เย็นนั้นพวกเขามีทั้งเนื้อไก่ป่าย่างตัวใหญ่ ผัดกะหล่ำปลีและข้าวสวยหอมฉุย คนทั้งสี่ล้อมวงกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ทว่ารอจนดึกดื่น ท่านหมอเกาเมิ่งเจี๋ยก็ยังไม่กลับมา “พวกเจ้าง่วงก็นอนไปเลยนะ” สวีเสี่ยวถงชี้ไปยังที่นั่งยกพื้นสูงข้างหน้าต่าง นางเดินเข้าไปในห้องนอนหยิบผ้าห่มกับหมอนออกมาให้วางไว้ที่นั่งทั้งด้านนอกและด้านใน เหล่าชุยกับเหยาอิงหมิงจึงนอนอยู่ข้างกัน ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคนทั้งคู่ “เจ้ามาที่นี่บ่อยหรือ เหตุใดจึงรู้ว่าข้าวของเก็บไว้ที่ใดบ้าง?” “เจ้าค่ะ ข้าเคยมาสองครั้ง เคยค้างที่นี่ด้วย อาศัยนอนตรงนั้น” นางชี้ไปยังที่นั่งยกพื้นสูงอีกด้านที่อยู่ติดผนัง “ใต้เท้าโหลวง่วงก็ไปนอนเถอะ ข้าจะนั่งรอนางเอง” โหลวซีห่าวพยักหน้าเขาเดินไปขยับหมอนและคลี่ผ้าห่มนอนชิดด้านใน สวีเสี่ยวถงมองคนทั้งสามที่นอนหลับไปแล้ว นางค่อยๆ ถูกความง่วงเข้าครอบงำ ‘ไม่น่ากินไก่ย่างเสียจนอิ่มมากเช่นนี