1
“ถึงแล้วนะฮันนี่ของป๋า” บอกอีกครั้ง พร้อมยื่นมืออวบอูมทาบบนไหล่กว้าง เขย่าตัวสาวน้อยร่างเล็กที่เพียงก้าวขึ้นรถได้ก็เอนตัวซบอิงแอบบ่าเขาและหลับตาพริ้มในทันทีอย่างอ่อนโยน
ปลายมือสั้นอวบจับปอยผมสีดำสนิทเฉกเช่นขนกาน้ำและนุ่มประดุจใยไหมที่รุ่ยร่ายลงมาทัดหลังใบหูให้ด้วยความเอ็นดู ก่อนดวงตาชั้นเดียวเล็กหยีมีแววกังวล เมื่อเห็นใบหน้านวลผ่องค่อนไปทางขาวจนซีด มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตามข้างขมับ
“อือ...อย่ายุ่งน่า คนจะนอน” คนถูกรบกวนยกมือปัดไล่มือที่ป้วนเปี้ยนอยู่บนวงหน้า เปลือกตานุ่มเพียงแค่ขยุกขยิกเป็นการตอบรับ พร้อมคลี่ปากสีชมพูอ่อนๆ ยิ้มเล็กน้อยโดยยังไม่ลืมตาตื่น เธอยังจับแขนอวบอูมของคนยอมพลีไหล่กว้างให้หนุนต่างหมอนตั้งแต่ก้าวขึ้นรถมากอดแนบอก
คนปลุกได้แต่อมยิ้มเล็กน้อย ดึงแขนออกมาวางบนลาดไหล่กว้าง เขย่าร่างแม่คนขี้เซาอีกครั้ง ประกายในดวงตาที่ทอดมองน้ำผึ้งหรือนางสาวมธุรส ชีพอิง สาวน้อยจอมขี้เซา ซึ่งเพิ่งฉลองวันเกิดอายุยี่สิบสองปี พ่วงด้วยปริญญาตรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยมีชื่อในประเทศไทย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความรักใคร่ระคนเอ็นดู
มธุรสเป็นเด็กดีมีความคิดความอ่าน ไม่ว่าทำอะไรมักบอกกล่าวและขอความเห็นจากเขาเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธออยากมาท่องเที่ยวเมืองไกล แม้เขาไม่อยากยินยอม เพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพของสาวน้อยแสนน่ารัก ที่อาจไปเตะตาหนุ่มต่างเชื้อชาติต่างศาสนาคว้าดวงใจไปครอบครอง แต่เมื่อหญิงสาวรบเร้าอ้อนวอนเสียงอ่อนเสียงใสระคนใบหน้าเศร้าหมอง จนเขาซึ่งรักเธอสุดหัวใจต้องยอมแพ้ในที่สุด เพราะมันคือความสุขเมื่อเห็นคนที่รักยิ้มได้
“น้ำผึ้ง”
“ค่า...รู้แล้วค่า น้ำผึ้งตื่นแล้วค่าคุณป๋าขี้บ่น” คนถูกปลุกขานรับเสียงกังวานใสแจ๋ว พร้อมสปริงตัวขึ้นนั่ง สองมือจับไล้ใบหน้านุ่มไพล่ไปจับปอยผมนุ่มสางช้าๆ ให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนชูแขนขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อย ผ่อนความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกล
“แหม...คุณป๋าน่ะ ให้น้ำผึ้งนอนซบอีกนิดก็ไม่ได้ เหนียวตัวไว้ให้ผู้หญิงคนอื่นใช่ไหมล่ะ” พ้อเสียงหวานใส แก้มใสซับสีเลือดฝาดอย่างคนสุขภาพดีป่องออกอย่างกระเง้ากระงอด แต่ประกายในดวงตากลมโตกลับแพรวพราวระยับ ยื่นมือคว้าหมวกแฟชั่นปีกกางออกกว้าง มีผ้าลูกไม้สีหวานผูกมัดเป็นโบขนาดไม่ใหญ่ เวลาเธอจับสวมใส่แล้วทำให้ดูหวานแต่แอบเซ็กซี่นิดๆ
“มีใครเสียที่ไหนกันล่ะ แค่เราคนเดียวก็ยุ่งวุ่นวายไปหมดแล้ว” ยกมือวางทาบบนศีรษะทุยและเขย่าเบาๆ “เรานี่ทุกทีเลยนะน้ำผึ้ง เมื่อไหร่จะหายเสียทีหือ” เพราะเหตุมธุรสขึ้นรถทีไรเป็นต้องหลับ เขาจึงไม่ไว้ใจปล่อยให้หญิงสาวเดินทางไกลเพียงลำพัง กลัวคนไม่ดีฉวยโอกาสทำร้ายขณะเธอไม่มีสติ
“ไม่รู้สิคะ น้ำผึ้งก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เสียหน่อย” หญิงสาวตอบกลับอย่างเซ็งๆ เหมือนกัน ไปเที่ยวแต่ละครั้งไม่เคยได้สนุกกับเพื่อนเลย เพราะไอ้อาการบ้าๆ ที่พอขึ้นรถแล้วต้องรีบหลับตา ไม่เช่นนั้นจะมีอาการมึนงง หายใจติดขัดและปวดมวนในท้อง ปลายมือปลายเท้าเย็นเฉียบ ก่อนอาการสุดท้ายคืออาเจียนจะตามมา เคยกินยาแก้เมารถเมาเรือแล้วก็ไม่ได้ผล
ใบหน้านวลผ่องแบะออก พร้อมผ่อนลมหายใจออกจากปอดอย่างเหนื่อยหน่ายใจตัวเอง ไม่ว่าวิธีการไหนที่เคยได้ยินก็นำมาใช้แล้ว แต่ไม่ได้ผลเช่นกัน อีกอย่างมาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอเห็นภาวัติทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนมีอาการป่วยกระเสาะกระแสะอยู่เนืองๆ ควรมีโอกาสท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง
สองมือนุ่มนิ่มสอดรอบแขนใหญ่ “คุณป๋าไม่เปลี่ยนใจจริงๆ หรือคะ จะอยู่กับน้ำผึ้งแค่คืนเดียวจริงๆ อะ” ช้อนหน้านวลเนียนผิวแก้มใสกิ๊กป่องออกเล็กน้อยขึ้น พร้อมกะพริบตาออดอ้อน
“แน่ใจว่าจะไม่อยู่เที่ยวกับน้ำผึ้งจริงๆ หรือคะคุณป๋าขา อืม...แล้วไม่ห่วง ไม่หวงน้ำผึ้งสาวน้อยแสนสวยคนนี้หรือคะ” เอียงคอเล็กน้อย ยิ้มจนแก้มป่อง ประกายในดวงตาวาววับราวกับแสงพระอาทิตย์ที่สะท้อนแผ่นผืนน้ำทะเลสีเขียวมรกตกว้างสุดลูกหูลูกตา
“ถ้ามีหนุ่มๆ ตาน้ำข้าว หุ่นมาดแมนแอนด์แฮนด์ซั่ม แวะเวียนมาแจกขนมจีบ” ริมฝีปากอิ่มเบ้ไปซ้ายทีขวาที แววตาแพรวพราวระยับ ถูไถใบหน้านวลผ่องกับลำแขนเจ้าเนื้อ “สาวน้อยคนนี้เผอิญตกหลุม...รัก จังบะเร่อด้วย คุณป๋าสุดหล่อจะทนได้หรือคะ ถ้าต้องเสียสาวน้อยช่างจำนรรจาไปน่ะ”
“ให้จริงอย่างที่พูดเถอะ ใครกล้าเข้ามาจีบ คุณป๋ายินดียกให้แถมข้าวสารอีกกระสอบใหญ่เลย” ภาวัติตอบกลั้วหัวเราะในลำคอ เลยได้รับค้อนขวับๆ จากสาวน้อยแก้มใสราวกับแก้มก้นเด็กกลับมา
มือใหญ่ยกขึ้นทาบบนศีรษะแล้วเขย่าไปมาเบาๆ “แต่ไม่รู้จะมีหนุ่มตาถั่วคนไหน มองเห็นเด็กขี้งอนของคุณป๋าเป็นสาวน้อยแสนสวย พอเรียกความสนใจได้นะสิ” กระเซ้าหยอกน้ำเสียงครึกครื้น หน้าตามธุรสไม่ได้สวยเตะตา แต่คนที่เห็นจะสะดุดในความน่ารักมากกว่า จนเขาเกิดความไม่แน่ใจ ให้เธออยู่ที่นี่ตามลำพัง คิดถูกหรือผิดกันแน่
“คุณป๋าน่ะ” มธุรสทำเสียงกระเง้ากระงอด แก้มนวลใสซับสีเลือดฝาดป่องออก พลางค้อนด้วยสายตาพลางย่นจมูกเล็กน้อยใส่ภาวัติ
“งอนแล้ว ไม่พูดด้วยห้านาที” ทำเป็นพูดเสียงเข้ม ทั้งที่รู้ดีว่าภาวัติไม่ได้หมายความอย่างที่พูดเลยสักนิด ขืนใครกล้าแหย็มเข้ามาแจกขนมจีบเธอสิ ได้เป็นเจอดีทุกราย ล่าสุดก็เพื่อนหนุ่มที่แฝงตัวมาเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วง ทำราวกับบ่มเพาะความรู้สึกรักในหัวใจเธอให้สุกงอม แล้วเมื่อมั่นใจว่าความห่วงใยที่มีให้กันและกัน คือความรักพร้อมพัฒนาเป็นครองเรือนได้ ก็เลยกล้าเอ่ยปากขอคบด้วย
มธุรสอดหัวเราะไม่ได้ ยามนึกถึงใบหน้าราวกับโดนผีหลอกของเพื่อนชายที่ถูกหลอกให้ไปเอ่ยปากบอกรักเธอท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วคนที่ถูกเอ่ยบอกรักกลับกลายเป็นสาวอ้วนตุ๊ต๊ะอย่างกับตุ่มสามโคก ถูกกอดรัดฟัดเหวี่ยงราวกับเด็กช่วยตัวเองไม่ได้ ถูกตามติดจนแทบไม่มีเวลาให้หายใจ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไม่มีเวลามาตามตื๊อขอเธอไปเป็นแฟน
“ถึงแล้วใช่ไหมคะ ลงจากรถดีกว่า”
“งอนคุณป๋าแน่หรือน้ำผึ้ง” ถามเสียงนุ่มทุ้ม กลั้นหัวเราะจนพุงพลุ้ยไหวกระเพื่อม รีบก้าวตามแม่สาวขี้งอนลงไปติดๆ โอบแขนรวบร่างอรชรมาแนบชิด “ดีจัง...คุณป๋ากำลังคิดว่าจะให้พ็อกเกตมันนี่น้ำผึ้งเที่ยวสักหน่อย แต่งอนแบบนี้แสดงว่าไม่เอาแล้วใช่ไหม”
“จริงหรือคะ คุณป๋าไม่ได้หลอกให้น้ำผึ้งดีใจเล่นนะคะ” ดวงตากลมโตเป็นประกายสุกใสเบิกกว้าง กลีบปากอวบอิ่มอ้าค้างเกือบหลุดเสียงหวีดร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่เอ๊ะ...ศีรษะทุยเอียงนิดๆ กลีบปากอวบอิ่มสีน้ำผึ้งระเรื่อโดยไม่ต้องแต่งแต้มด้วยลิปสติกขยับไปซ้ายทีขวาที
มันน่าสงสัยอยู่นะ เพราะคุณป๋าขี้เหนียวจะตาย ทุกครั้งที่เธอขอเงิน ต้องอ้างโน่นอ้างนี่สารพัด หรือไม่ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ใจดี ยอมให้เงินเธอเที่ยวละ อย่างนี้ต้องมีอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ มีเงินเที่ยวแล้ว เอาไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าตัวเอง
“ขอบคุณค่ะ คุณป๋าของน้ำผึ้งน่ารักที่สุดเลย” รีบเอาใจอีกฝ่ายไว้ก่อน สองมือเล็กประนมและกราบบนอกกว้างก่อนคลายออกแล้วสอดเข้ากอดแขนใหญ่ เขย่งเท้าเล็กน้อยทาบจมูกโด่งได้รูปบนแก้มอวบอูมทั้งสองข้าง ดวงตากลมโตเป็นประกายใสแจ๋วราวกับลูกแก้วสะท้อนแสงไฟ
“แล้วคุณป๋าจะให้เท่าไหร่คะ” หยุดพูดเล็กน้อย นัยน์ตาพราวระยับอย่างเจ้าเล่ห์นิดๆ
“บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินใช่ไหมคะ ว้าว...คุณป๋าน้ำผึ้งใจดีที่สุดเลย” ลากเสียงหวานนุ่มพลิ้วหวาน กระโดดโลดเต้นเป็นเด็กๆ วงหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มหันรีหันขวางอย่างรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนกับว่าเธอกำลังถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ ที่ไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใด เล่นเอาขนตามเรือนกายลุกชัน
ไม่ใช่จะคิดเข้าข้างตัวเอง ถึงเธอไม่สวยเตะตา รูปร่างอวบอั๋น อกผลมะพร้าว เอวคอดกิ่ว สะโพกดินระเบิดก็เถอะ แต่หน้าตาสดใสน่ารักเรียกสายตาหนุ่มๆ ให้ต้องเหลียวมองซ้ำรอบสองกันเกือบทั้งนั้น แล้วมาต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ มีหรือจะไม่มีคนมองน่ะ