บทที่ 9 ทำงานสะบักสะบอม

1219 คำ
กว่าจะได้ความตามที่สวีเสี่ยวถงต้องการแสงแดดก็อ่อนแล้ว นางจึงรีบพาโหลวซีห่าวกลับตัวอำเภอ “เชิญท่านนายอำเภอกลับได้แล้ว เดินทางค่ำมืดเกรงจะอันตรายเจ้าค่ะ” นางพาเขาควบม้าอย่างเร่งรีบกระทั่งถึงหน้าประตูเมืองในเวลาก่อนประตูปิดไม่ถึงครึ่งเค่อ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยถาโถม ก่อนไปเขาได้กินเพียงบะหมี่ชามเดียว จากนั้นนางก็มีแต่จิบน้ำชาและจัดการธุระของนางไป โหลวซีห่าวทำทีเข้มแข็งเดินเข้าไปในจวนแต่พอบ่าวรับใช้ปิดประตูจวนเขาก็รีบเรียกคนให้มาประคองทันที “เหล่าชุย ช่วยประคองข้าที ข้าจะก้าวขาไม่ออกอยู่แล้ว” บ่าวรับใช้ที่ติดตามมาจากเมืองหลวงรีบเข้าไปช่วยประคองโหลวซีห่าวไปยังห้องโถง “โอ๊ะๆ โอ๊ยๆ เจ้าเบาๆ หน่อย ขาข้าแข็งไปหมดแล้ว” เขาบ่นโอดโอยจนมารดาที่เดินออกมาพร้อมสาวใช้รู้สึกแปลกใจ “เจ้าไปทำอันใดมา? เหตุใดจึงดูสะบักสะบอมเช่นนี้?” โหลวซีห่าวไม่ตอบคำถาม เขารีบยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบมือไม้สั่น ดื่มจนหมดแล้วยังชี้ไปที่ถ้วยน้ำชาทำให้สาวใช้รีบออกไปเอามารินให้เต็มถ้วย ชายหนุ่มรีบร้อนเป่าและดื่มเข้าไปจนหมดอีกครั้ง “ของว่างล่ะ ไปหามาให้ข้ากินที” “แม่เตรียมไว้ให้แล้ว” เลียวฮูหยินหันหลังไปยกจานขนมนึ่งในถาดออกมาวางบนโต๊ะ โหลวซีห่าวหยิบตะเกียบคีบเข้าปาก เขาเคี้ยวอย่างรีบเร่งราวกับตายอดตายอยากจนมารดารู้สึกแปลกใจ เหล่าชุยนั่งยองๆ นวดขาให้คุณชายของตนอย่างเอาอกเอาใจ “โอ๊ย!!! เบาแรงกว่านี้นิด” ชายหนุ่มอ้าปากบอกก่อนจะกัดขนมนึ่งเข้าไปอีกคำหนึ่งเคี้ยวอย่างรวดเร็ว” “เจ้าอย่าคิดเข้าไปมากนัก ประเดี๋ยวก็จะกินอาหารอีก เดี๋ยวจุกอกตายกันพอดี” เมื่อชายหนุ่มกินขนมนึ่งไปได้สามชิ้น สีหน้าของเขาก็ดีขึ้น “ข้าเหนื่อยมากขอรับท่านแม่ ปวดขาตุบๆ ไปทั้งสองข้างเลย” เลียวฮูหยินหันไปสั่งบ่าวกับสาวใช้ไปเตรียมน้ำอาบให้ใต้เท้าโหลวที่ห้องของเขาเร่งด่วน แล้วค่อยหันมามองบุตรชาย “เจ้าทำงานหนักเยี่ยงนี้จะไหวหรือ? ร่างกายของเจ้าก็บอบบาง ผู้ใดกันพาเจ้าไปตะลอนทั้งวัน?” “มือปราบหญิงที่ท่านแม่เห็นนั่นล่ะขอรับ นางทำงานเข้มแข็งจริงจังจนข้านึกละอายจำต้องตามนางไปดูท้องที่ด้วยเสียจนทั่ว” “ลูกแม่! เจ้าเป็นถึงนายอำเภอจำเป็นต้องทำขนาดนั้นเลยหรือ? สิ่งใดให้ผู้อื่นไปทำแทนได้ก็ใช้เขาไปเถอะ อย่าลำบากเลยนะ ร่างกายเจ้าคงตรากตรำขนาดนั้นไม่ไหว” โหลวซีห่าวฟังแล้วรู้สึกเหมือนตนเองจะกลายเป็นขุนนางกังฉิน “ไม่ได้หรอกขอรับ ข้ามีหน้าที่ต้องดูแลทุกข์สุขประชาราษฏร์ เป็นหูเป็นตาแทนฮ่องเต้ จึงต้องออกตรวจตราท้องที่บ้างก็สมควรแล้ว เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกข้าก็คงจะลำบากนิดหน่อย” ชายหนุ่มกินขนมนึ่งตรงหน้าจนหมดจาน สาวใช้ก็นำชาร้อนๆ มารินให้อีก เขาดื่มกินจนเต็มท้องค่อยรู้สึกว่าอาการสั่นเมื่อครู่หายไปแล้ว “ให้ข้าอาบน้ำสระผมสบายๆ แล้วอีกสักหนึ่งชั่วยามค่อยตั้งโต๊ะอาหารก็แล้วกันนะขอรับ” “ตามสบายเจ้าเถอะ แม่เองก็กินขนมนึ่งไปบ้างแล้วไม่ได้หิวนักหรอกนะ” เหล่าชุยประคองคุณชายไปยังห้องส่วนตัว ช่วยถอดเสื้อผ้าและเก็บออกมาให้สาวใช้นำไปซักแล้วปล่อยให้เขาแช่น้ำอุ่นตามลำพัง โหลวซีห่าวไม่ชอบให้คนเข้าไปวุ่นวายหากเขามิได้เรียก ชายหนุ่มสระผมพลางคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ แม้จะสระผมเสร็จแล้วเขาก็ยังรู้สึกว่าการแช่น้ำอุ่นวันนี้ช่างมีความสุขกว่าทุกวัน ‘คงเป็นเพราะข้ามัวแต่วนเวียนอยู่กับความทุกข์ใจ จึงมองไม่เห็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ หากว่าเอาใจใส่เรื่องงาน ทำงานจนเหน็ดเหนื่อยกลับมานอนแช่น้ำอุ่นเช่นนี้ก็นับว่ามีความสุขแล้ว’ โหลวซีห่าวสลัดความคิดที่จะครุ่นคำนึงถึงอดีตอันเจ็บปวดในเมืองหลวงอีก เขานึกถึงข้อความสุดท้ายที่บิดาเขียนฝากไว้ให้ก่อนขึ้นแดนประหาร ‘ข้ามีเรื่องมากมายในชีวิตต้องทำ และต้องใช้ชีวิตให้มีความสุขและคุ้มค่าอย่างที่ท่านพ่อได้บอกไว้’ เมื่อเขาแต่งตัวเรียบร้อยออกมายังห้องโถง ท่านแม่ของเขาก็ตั้งโต๊ะอาหารรอไว้พร้อมแล้ว เพราะรู้นิสัยบุตรชายที่เป็นคนตรงต่อเวลานางจึงอุ่นอาหารไว้รอก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากห้องเล็กน้อย ชายหนุ่มกวาดตามองอาหารบนโต๊ะพร้อมกับยิ้มน้อยๆ “ท่านแม่ขอรับ อาหารน่าอร่อยจัง” เลียวฮูหยินดวงตาเป็นประกาย นางรู้สึกยินดีที่การมาอำเภอเชียนเยาของบุตรชายทำให้จิตใจของเขาเบิกบานขึ้น “แม่ไม่ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้มานานเท่าใดแล้ว? รีบกินเถอะเสี่ยวห่าว กินให้เยอะๆ เลยนะ” นางรีบคีบกระดูกหมูอ่อนตุ๋นน้ำแดงของโปรดบุตรชายวางบนถ้วยข้าวของเขา “ขอรับ! ข้าจะกินให้อิ่มแปล้เลย” ชายหนุ่มกินจนอาหารเกลี้ยงจานอย่างที่บอกมารดา เขารู้สึกว่าความเหนื่อยที่ได้มาในวันนี้ทำให้ตนเองกินอาหารได้มากและอร่อยกว่าทุกวัน “แม่ลืมบอกไป ตอนเย็นน่ะ ติงฮูหยินมาบอกว่าเตรียมจัดงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าเอาไว้แล้วที่อาคารใหญ่ที่ว่าการอำเภอ แม่เลือกชุดเอาไว้ให้เจ้าแล้วนะ เดี๋ยวจะซักรีดให้เรียบร้อย” โหลวซีห่าวนิ่วหน้า “ข้าไม่คิดว่าพวกเจ้าจะเลี้ยงต้อนรับข้า ไม่รู้ว่าทำเช่นนี้จะสิ้นเปลืองเกินไปหรือเปล่า?” “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ใต้เท้าต้วนบอกไว้แล้วว่างานนี้พวกเถ้าแก่และคหบดีในเมืองเชียนเยาออกเงินร่วมกันเป็นเจ้าภาพ พวกเขาทำเช่นนี้มาตลอด” “อืม...ถ้าไม่สิ้นเปลืองเงินทางการก็แล้วไปขอรับ” เลียวฮูหยินยิ้มกว้างสำรวจใบหน้าบุตรชาย “ไม่แน่ว่าการที่เรามาตั้งหลักปักฐานที่นี่เจ้าก็อาจจะมีฮูหยินที่รู้ใจคอยดูแลก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นจริงแม่ก็คงจะสบายใจยิ่งนัก” โหลวซีห่าวยกยิ้มมุมปาก “ข้าเรียนท่านแม่แล้วนี่ขอรับว่ายังไม่อยากแต่งงาน ขอทำงานไปเรื่อยๆ ก่อน” ลึกๆ ในใจของโหลวซีห่าวไม่อยากจะให้ผู้ใดรื้อฟื้นอดีตของครอบครัวเขาขึ้นมากล่าวถึง หากว่าเขาแต่งงานกับสตรีในตระกูลใหญ่ย่อมต้องมีปัญหาตามมาแน่ ชายหนุ่มจึงหลีกเลี่ยงการสานสัมพันธ์ การจะมาแต่งงานกับบุรุษที่มีบิดาเป็นนักโทษประหารเช่นเขา ครอบครัวอื่นคงจะรับได้ยากเย็น! *****************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม