" อ้าวว! พี่คนสวยนิ โลกกลมชะมัด "
พอฉันมาถึงเด็กหนุ่มโต๊ะนี้ก็ร้อง "อ้าว"
ทักฉันพร้อมกับยิ้มกว้าง เขาคือเจที่เคยจูบกับฉัน แน่นอนว่าเจมาพร้อมกับเพื่อนๆ รวมทั้งหมอนั่นด้วย
" จะรับอะไรดีคะหนุ่มๆ หรือจะรับแม่ค้าแทนก็ได้นะ "
ฉันเอ่ยพลางส่งสายตาให้ตามฉบับของแม่ค้าปากหวานที่ต้องเรียกลูกค้าเข้าร้าน
" ได้จริงๆ หรือเปล่าครับ ถ้าสั่งเป็นแม่ค้าได้งั้นผมขอเหมาทั้งคืนนะ! "
นายเจมองฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
" น้อยๆ หน่อยไอ้เชี่ยเจ เห็นพี่เขาเล่นด้วยหน่อยไม่ได้นะมึง "
เด็กหนุ่มอีกคนเบรคเจด้วยการฟาดศรีษะไปทีนึง ฉันหลุดยิ้มออกมาก่อนจะหันไปถามคนที่เหลือ
" แล้วพวกนายล่ะเอาอะไรเพิ่มมั้ย ของพี่อร่อยทุกอย่างนะ "
ฉันไล่มองทีละคนก่อนจะหยุดสายตาเอาไว้ที่หนุ่มน้อยของฉันพร้อมกับเน้นคำว่า "อร่อยทุกอย่าง"
" พวกผมสองคนเอาบลูมาการิต้าครับ มึงล่ะไอ้ป่า "
เด็กหนุ่มอีกคนหันไปถามหมอนั่นที่ยังคงนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
" อะไรก็ได้ครับผมกินได้หมด "
หมอนั่นมองหน้าฉันแวบหนึ่งก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น
" เพิ่มชอตนะ "
ฉันเพิ่มชอตให้หมอนั่นเองเสร็จสรรพก่อนจะเดินกลับเข้ามาผสมคอกเทลเหล่านั้น ทำเสร็จฉันก็ยกไปเสริฟที่โต๊ะแล้วไปรับออเดอร์ลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ
จนตอนนี้สักสี่ทุ่มได้แล้ว ผู้คนที่มาเดินเที่ยวก็บางตาลงไปเยอะจะยังแน่นอยู่ก็พวกร้านอาหารร้านเหล้าที่สามารถนั่งแช่ได้นาน
" พี่คนสวย ขอเหมือนเดิมค้าบบบ "
เจยกมือเรียกฉัน
" ได้แล้วสุดหล่อ "
ฉันเดินมาเสริฟคอกเทลพลางยิ้มหวานให้เจ หมอนี่สั่งเหล้าปั่นไปหลายเหยือกแล้วฉันต้องเอาใจสักหน่อย
" นั่งด้วยกันก่อนดิพี่ "
นายเจส่งแก้วให้ฉัน ฉันรับมาแล้วยกหมด รู้สึกแอลกอฮอล์บาดจนแสบคอเพราะฉันใส่ไปหลายชอตเลย
" ดื่มเก่งนะเนี่ยไหนบอกว่าคออ่อนไงครับ "
เจมองฉันด้วยสายตาที่จับผิด คงจะหมายถึงที่ผับคืนนั้นที่ฉันเคยโกหกไป
" จะคออ่อนหรือคอแข็งขึ้นอยู่ที่ว่าฉันดื่มกับใครน่ะ "
ฉันนั่งลงแล้วรินคอกเทลแจกให้ทุกคน
เชียสส!! ?
เสียงชนแก้วของพวกฉันดังขึ้นอีกหลายครั้ง เจก็เริ่มจะขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น บางครั้งก็เนียนด้วยการโอบเอวเล็กฉันด้วยพอถูกฉันมองแรงถึงค่อยเอามือออกไป หมอนี่มือไวใช้ได้เลยแล้วฉันก็สังเกตุเห็นว่าป่ามองฉันกับเจ พอรู้ว่าฉันเห็นก็หันหน้าหนีทันที
" สงสัยกุต้องกลับแล้วว่ะ แม่โทรตาม "
เด็กหนุ่มคนนึงพูดขึ้นหลังจากรับโทรศัพท์ ฉันพึ่งรู้ทีหลังว่าชื่อเบส หล่อแล้วก็เข้ม
" แม่ทูนหัวน่ะหรอวะ 5555 "
เด็กหนุ่มอีกคนสวนขึ้น
" พูดมากว่ะ เดี๋ยวปล่อยแม่งกลับเอง กุกลับก่อนนะเว้ย "
เบสยกแก้วเหล้ากรอกใส่ปากก่อนจะหันมาบอกเพื่อนและไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้ฉัน ตามมารยาทฉันก็ยิ้มตอบ
" กลับดิวะ ก็กุมากับมึง อ้าว! ไอ้สาดเบสรอกุด้วยดิ! "
เด็กหนุ่มลุกขึ้นแล้ววิ่งตามหลังคนที่ชื่อเบสออกไปเลย ตอนนี้เลยเหลือแค่ฉัน เจแล้วก็หมอนั่นเท่านั้น
" แล้วพวกนายจะกลับตอนไหนหรือจะอยู่ช่วยฉันเก็บร้านก็ได้นะ "
ฉันเอ่ยชวนทีเล่นทีจริง
" ก็ได้นะถ้าพี่ต้องการน่ะ ใช่มั้ยวะไอ้ป่า "
" กุต้องกลับแล้ว วันนี้น้องกุอยู่บ้านคนเดียว "
หมอนั่นพูดพลางยกแก้วเหล้ากรอกปาก เห็นดื่มไปเยอะแล้วนะแต่ไม่ยักจะมีอาการเมาหรือกึ่มๆ สักนิด
" อยู่ต่ออีกสักหน่อยสิ ฉันอยากมองหน้านายนานๆ น่ะ "
ฉันเอ่ยพลางส่งสายตาไปที่หมอนั่นอย่างอ้อนวอน เพราะก่อนหน้านี้มีลูกค้าอยู่เต็มร้านและผลัดกันสั่งจนฉันไม่ได้ว่างเลยไม่ทันจะได้คุยอะไรด้วยเลย พอว่างก็จะกลับซะนี่
" ไม่ได้จริงๆ ครับผมเป็นห่วงน้อง "
" ตามใจมึง งั้นกุอาสาอยู่ช่วยพี่เขาเองก็ได้ "
เจพูดเหมือนไม่ได้สนใจสีหน้าฉัน ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้มันไม่ชัดเจนพอหรอว่าฉันอยากอยู่กับใคร
ทางนี้เว้ยยย!!
อยู่ๆ ก็มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาในร้าน ในมือก็ถือมีดยาวเป็นวายังไม่ทันที่ฉันจะรู้ว่าะไรคืออะไร วัยรุ่นอีกกลุ่มก็วิ่งเข้ามาสมทบ
" มึงใช่มั้ยที่มองหน้ากุเมื่อกี้! "
" เออกุเองใครจะทำไม! "
วัยรุ่นกลุ่มแรกเอ่ยอย่างท้าทาย
" ก็แบบนี้ไงวะ!! เห้ย จัดการ!! "
แล้วพวกนั้นก็ตะลุมบอลกันยกใหญ่โดยที่ไม่มีใครสนใจพวกฉันเลย โต๊ะเก้าอี้ต่างก็ล้มระเนระนาด ผู้คนแถวนี้ก็แตกตื่นกันหมดและพากันหนีเอาตัวรอดเพราะกลัวจะโดนลูกหลง
เพล้ง!!!
เสียงขวดที่เป็นส่วนผสมคอกเทลหล่นลงสู่พื้น พวกนั้นย้ายที่ไปซัดกันถึงด้านใน
ไม่ได้นะนั่นร้านของเพื่อนฉัน!
