bc

ปราบรักพ่อเลี้ยงศิลา

book_age18+
1.7K
ติดตาม
7.8K
อ่าน
มาเฟีย
like
intro-logo
คำนิยม

ใบหน้าคมก้มลงมองระหว่างเรียวขาสวยที่ตอนนี้อยู่นั่งคร่อมตักแกร่งในท่าหันหน้าเข้าหากันอยู่นานหลายนาที

"ยิ้มบ้าอะไร" เหมยเหมยพูดจบ ศิลาถึงจะละสายตาจากระหว่างขาที่มีเสื้อเชิ้ตของเขาปิดบังไว้เพียงแค่ขาอ่อน ก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับคนบนตักอีกครั้ง

"ใส่อะไรด้านใน ฉันจำได้ว่าฉันเอาแค่เสื้อให้หนูนี่"

"ไม่ได้ใส่" คำตอบของเหมยเหมยทำศิลาต้องก้มลงมองอีกครั้ง มือหนาที่โอบร่างเล็กไว้ ผละออกมา กำลังจะมาจับปลายเสื้อเชิ้ตถกขึ้น แต่กลับโดนเหมยเหมยดึงมือเอาไว้ "จะทำอะไร"

"จะดูว่าไม่ได้ใส่จริงๆ หรือเปล่า"

"ถ้าไม่จริงแล้วจะทำไม"

"ฉันไม่ชอบเด็กขี้โกหก"

"ฉันไม่ใช่เด็กของคุณสักหน่อย"

"ก็จะทำให้เป็นอยู่นี่ไง"

"คิดว่าฉันจะยอมอยู่ในการควบคุมของคุณหรือไง"

"ไม่"

"งั้นก็อย่าแม้แต่จะคิด เราจะนอนด้วยกันแลกกับสิ่งที่ฉันอยากให้คุณทำแค่นั้น ถ้าจะให้อยู่ในสถานะอื่น ฉันไม่เอาด้วย"

"หนูไม่ยอมอยู่ในการควบคุมของฉัน หนูก็ทำให้ฉันอยู่ในการควบคุมของหนูให้ได้สิ"

"..."

"ไหนว่าจะเอาให้พ่อเลี้ยงศิลาหมอบแทบเท้า ฉันอยากจูบเท้าแมวพยศตัวนี้จะตายแล้วคนสวย ทำอย่างปากว่าสักที ฉันรู้ว่าหนูไม่ได้มีดีแค่ปากหรอก...ใช่ไหมคะ หืม"

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1 ลูกแมวอวดดี
ภายในบ้านหลังใหญ่กลางไร่กว้างสุดลูกหูลูกตา พื้นที่ทั้งหมดเป็นของพ่อเลี้ยงศิลา คนที่ชอบเที่ยวดื่มสังสรรค์แต่บางครั้งกลับต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายถึงขั้นกวาดซื้อที่กลางเมืองนับพันไร่มาเพื่อสร้างบ้านอยู่... ตั้งแต่ทางเข้าไร่มาจนถึงบ้านมีบอดีการ์ดคอยดูแลความเรียบร้อยมาตลอดทางนับร้อยๆ คน ถ้าถามว่าทำไมถึงมีการ์ดเยอะขนาดนี้ มันก็เพราะอาชีพของพ่อเลี้ยงศิลาที่ใครๆ ต่างเรียกมันว่า 'มือปืนรับจ้าง' ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือจะออกไปไหนเลยต้องมีคนคอยคุ้มกันอยู่เสมอ ศิลาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินถึงมาทำอาชีพนี้ เขามีธุรกิจที่บ้านทั้งไร่ผลไม้ ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ ทั้งถือหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายที่แต่เหตุผลเดียวที่เขามาทำงานแบบนี้ก็เพราะกฎหมายที่นี่มันทำอะไรพวกคนรวยที่กระทำความผิดไม่ได้ หลายปีก่อน พ่อเขาโดนลอบยิงเสียชีวิตเพียงเพราะขัดผลประโยชน์กับคนใหญ่คนโตที่มีอำนาจอยู่ในมือ เขาในตอนนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากพึ่งกฎหมาย แต่ก็นั่นแหละเพราะกฎหมายที่เป็นเหมือนที่พึ่งสุดท้ายของเขาในตอนนั้นมันช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยสักนิด ไอ้ศิลาที่เคยเป็นแค่วัยรุ่นกระจอกคนนึงถึงต้องมาเป็นพ่อเลี้ยงศิลาในทุกวันนี้... ตั้งแต่มีอำนาจมากพอ เขาเองก็ตามจัดการไอ้พวกเฮงซวยที่ลอบยิงพ่อเขาไปจนหมด ไม่ว่าจะคนว่าจ้าง คนลงมือหรือจะคนดูแลคดีที่รับเงินและปิดคดีพ่อเขาทิ้งไป ศิลาได้ให้บทเรียนคนพวกนั้นไปหมดแล้ว..และตัดสินใจรับงานต่อ เพียงแต่เลือกงานที่ต้องช่วยเหลือคนที่เป็นเหยื่อและกฎหมายมันช่วยไม่ได้จนต้องรอพึ่งกฎแห่งกรรม และแน่นอนกฎแห่งกรรมที่จะสนองให้กับคนพวกนั้นคือเขาเอง "พ่อเลี้ยงครับ บอดีการ์ดที่หน้าไร่แจ้งว่ามีคนมาขอพบ เป็นนางแบบที่ชื่อเหมยเหมยครับ" เสียงโรม มือขวาคนสนิทของศิลา วิ่งเข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ โซฟาที่ผู้เป็นนายกำลังนั่งเอนกายพักผ่อนอยู่ "เหมยเหมย?" คิ้วเข้มขมวดมองหน้าโรมนิ่งๆ อยู่เกือบนาที เหมือนกำลังพยายามคิดอยู่ว่าใช่คนรู้จักหรือเปล่า ทำไมถึงไม่คุ้นชื่อ...หรือจะเป็นเด็กๆ ที่เขาเคยนอนด้วยแต่เขาก็ไม่เคยไปนอนกับนางแบบเลยสักครั้ง แล้วใครกันถึงกล้ามาหาเขาถึงที่แบบนี้ "กูมีคนรู้จักเป็นนางแบบด้วยเหรอวะ" "คุณเหมยเหมย คนที่คุณหญิงนิราเคยมาขอให้เราจัดการเก็บให้แต่พ่อเลี้ยงไม่ได้รับงานไปครับ" "อ่า" เพราะจุดประสงค์เดิมที่ศิลาตั้งมั่นมาตลอด..เขาเลือกรับงานที่ช่วยแค่คนที่โดนรังแกมา แต่กับงานนี้ คนมาขอให้ช่วยเป็นถึงคุณหญิงคุณนาย มีฐานะ มีหน้าตาในสังคม เหตุผลที่มาขอให้เขาจัดการให้ก็เพราะมีปัญหากันส่วนตัว ซึ่งเขาเองไม่อยากยุ่งถึงได้ปฏิเสธงานไป แม้คุณหญิงนิราจะพยายามเสนอเงินให้เขาหลักสิบๆ ล้าน แต่แน่นอนว่าเขาเองก็ยังยืนยันที่จะไม่รับ ถ้าเขาจะจัดการให้จริงๆ แม้ไม่ได้เงินสักบาท เขาก็ยินดีทำแต่ถ้าไม่ ต่อให้วางเงินร้อยล้านพันล้านตรงหน้า เขาเองก็ไม่ทำอยู่ดี... "การ์ดด้านหน้าแจ้งไปแล้วว่าวันนี้วันพักผ่อน พ่อเลี้ยงไม่ให้ใครเข้าพบแต่คุณเหมยเหมยยืนยันจะเข้ามาพบให้ได้ครับ" "มากับใคร ทำไมถึงอวดดี" เพราะไร่เขาเต็มไปด้วยบอดีการ์ดพร้อมอาวุธปืนทุกคน...แล้วทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงถึงได้กล้ามาต่อรองเพื่อจะเจอเขาขนาดนั้น "ขับรถมาเองคนเดียวครับ" "คนเดียว?" "ครับ แจ้งว่าจะขอคุยให้ได้ แถมยังพูดจา..อ่า ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ ตอนการ์ดโทรเข้ามาหาผม คุณเหมยเหมยก็ขอเป็นคนพูดสายเอง" "งั้นก็ให้เข้ามา" พ่อเลี้ยงศิลาเอ่ยจบ โรมก็โน้มหัวให้ ก่อนจะวิ่งออกไปนอกตัวบ้าน ส่วนร่างแกร่งเองก็เอนกายพิงพนักโซฟา หลับตาพริ้มเพื่อพักผ่อนต่ออยู่แบบนั้น... เอี๊ยดดด! ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีก็ได้ยินเสียงรถที่ขับเข้ามาด้วยความเร็ว เบรคจอดตรงหน้าประตูบ้านเขาเสียงดังจนศิลาเองต้องลืมตาขึ้นหันไปมอง ถึงได้เห็นเป็นรถสปอร์ตคันหรูสีดำขับเข้ามาจอดตรงทางเข้าบ้าน เพียงไม่ถึงนาทีก็มีหญิงสาวในชุดเดรสผ้าซาตินสีดำรัดรูป โชว์สัดส่วนก้าวขาลงมาจากรถ ใบหน้าสวยที่ตอนนี้มีแว่นดำใส่ปิดบังใบหน้าอยู่ค่อยๆ ถอดแว่นออก ก่อนจะหันมองเข้ามาหาเขาด้านในบ้าน "ทางนี้ครับ" โรมผายมือเชิญแขกให้เดินตามเข้ามาหาผู้เป็นนายที่ห้องนั่งเล่น ทันทีที่เดินมาถึง ร่างเล็กก็นั่งลงตรงโซฟาตรงข้ามตัวผู้เป็นเจ้าบ้านทันที พ่อเลี้ยงศิลาเองที่ได้เห็นอีกคนชัดๆ ก็ไล่สายตามองร่างสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า... ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ดูจะเป็นคุณหนูไปหน่อยด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้กล้านัก... แล้วเข้ามาหาเขาถึงที่ขนาดนี้ ต้องการอะไรกัน "โดนจ้างมาเท่าไหร่" ร่างเล็กเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ทั้งยังใช้สายตามองมาที่เขานิ่งๆ ...ไม่มีคำทักทาย ไม่มีคำแนะนำตัวและไม่มีรอยยิ้มเป็นมิตรให้เจ้าบ้านเลยสักนิด ทั้งที่เข้ามาอยู่ในถิ่นเขาที่มีแต่บอดีการ์ดผู้ชายหน้าตาน่ากลัวอยู่เต็มบ้าน...หรือแม้แต่ตรงหน้าเขาตอนนี้ก็มีปืนวางอยู่บนโต๊ะ ทั้งตัวพ่อเลี้ยงศิลายังเต็มไปด้วยรอยสักตั้งแต่แผงอกแกร่งจนถึงลำคอ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะนอบน้อมกับเขามากกว่านี้สิ...ไม่ใช่ทำท่าทางอวดดีใส่แบบเหมยเหมยตอนนี้ "หมายถึง?" คิ้วเข้มเลิ่กขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาสั้นๆ "จริงๆ ฉันเองก็พอจะได้ยินชื่อเสียงคุณมาบ้าง ไหนใครๆ ก็เคารพกันนักหนา ถามใครก็มีแต่คนบอกว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนดี เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน คิดไม่ถึงว่าจะร้อนเงินจนมารับงานพวกเมียน้อยชั้นต่ำแบบนั้น" "ถ้าจะคุยก็ตามเข้ามาในห้อง" ร่างแกร่งหยัดกายลุกกำลังจะตรงไปห้องคุยงานที่อยู่ข้างๆ บันไดทางขึ้นชั้นบน แต่ไม่ทันจะเดินไปถึงก็ต้องชะงักฝีเท้าลง... "ไม่ไป จะคุยตรงนี้" "..." คำพูดของเหมยเหมยที่ทำให้ศิลาต้องหันหน้ากลับมาหา สบสายตาร่างเล็กที่มองมาที่เขาด้วยท่าทางอวดดี ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์..สุดท้ายแล้วศิลาก็ต้องกลับมานั่งลงที่เดิม "พูดมาให้เข้าใจ ฉันไม่เคยไปรับงานอะไรแบบนั้น อย่ามากล่าวหากัน" "เบอร์โทรที่คุณหญิงนิราโทรออกล่าสุดบันทึกไว้ชื่อพ่อเลี้ยงศิลา วันก่อนคุณหญิงนิราบอกที่บ้านว่ามาคุยงานแต่กลับเข้ามาที่นี่หลังจากเข้ามาหาคุณได้แค่วันเดียว อีกวันก็มีคนตามไปบุกรุกคอนโดฉัน คุณจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง" "แล้วทำไมฉันต้องอธิบาย" ขาแกร่งยกขึ้นนั่งไขว่ขา ตอบอีกคนออกมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย "ฉันไม่รับงานพวกคุณหญิงคุณนาย ไม่รู้ว่าไปมีปัญหาอะไรกันมา แต่ไปเคลียร์กันเอง" "เคลียร์แล้วค่ะ ตอนนี้คุณหญิงนั่นถึงนอนสลบอยู่โรงพยาบาล จัดการตัวต้นเรื่องเสร็จ คิวต่อไปฉันถึงต้องมาเคลียร์กับคุณ" เหมยเหมยพูดพลางหยัดตัวลุก ตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าพ่อเลี้ยงศิลา ใบหน้าคมของคนที่นั่งอยู่เงยขึ้นสบสายตากับร่างเล็กนิ่งๆ ก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นมือของสาวสวยตรงหน้าที่กำลังอาศัยช่วงเขาเผลอ หยิบปืนของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นและหันปลายกระบอกปืนมาจ่อหัวเขาไว้... "วางปืนลงครับ" เพียงแค่นั้นบอดีการ์ดของบ้านก็วิ่งกรูกันเข้ามาภายในบ้านรวมถึงโรม มือขวาของศิลาที่วิ่งเข้ามา ส่งสัญญาณให้การ์ดทุกคนยกปืนทุกกระบอกหันไปหาเหมยเหมยเป็นทางเดียว "ไม่งั้นผมจะยิงคุณเดี๋ยวนี้ ช่วยวางปืนลงด้วยครับคุณเหมยเหมย" เสียงโรมพูดขึ้น "ออกไปให้หมด" เสียงเข้มจากผู้มีอำนาจสูงสุดของบ้านเอ่ยพลางหันไปพยักหน้าให้กับโรม โรมเองถึงสั่งให้การ์ดทุกคนในบ้านออกไปรวมทั้งตัวเองที่เดินออกจากบ้านไปเช่นกัน ปล่อยให้พ่อเลี้ยงได้อยู่กับเหมยเหมยที่ยังยกปืนจ่อหัวเขาอยู่ตามลำพัง "อย่าคิดว่ามีอิทธิพลแล้วจะมาจัดการใครได้ตามอำเภอใจ คิดว่าฉันจะหนีหัวซุกหัวซุนแล้วยอมให้พวกคุณทำสำเร็จงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ" "..." ศิลาได้ยินแบบนั้นแล้วถึงหยัดตัวยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะจับมือเล็กที่ถือปืนอยู่ยกขึ้นมาจ่อตรงหน้าผากตัวเองไว้ "ยิงสิ" "..." "ทำไมไม่ยิง หืม?" "..." เมื่อเหมยเหมยยังนิ่ง พ่อเลี้ยงศิลาถึงแย่งปืนกลับมา ก่อนจะจ่อไปที่ศีรษะสวยของเธอแทน "ทีนี้จะคุยกันดีๆ ได้รึยัง" "เลว" "ถ้าฉันไม่ได้ทำแบบที่เธอเข้าใจ อย่างน้อยก่อนจะออกไปจากที่นี่ ฉันก็จะน่าจะได้รับคำขอโทษ...แต่ดูแล้ว ถึงขั้นยกปืนขู่กันแบบนี้ แค่คำพูดไม่น่าจะพอ" เสียงเข้มเอ่ยพลางไล่สายตาลงมองร่างเล็กเกือบนาที ก่อนจะหันกลับมาสบตากับดวงตาคู่สวยอีกครั้ง "ใช้ตัวหนูขอโทษฉันแทนคำพูดดีไหมคะ หืม คุณหนูเหมยเหมย" "..." "ถ้าจะคุยก็ตามเข้ามาคุยกันในห้องค่ะ ถ้าจะใช้แค่อารมณ์ก็กลับไป ก่อนที่ฉันจะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วยิงหนูทิ้งซะตอนนี้" เสียงเข้มเอ่ยจบก็เดินเข้าห้องคุยงานไปทันที...

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook