6
“ไม่ตามไปจับเอาตัวมาลงโทษ ชนิดที่ขังไว้ในห้องไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันล่ะไซม่อน” เอ่ยกลั้วหัวเราะในลำคอ ขณะยกสองแขนขึ้นสอดไขว้ระหว่างอก มองเพื่อนสีหน้าและสายตายิ้มๆ ไม่เคยนึกเลยให้ตายสิ ไอ้เพื่อนเจ้าเสน่ห์ที่ผู้หญิงทั้งเมืองให้ความสนใจ จนยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้อีกฝ่ายหันมองถูกผู้หญิงตบหน้า! เสียงงี้ดังเข้ามาในหูเขาชัดเจนเลย
“หรือจะให้ฉันโทรหา...บางคนมาปลอบใจ รักษาพิษรอยฝ่ามือบนหน้าให้ไหม” ผู้หญิงนี่น่ากลัวชะมัดเลย แต่เพื่อนเขาก็ร้ายยิ่งกว่าเสืออยู่นะ ประกายในดวงตาเพื่อนแวบโชนแสง ก่อนจางหายไปเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น จนเขาชักกลัวแทนแม่ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเสียแล้วสิ
“หุบปากและหยุดหัวเราะเลยนะไอ้บ้าเดรก เสือกมาทำไมตอนนี้วะ” ต่อว่าคนที่ยังทำหน้าเป็น หัวเราะหึหึในลำคอเสียงเขียว
“เพราะแกทีเดียวไอ้เพื่อนหอกหัก หมูจะหามดันเอาคานเข้ามาสอดเสียได้ มันน่ากระทืบให้จมดินเสียนัก” ต่อว่าเพื่อนแต่สายตาวาววับกลับมองคนตัวเล็กซึ่งวิ่งตัวปลิว
ไม่มีใครกล้าตบหน้าเขา แต่แม่สาวน้อยแสนหวานกลับกล้า และยังตบถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกันเสียอีก เธอคงไม่รู้เขาไม่ใช่หมูเขี้ยวตันที่จะยอมให้ใครมาทำร้ายได้ง่ายๆ
‘รสชาติหวานล้ำ หอมอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้นานาพันธุ์ติดตราฝังตรึงใจ แล้วยังพยศจัด ชวนตามติด ปราบให้เชื่องเหมือนแมวน้อยช่างคลอเคลีย’
“นั่นไง ยังวิ่งหลังยังไวๆ อยู่เลย ยังตามไปจับเอาตัวมาลงโทษได้นะไซม่อน” มิโอเดรกยังเอ่ยกระเซ้าหยอก เมื่อเห็นเพื่อนรักยังมองตามตาละห้อย ปลายนิ้วยาวใหญ่ยกขึ้นลากไล้ปลายคาง โกรธจริง แต่ไม่ยักจัดอย่างเคย สงสัยจะติดใจแม่สาวตัวแสบนั่นเข้าให้แล้วจริงๆ
“ไม่ต้องมายุ่งเลย เรื่องกำลังดีอยู่แล้วเชียว แต่แกดันสอดเสือกเข้ามาไม่รู้ เวล่ำเวลา มันน่านัก...” สอดมือเข้าในกระเป๋ากางเกง เดินตามมิโอเดรกไปในห้องทำงานด้วยท่วงท่าสบายๆ แต่ยังองอาจกล้าหาญและสง่างามดั่งราชสีห์
“ว่าแต่แกเถอะไหนบอกจะพักไง แล้วทำไมถึงได้แวะเวียนมาป่วนฉันได้” จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อมิโอเดรกเดินทางไปประชุมสัมมนาเรื่องการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในโรงแรม เพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อสายๆ นี่เอง อีกทั้งชายหนุ่มก็โทรมาบอกเขาแล้วจะเข้ามาทำงานเย็นๆ ด้วยจะไปทำธุระส่วนตัวก่อน แต่นี่เพิ่งเที่ยงเอง อีกฝ่ายก็มายื่นหน้าระรื่นขัดจังหวะเขาเสียได้ แม่ง...มันน่าซัดด้วยหมัดตุ้บใหญ่ๆ เชียว
“บอกไว้ก่อนนะโว้ย ถ้าเรื่องที่ทำให้แกมาหาฉันมันไม่สำคัญละก็ ฉันเตะแกแน่” โทษฐานเข้ามาขัดจังหวะเขาจูบแม่ตัวเล็ก ด้วยการยกเท้าขึ้นให้รู้ว่าพูดจริง
“ไม่เกี่ยวกันโว้ย ผู้หญิงเขาไม่ชอบหน้าแกและไม่ชอบจูบของแกนี่หว่า เลยฝากรอยฝ่ามือไว้ให้ดูต่างหน้า ว่าแต่เจ็บมากไหมเพื่อน” มิโอเดรกโต้กลับกลั้วหัวเราะลงคอ อย่างไม่กลัวเพื่อนโกรธ ชายหนุ่มหย่อนร่างลงบนโซฟาตัวนุ่ม ยกขาไขว้กันทอดยาวไปบนโต๊ะ
“แล้วไอ้ที่ตะบึงตะบอนโกรธฉันเหมือนผู้หญิงตอนมีประจำเดือนนี่ ไม่ใช่เพราะผู้หญิงนั่นเรื่องเดียวใช่ไหม ใครกล้ากระตุกหนวด...แมวอย่างแกอีกวะ” คิ้วคมเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ความจริงเขาก็พอเดาออก ไอ้คนที่ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ไม่ดีอยู่เป็นใคร! ชักสงสารเพื่อนรักขึ้นมาตงิดๆ เสียแล้วสิ ช่วงนี้ดวงนารีมาแร้งแรง ถึงได้ทำให้ทั้งเจ็บตัวและปวดหัวตลอดเวลา
“ไม่ต้องมาโยนเรื่องเลย เพราะแกนั่นแหละ” สบถเสียงขุ่น
“อ้าว...มันเรื่องอะไรกัน ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะโว้ย แกนี่ชอบโยนความผิดให้เสียจริง” ถามกลับยิ้มๆ เลิกไหล่เล็กน้อย ตีหน้าเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่นัยน์ตาวาวระยับด้วยกำลังสนุกสนาน
“เออ...ไอ้ตัวแสบ ไม่ยอมรับก็แล้วไป แต่อย่าถึงทีฉันนะโว้ย จะเอาให้แกหัวปั่น กลับขึ้นเตียงตัวเองไม่ถูกเชียว” เชื่อเถอะ เขามีโอกาสเล่นงานไอ้เพื่อนจอมแสบกลับแน่นอน คิดว่าไม่นานนี้ด้วย
“อ้าว...ถ้าแกไม่บอกแล้วฉันจะรู้ได้ไง ไปทำอะไรไว้”
“ฉันเข้าใจผิดไปหรือเปล่าวะ ปกติเห็นเรื่องของแม่สาวนั่น ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องน้อย ชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด ไม่เคยรอดพ้นสายตาพญาเหยี่ยวตก...น้ำ อย่างแกเลยนี่หว่า”
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่มิโอเดรกจะจัดการยายตัวยุ่งไม่ให้มากวนเขาเสียที รำคาญจะตายชักอยู่แล้ว อีกทั้งไม่แน่ใจว่าจะคุมอารมณ์ไม่ให้ทำร้ายอีกฝ่ายได้อีกนานแค่ไหน อย่างหนึ่งต้องยอมรับไม่ใช่ความผิดของนิโกลิน่า ที่ถูกยุยงจากคนใกล้ชิดของเขาเอง พ่วงกับเรื่องอื่นอีกที่ทำให้ใจเขาร้อนรุ่มราวกับถูกไฟลน มันหนักหนาสาหัส ปวดหัวจนอยากหาที่ปลีกวิเวกสักระยะ
“อ้าว! เรื่องอะไรของฉันวะ นั่นมันว่าที่ภรรยานายนะโว้ย เสือกโยนภาระมาให้ฉันซะได้” มิโอเดรกสะบัดศีรษะแรงๆ ถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อนใจหน่อยๆ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาชอบมิใช่น้อยที่ได้ต่อปากต่อคำกับนิโกลิน่า ชอบเห็นหน้าใสๆ แดงระเรื่อ นัยน์ตาลุกวามวาวด้วยความเกรี้ยวกราดยามแพ้คารมเขา รอยยิ้มผุดบนมุมปากหนายามความคิดกระหวัดไปถึงหญิงสาวที่ถูกเอ่ยนาม
“ความจริงลีน่าก็ทั้งสวยและน่ารักดีอยู่นะ รู้จักเอาอกเอาใจแกอีก เธอไม่ดีตรงไหนวะ”
“ไม่ชอบเด็กวัยขบเผาะโว้ย ควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ได้ เวลาไม่พอใจก็อาละวาดอย่างกับเด็กไม่มีความคิด”
“จริง! แล้วเมื่อกี้ ไม่ใช่เด็กหรือไงวะ นั่นก็เด็กชัดๆ นะโว้ย ทั้งอายุและนิสัยคงไม่ต่างจากลีน่าสักเท่าไหร่เลย ฉันว่าแกไม่แค่ปวดหัว แต่จะยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเชือกที่ขมวดพัวพันกันเสียมากกว่า อีกอย่างถ้าลีน่ารู้เข้า เธอคง...”
สะบัดศีรษะแรงๆ อย่างเหนื่อยหน่ายใจ ขนาดเขาตอนแรกก็มั่นใจ อีกฝ่ายไม่น่าจะกลับจากการไปเดินแบบการกุศลในวันนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาคาดผิดถนัด ยายตัวยุ่งจอมตื๊อกลับมาเร็วแถมยังมาป่วนไซม่อนทิ้งปัญหาไว้ให้เขาต้องแก้ไขเสียด้วยสิ
ปลายนิ้วไล้ลูบปลายคาง งานเดินแบบมีเมื่อคืน ที่เขาไปเพราะต้องการบริจาคเงินให้การกุศล ที่ทำให้เจอและปะทะคารมกับนิโกลิน่า
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็...” ตวัดสายตามองคนที่ชนเธอจนกระเด็นไล่จากศีรษะจรดปลายเท้าของพ่อคนหน้าเป็นที่ฉวยโอกาสตอนเธอจะล้มหันกลับมา พร้อมสอดแขนโอบรัดรอบเอวคอดกิ่ว ช่วยไม่ให้ล้มอับอายขายขี้หน้าเหล่าผู้คนที่มาร่วมงาน
“พวกชอบแส่เรื่องของคนอื่นน่ะเอง เขาส่งบัตรเชิญให้มา หรือเสนอหน้ามาตามคำสั่งใครบางคน แต่หน้าอย่านี้คงดีแต่ทำตามคำสั่งของคนอื่นเขานั่นแหละ ไม่มีปัญญามาเองหรอก”
มิโอเดรกคลี่ยิ้มหวาน “เผอิญว่างานนี้มีเด็กไม่รู้จักโต มาโอ้อวดปัญญาอันน้อยนิดต่อหน้าผู้มีเกียรติ” โต้กลับพลางกระชับท่อนแขนบังคับนิโกลิน่า ลีนารา คาเดจีร่ารั้งกายสะโอดสะองพาเดินด้วยท่วงท่าผ่อนคลายและสบายๆ ไปตามเส้นทางทอดยาว สองข้างทางเป็นซุ้มเถาวัลย์และดอกไม้หลากสี
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า จะพาฉันไปไหนนี่ ไอ้คนเฮงซวย ปล่อย!” ขบกัดฟันเอ่ยด้วยความหงุดหงิดกึ่งคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะ พลางระดมทุบตีสลับดึงแกะมือใหญ่ออกจากบั้นเอว
“นึกยังไงถึงได้มาเดินแบบวันนี้ ไม่รู้หรือไงว่าจะทำให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจ แล้วต่อไปก็จะมีพวกผู้ชายตามมาแทะโลม รู้บ้างไหม” แค่นี้ก็ทำให้บางคนคอยตามติดก่อกวนไม่ยอมห่างอยู่แล้ว ไม่รู้จะพูดยังไงดีกับยายเด็กชอบทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังคนนี้ดี