" หยุดเดี๋ยวนี้นะพวกนายน่ะ!! "
ฉันตะโกนให้พวกบ้านั่นหยุดพังร้านเพื่อนฉันแต่ก็ไม่มีใครยอมฟังอะไรแถมยังชักมีดสปาต้ามาจ่อหน้ากันอีกจากนั้นก็สู้กันต่อ
" หลบก่อนเถอะครับผมโทรแจ้งตำรวจแล้ว "
หมอนั่นฉุดแขนฉันให้วิ่งออกมาก่อนที่จะถูกลูกหลงเข้า ตอนนี้มันวุ่นวายไปหมดไม่รู้ใครเป็นใคร เจก็ไม่รู้หายไปไหน ฉันสองคนวิ่งออกมาได้ไม่ไกลมากก็เห็นรถตำรวจวิ่งสวนเข้ามาพอดี
" โอ๊ยยย!! ทำไมถึงซวยแบบนี้ เจอนายทีไรมีเรื่องทุกทีสินะ! "
ฉันพึมพำอย่างอดไม่ได้
ก็ดูสิ ไม่หนีปืนก็หนีมีดยาว
" ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องพูดคำนี้ "
หมอนั่นสวนฉันด้วยสีหน้าที่เอือมระอา
" งั้นฉันก็ขอโทษที่ทำให้นายต้องเดือดร้อน ฉันกลับก่อนล้ะกัน "
" ให้ผมไปส่งมั้ยครับ "
" เมื่อกี้นี้นายว่าไงนะ! "
ฉันถามอย่างไม่มั่นใจเพราะคิดว่าคงจะแค่หูแว่ว
" ก็เท้าเจ็บอยู่ไม่ใช่หรอครับ "
ฉันก้มลงมองยังเท้าตัวเองที่หมอนั่นชี้ให้ฉันดู
จะ...จริงด้วย! ตรงส้นเท้าของฉันมีเลือดอยู่ สงสัยตอนที่ชุลมุนจะเผลอไปเหยียบเศษแก้วแน่ๆ
" โอ๊ยย! "
พอรู้ว่าเป็นแผลฉันก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาทันที แต่เจ็บจริงๆ นะ เมื่อกี้ก็มัวแต่โมโหไง
" ขอผมดูหน่อยครับ "
หมอนั่นนั่งยองๆ มือเบาค่อยๆ ถอดรองเท้าให้ฉันก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาพันแผลไว้ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความอ่อนโยน ฉันยืนดูการกระทำนี้ด้วยความรู้สึกสับสนสลับกับอาการเหมือนเวลาที่กำลังจับไข้
ถ้าจะทำตัวน่ารักขนาดนี้ฆ่าฉันดีกว่า!
" เรียบร้อยแล้วครับขึ้นรถสิ "
หมอนั่นลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถคันนึงที่จอดอยู่ ฉันก็ไม่อยากให้ใครมองว่าเป็นผู้หญิงเล่นตัวเลยเดินตามอย่างว่าง่าย
แน่นอนว่าฉันไม่มีทางจะปฏิเสธ
" ถึงแล้วครับ "
ฉันลืมตาขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงหมอนั่นก่อนจะกดดูเวลาที่มือถือ
รถแล่นมาถึงอพาร์ทเม้นของฉันภายในครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่าเพราะแอร์เย็นหรือเพราะฉันเหนื่อยกันแน่ฉันถึงได้เผลอหลับมาตลอดทาง
ว่าจะชวนกินข้าวต้มข้างทางสักหน่อย
" ขอบคุณนะที่มาส่งถ้าไม่ได้นายฉันคงแย่ "
ฉันนั่งเท้าคางจ้องหน้าหมอนั่น อันที่จริงฉันจงใจมองริมฝีปากหยักอยู่ ฉันกำลังคิดว่าถ้าได้จูบอีกสักครั้งมันคงจะดีมากๆ เลย ฉันจะยอมสละเวลาไปถวายสังฆทานที่วัดเลยก็ได้
" ยิ้มอะไรครับ ลงไปได้แล้ว "
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นทำให้สติที่หลุดลอยไปไกลกลับเข้ามา
" ชิส์! มองนิดมองหน่อยทำเป็นหวงทีเมื้อคืนนายกับฉันยัง... "
" หยุดพูดเลยนะครับ "
หมอนั่นแทรกขึ้นแถมยังหน้าแดงด้วยล่ะ ฉันก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ก่อนจะหากุญแจห้อง
" ไปไหนนะ "
ฉันพึมพำขณะที่ควานหากุญแจห้องอยู่ ฉันจำได้ว่าเอาใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วนะแต่ไม่มี
" อะไรหรอครับ "
" กุญแจห้องฉันหายน่ะสิ! "
ฉันตอบพร้อมกับเทของทั้งหมดออกมาแต่ก็ไม่เจอฉันเลยตัดสินใจโทรไปหาเจ๊ดาเจ้าของที่นี่เพื่อจะเอากุญแจสำรองอีกดอกแต่เจ๊ดาก็ไม่รับสายฉันเลย ฉันถอนหายใจออกมาให้กับความสะเพร่าของตัวเอง
" แล้วไม่มีกุญแจสำรองหรอครับ "
" มี ก็อยู่พวงเดียวกันนั่นแหละ "
ฉันตอบไปตามความจริง
" แล้วใครเขาให้เอาดอกจริงกับดอกสำรองไว้ด้วยกันล่ะครับ "
หมอนั่นต่อว่าฉันทันที
เด็กบ้านี่ ฉันอายุเยอะกว่าตั้งแต่หลายปีนะ
" ก็ฉันนี่แหละ ยังไงก็ขอบใจนะที่มาส่ง "
ฉันเอ่ยด้วยความหมั่นไส้พร้อมกับเปิดประตูรถลงไป ฉันเดินออกมายังหน้าถนนเพื่อจะเรียกแท็กซี่ คืนนี้คงต้องเช่าห้องถูกๆ อยู่ไปก่อนเพราะมันดึกแล้วฉันไม่อยากไปรบกวนยัยหมวยหรอก ตอนนี้คงจะนอนอยู่ห้องแฟนมัน ส่วนยัยปลาก็ไปต่างจังหวัด
ฉันยืนรอแท็กซี่มากว่าสิบนาทีแต่ก็ยังไม่โผล่มาสักคัน ไปส่งรถกันหมดแล้วรึไงนะ ระหว่างที่ฉันชะเง้อมองทางก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาจอด
" ทำไมยังไม่ไปอีกครับหรือว่ารอใครมารับ "
หมอนั่นเลื่อนกระจกลงมาพร้อมกับน้ำเสียงเย็นชา
" นั่นสินะ ทำไมไม่ผ่านมาสักคน "
" จะไปที่ไหนครับเดี๋ยวผมไปส่ง "
" ไปห้องเช่าหรือม่านรูดตรงข้ามนั่นก็ได้ใกล้ดี "
ฉันขี้เกียจจะเสียเวลาเลยเลือกที่มันใกล้ที่สุด ตอนนี้ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย
" เอะอะไรก็เข้าแต่ม่านรูด "
" เมื้อกี้นายว่าอะไรนะ! "
ฉันถามเพื่อความแน่ใจ หนอย! นอนม่านรูดแล้วมันยังไงยะ!
" เปล่าครับขึ้นมาสิ "
หมอนั่นตอบฉันเหมือนพยายามเปลี่ยนเรื่อง ฉันที่ไม่มีตัวเลือกเยอะนักเลยขึ้นรถอย่างว่าง่าย
พาเข้าม่านรูดไปด้วยเลยดีมั้ยนะ
หมอนั่นขับรถออกมาทันทีโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก จนกระทั่งมันเลยตรงยูเทิร์นที่จะไปม่านรูดที่ว่า
" ทำไมนายไม่เลี้ยวล่ะม่านรูดมันอยู่ฝั่งโน้น ช่างเถอะ ข้างหน้าก็มีที่นึงเลยห้างไปนิดเดียวถูกกว่าด้วย "
ฉันชี้บอกทางเสร็จสรรพ หมอนั่นมองหน้าฉันเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างแล้วก็ส่ายหน้า
" เป็นผู้หญิงแท้ๆ ทำไมถึงเอาแต่จะไปนอนม่านรูดล่ะครับ "
หมอนั่นพูดทั้งที่สายตายังมองถนนข้างหน้าอยู่
" อะไรถูกๆ ฉันก็เข้าหมดแหละยิ่งฟรียิ่งชอบ "
ฉันบอกไปตามตรง ยิ่งช่วงนี้ฉันต้องประหยัดกินประหยัดใช้ด้วย
" ไปบ้านผมมั้ยครับ "