้น้ำเกลือหรือฉีดวิตามินเข้าไปเลยค่ะ เมย์อยากกินอีกท่านจ้าวหาให้เมย์กินหน่อยสิคะ" เมริกาบอกจักรา "ได้สิ เจ้านั่งรอพี่อยู่ตรงนี้สักครู่พี่จะไปเก็บผลไม้มาให้เจ้ากิน" จักรารับคำ เมื่อบอกเมริกาเสร็จจักราก็หายไปและกลับมาพร้อมกับผลไม้ในมือ "ผลไม้ของเจ้า กินเสียสิ" จักราส่งผลไม้ในมือให้เมริกา "ลูกอะไรหรือคะ" เมริกาถาม "ผลมะเดื่อ ผลสุกมันจะมีรสหวานหอมและกินนุ่มลิ้นเจ้าลองชิมดู" จักราบอกเมริกา เมริกาจึงรับผลมะเดื่อมากิน เมื่อกินจนอิ่มแล้วเมริกาก็นั่งเล่นชื่นชมธรรมชาติรอบๆตัว จนจักราชวนกลับ "กลับกันได้แล้ว ไว้วันหลังพี่จะพามาเที่ยวใหม่" จักราชวนเมริกากลับ "ค่ะ" เมริการับคำและลุกขึ้นเดินตามจักราไป "ท่านจ้าว ตอนมาเหมือนเราจะมาทางนี้นะคะ แล้วทำไมไม่กลับทางเดิมเราไม่กลับถ้ำกันหรือคะ" เมริกาถาม "แล้วใครบอกเจ้าว่าพี่จะพาเจ้ากลับถ้ำ พี่จะพาไปหาแม่กับพ่อของพี่ต่างหาก" จักราพูดยิ้มๆบอกเมียของตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม