10.อีธาน โอเว่น เดอนีเซีย

1377 คำ
องค์จักรพรรดิยกมือขึ้นซับน้ำตาบริเวณหางตา อีธานมองชายชราเบื้องหน้าอย่างสงสัย “ข้าดีใจ….ข้าเพียงดีใจนักอีธาน” ทุกครั้งที่นึกถึงโศกนาฏกรรมในอดีตที่แสนเจ็บปวด น้ำตาก็รื้นมาที่ของตาของชายชราทุกที รินา ริเวียธาน ดรุณีน้อยหน้าตางดงาม องค์จักรพรรดิเองก็เคยเห็นเด็กหญิงตัวน้อยนี้มาตั้งแต่เด็ก แกรนด์ดัชเชสริเวียธานก็เป็นสหายคนสนิทของเขา “ดียิ่ง….ดี…ดี…” เขาเรียกราชเลขาให้ส่งจดหมายสู่ขอไปยังตระกูลเดอนีเซียอย่างรวดเร็ว รินาไม่ได้มีท่าทางรังเกียจหรือไม่ชอบเขา เป็นธรรมเนียมของจักรวรรดิสตรีใดที่จะแต่งงานต้องย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายชายล่วงหน้าสองถึงสามเดือน รอยยิ้มแสนสวยงามไร้การปั้นแต่งปรากฏบนใบหน้างามนั้น อีธานมองรินาดั่งต้องมนต์สะกดอีกครั้ง หัวใจเขาเต้นแรงทุกครั้งที่เจอเธอ เขา….รักเธอจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้นแล้ว อีธานรู้สึกได้ว่าบุรุษทั่วทั้งอาณาจักรต้องอิจฉาเขา เขาคือคนที่โชคดี…ที่ได้แต่งงานกับเธอ เขารัก….รักรินาเหลือเกิน………… จนถึงวันขอพรพระเจ้า ช่วงสายของวัน…..รินาเตรียมตัวไปโบสถ์ เขายิ้มจางๆ ที่มุมปาก ทว่าในใจ..กำลังสับสน ความกลัวก่อกำเนิดเกิดขึ้นในใจ ภาพบิดาที่ล่ามโซ่มารดาฉายขึ้นมาซ้ำๆ ในหัว แต่ทว่าอีกครึ่งใจเขาสงสัยว่าเขาต้องทำขนาดนั้นเลยหรือ? เธอจะน่าสงสารเกินไปไหม รอยยิ้มที่งดงามจะหายไปจากใบหน้านั้นไหมนะ เขาไม่เคยเห็นมารดายิ้มเลยทั้งชีวิต ใบหน้าไร้ความรู้สึกของมารดายังคงชัดเจนในความทรงจำ รินา…เธอจะไปจากเขาไหมนะ?? เขา…ไม่อยากเสียเธอไป มือทั้งสองข้างค่อยๆ สั่นเทา “อีธาน จะไปด้วยกันไหม?” รินาส่งยิ้มจางๆ มาให้เขา เขายิ้มตอบแล้วพยักหน้าน้อยๆ นางไม่ได้จะหนีไปจากเขา…..นางยังชวนเขาไปอยู่เลย ไม่เป็นไร…ใจเย็นไว้อีธาน รินายังรักเขาคนเดียว…….ในตอนนี้ พอมาถึงที่โบสถ์นักบวชเดินมาต้อนรับแล้วและว่าที่ภรรยา นักบวชผู้นี้คุยสนิทสนมกับภรรยาเขาเกินกว่าเหตุจนเขาชักจะหงุดหงิด แต่ว่า….มือของรินายังจับมือเขาอยู่…..เธอยัง….ยังรักเขาสินะ บาทหลวงผู้นี้คงเป็นแค่เพื่อน….เพื่อนเท่านั้น พิธีขอพรพระเจ้าเริ่มขึ้น…. พระสันตปะปา เลออน ขึ้นทำพิธี มือที่จับเขาแน่นในตอนแรกคลายมือเขาลง เธอปล่อยมือเขา อีธานหันมองไปทางรินา เธอจ้องมองท่านโปปเลออนตาไม่กระพริบ ในแววตานั้นปรากฏเป็นความเศร้าโศก รินาเม้มปากเเน่น…… อีธานรู้สึกว่าคอเขาแห้งผาด….เขากลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก เหงื่อผุดขึ้นที่ใบหน้า ทั้งที่อากาศวันนี้ค่อนข้างหนาว แต่เขารู้สึกร้อนใจเหลือเกิน เสียงพูดคุยของรินากับนักบวชในวันนั้นดังก้องในหูอีกครั้ง รักที่เป็นไปไม่ได้ของรินา…. คือท่านโปปเลออนงั้นหรือ?? อีธานหันมองไปที่ท่านโปปเลออน…บทสวดจบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เขาไม่ได้ฟัง…. เรารู้แต่ว่าตอนนี้ท่านโปปเลออนกำลังมองมาทางรินา คนทั้งสองสบตากันเนิ่นนาน…ราวกับทั้งโลกใบนี้มีแต่พวกเขาสองคน หลังพิธีจบเขาพารินากลับคฤหาสน์เดอนีเซีย “อีธาน…..พรุ่งนี้ข้าขอไปที่โบสถ์ได้หรือไม่?” อีธานสบตารินา ใบหน้างามนั้นส่งยิ้มให้เขาอย่างไร้เดียงสา เธอจะไปหาท่านเลออนงั้นหรือ? เธอจะไปหนีจากเขาแล้วเหรอ? ไม่มีคำกล่าวใดจากปากอีธาน ตั้งแต่วันนั้น รินาไม่ได้รับอนุญาติให้ออกจากคฤหาสน์เดอนีเซียอีกเลย อีธานพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ไปพบรินา เขากลัวว่าถ้าเขาเจอหน้าเธอเขาจะทำร้ายเธอ เหมือนบิดาที่ทำร้ายมารดาทุกครั้งที่เจอหน้ากัน อีธาน…เจ็บปวด ทว่าในความเจ็บปวดนั้นมีความสุขซ่อนอยู่ อย่างน้อยๆ รินาก็ยังอยู่กับเขา ดี….ดีจริงๆ ที่นางไม่ได้หนีไปไหน สองปีต่อมาจดหมายหย่า ถูกส่งมาให้เขา เขากำกระดาษแผ่นนั้นแน่น ก่อนจะกระชับพ่อบ้าน ไม่ให้รินารับจดหมายจากใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพี่สาวหรือแม่ของนาง หากนางไม่เหลือใครนางคงจะคิดถึงเขา คงจะรักเขาคนเดียว….. อีธานแอบไปหารินายามกลางคืน ใบหน้าที่เคยงดงามตอนนี้ผอมลงอย่างน่าใจหาย บริเวณดวงตาบวมช้ำ เพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ช่วงเวลาหนึ่งอีธานรู้สึกสับสนว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องรึป่าว??? แต่ถ้าเขาไม่ทำเช่นนี้…..เขาต้องเสียรินาไปแน่ เขาไม่อยากทำร้ายนาง ทว่าไม่มีทางเลือกเลย…. สิบปีที่แต่งงาน เขายังแอบไปหารินาตอนหลับบ่อยๆ ตอนนี้รินาเดินไม่ได้แล้ว ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าที่เคยงามปรากฏเป็นใบหน้าที่ซูบผอม มีเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น แต่ไม่ว่ารินาจะเป็นยังไง เธอยังคงงดงามในสายตาเขาเสมอ อนุภรรยาที่เขารับมาเต็มคฤหาสน์เขาล้วนไม่ใส่ใจ บางคนเขาจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ สตรีทั้งหลายล้วนมาจากตระกลูมีชื่อเสียง เขาจำเป็น….เขาต้องสั่งสมอำนาจไว้ เกิดวันนึงท่านโปปเลออนจะมาแย่งภรรยาเขา เขาจะได้ทำสงครามกับโบสถ์ซะเลย เขามีอำนาจจนล้นมือเช่นนี้ ใครจะกล้ามีปากเสียงกับเดอนีเซีย!!! อีธานกลับมาที่คฤหาสน์พร้อมกับสตรีผู้หนึ่ง เขาเหลือบไปมองที่หน้าต่างยังพบเจอเจ้าของใบหน้างามนั้นจ้องมองมาทางเขา รินา อาจจะไม่ชอบใจที่เขามีภรรยาน้อย แต่เธอต้องเข้าใจแน่ว่าเขาจำเป็น เขาล้วนทำเพื่อเธอทั้งสิ้น มีหมอหลวงเดินสวนทางกับเขา เขาจึงเอ่ยถามอาการรินา……หมอหลวงอึกอักในการตอบ เขาจึงชักดาบออกมาจี้คอหมอหลวง “ท่านหญิงไม่เหลือเวลาแล้วครับแกรนด์ดยุค….ร่างกายนางไม่ตอบสนองกับการรักษาครับ” อีธานจำได้ว่านั้นเขาวิ่ง….วิ่งเร็วที่สุดในชีวิตเพื่อไปหารินา เธอไอ….เป็นเลือด เลือดสีแดงสดเต็มผ้าเช็ดหน้าที่เธอปิดปากไว้….. เขาทำทุกอย่าง ทุกหนทางที่จะไม่เสียเธอไปให้คนอื่น….. …..แต่เขาต้องเสียเธอให้ความตายงั้นหรือ??? ไม่….เขาไม่มีทางยอม เขาไม่ยอมเสียรินาไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รินา….สิ้นใจต่อหน้าอีธาน มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยบาดจากดาบ มุมปากของเธอยังมีเลือดติดอยู่ เขาใช้ผ้าชุบน้ำบรรจงเช็ดเลือดที่เปื้อนรินา มือทั้งสองข้างของอีธานสั่นเทา เขากรีดร้องออกมา....ก่อนจะวางร่างรินาไว้ ในคืนนั้นข้ารับใช้และอนุภรรยาของเขา ถูกสังหารจนหมดสิ้น…..เหลือรอดเพียงคนเดียวคือสตรีร่างท้วมที่ถูกใช้ให้ไปตามหมอหลวง คฤหาสน์สีทองอร่าม….มีศพกองเรียงรายจำนวนมาก อีธานทำพิธีอัญเชิญวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า….เขานำชาวบ้านมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยซาตาน ผ่านมานับสองปี รินาก็ยังไม่ฟื้น…. จนเขาเจอหนังสือลึกลับในห้องทำงานเก่าของบิดา เมื่อเขากรีดเลือดและท่องคาถาตามหนังสือปรากฏร่างของซาตานผู้หนึ่ง “หากเจ้าให้ข้ายืมร่าง…ข้าจะปลุกนางขึ้นมาให้…..” อีธานก้มลงไปจูบบริเวณหน้าผากรินา ถึงแม้จะไร้ลมหายใจแต่ทว่าสภาพร่างกายรินายังคงอยู่เหมือนเดิม เพราะอีธานใช้เลือดของสาวพรหมจรรย์ให้ร่างไร้วิญญาณของรินาดื่มตลอด “อีกไม่นาน….เจ้าจะได้ฟื้นคืนแล้วนะรินา….”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม