องค์จักรพรรดิยกมือขึ้นซับน้ำตาบริเวณหางตา อีธานมองชายชราเบื้องหน้าอย่างสงสัย
“ข้าดีใจ….ข้าเพียงดีใจนักอีธาน”
ทุกครั้งที่นึกถึงโศกนาฏกรรมในอดีตที่แสนเจ็บปวด น้ำตาก็รื้นมาที่ของตาของชายชราทุกที
รินา ริเวียธาน ดรุณีน้อยหน้าตางดงาม องค์จักรพรรดิเองก็เคยเห็นเด็กหญิงตัวน้อยนี้มาตั้งแต่เด็ก แกรนด์ดัชเชสริเวียธานก็เป็นสหายคนสนิทของเขา
“ดียิ่ง….ดี…ดี…”
เขาเรียกราชเลขาให้ส่งจดหมายสู่ขอไปยังตระกูลเดอนีเซียอย่างรวดเร็ว
รินาไม่ได้มีท่าทางรังเกียจหรือไม่ชอบเขา เป็นธรรมเนียมของจักรวรรดิสตรีใดที่จะแต่งงานต้องย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายชายล่วงหน้าสองถึงสามเดือน
รอยยิ้มแสนสวยงามไร้การปั้นแต่งปรากฏบนใบหน้างามนั้น อีธานมองรินาดั่งต้องมนต์สะกดอีกครั้ง หัวใจเขาเต้นแรงทุกครั้งที่เจอเธอ
เขา….รักเธอจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้นแล้ว
อีธานรู้สึกได้ว่าบุรุษทั่วทั้งอาณาจักรต้องอิจฉาเขา
เขาคือคนที่โชคดี…ที่ได้แต่งงานกับเธอ
เขารัก….รักรินาเหลือเกิน…………
จนถึงวันขอพรพระเจ้า
ช่วงสายของวัน…..รินาเตรียมตัวไปโบสถ์
เขายิ้มจางๆ ที่มุมปาก ทว่าในใจ..กำลังสับสน
ความกลัวก่อกำเนิดเกิดขึ้นในใจ
ภาพบิดาที่ล่ามโซ่มารดาฉายขึ้นมาซ้ำๆ ในหัว
แต่ทว่าอีกครึ่งใจเขาสงสัยว่าเขาต้องทำขนาดนั้นเลยหรือ? เธอจะน่าสงสารเกินไปไหม
รอยยิ้มที่งดงามจะหายไปจากใบหน้านั้นไหมนะ เขาไม่เคยเห็นมารดายิ้มเลยทั้งชีวิต ใบหน้าไร้ความรู้สึกของมารดายังคงชัดเจนในความทรงจำ
รินา…เธอจะไปจากเขาไหมนะ??
เขา…ไม่อยากเสียเธอไป มือทั้งสองข้างค่อยๆ สั่นเทา
“อีธาน จะไปด้วยกันไหม?”
รินาส่งยิ้มจางๆ มาให้เขา เขายิ้มตอบแล้วพยักหน้าน้อยๆ
นางไม่ได้จะหนีไปจากเขา…..นางยังชวนเขาไปอยู่เลย ไม่เป็นไร…ใจเย็นไว้อีธาน
รินายังรักเขาคนเดียว…….ในตอนนี้
พอมาถึงที่โบสถ์นักบวชเดินมาต้อนรับแล้วและว่าที่ภรรยา นักบวชผู้นี้คุยสนิทสนมกับภรรยาเขาเกินกว่าเหตุจนเขาชักจะหงุดหงิด
แต่ว่า….มือของรินายังจับมือเขาอยู่…..เธอยัง….ยังรักเขาสินะ
บาทหลวงผู้นี้คงเป็นแค่เพื่อน….เพื่อนเท่านั้น
พิธีขอพรพระเจ้าเริ่มขึ้น….
พระสันตปะปา เลออน ขึ้นทำพิธี
มือที่จับเขาแน่นในตอนแรกคลายมือเขาลง เธอปล่อยมือเขา อีธานหันมองไปทางรินา เธอจ้องมองท่านโปปเลออนตาไม่กระพริบ
ในแววตานั้นปรากฏเป็นความเศร้าโศก รินาเม้มปากเเน่น……
อีธานรู้สึกว่าคอเขาแห้งผาด….เขากลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก เหงื่อผุดขึ้นที่ใบหน้า ทั้งที่อากาศวันนี้ค่อนข้างหนาว แต่เขารู้สึกร้อนใจเหลือเกิน
เสียงพูดคุยของรินากับนักบวชในวันนั้นดังก้องในหูอีกครั้ง
รักที่เป็นไปไม่ได้ของรินา….
คือท่านโปปเลออนงั้นหรือ??
อีธานหันมองไปที่ท่านโปปเลออน…บทสวดจบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เขาไม่ได้ฟัง….
เรารู้แต่ว่าตอนนี้ท่านโปปเลออนกำลังมองมาทางรินา คนทั้งสองสบตากันเนิ่นนาน…ราวกับทั้งโลกใบนี้มีแต่พวกเขาสองคน
หลังพิธีจบเขาพารินากลับคฤหาสน์เดอนีเซีย
“อีธาน…..พรุ่งนี้ข้าขอไปที่โบสถ์ได้หรือไม่?”
อีธานสบตารินา ใบหน้างามนั้นส่งยิ้มให้เขาอย่างไร้เดียงสา
เธอจะไปหาท่านเลออนงั้นหรือ? เธอจะไปหนีจากเขาแล้วเหรอ?
ไม่มีคำกล่าวใดจากปากอีธาน
ตั้งแต่วันนั้น รินาไม่ได้รับอนุญาติให้ออกจากคฤหาสน์เดอนีเซียอีกเลย อีธานพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ไปพบรินา เขากลัวว่าถ้าเขาเจอหน้าเธอเขาจะทำร้ายเธอ เหมือนบิดาที่ทำร้ายมารดาทุกครั้งที่เจอหน้ากัน
อีธาน…เจ็บปวด ทว่าในความเจ็บปวดนั้นมีความสุขซ่อนอยู่ อย่างน้อยๆ รินาก็ยังอยู่กับเขา ดี….ดีจริงๆ ที่นางไม่ได้หนีไปไหน
สองปีต่อมาจดหมายหย่า ถูกส่งมาให้เขา เขากำกระดาษแผ่นนั้นแน่น ก่อนจะกระชับพ่อบ้าน ไม่ให้รินารับจดหมายจากใครทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพี่สาวหรือแม่ของนาง
หากนางไม่เหลือใครนางคงจะคิดถึงเขา คงจะรักเขาคนเดียว…..
อีธานแอบไปหารินายามกลางคืน ใบหน้าที่เคยงดงามตอนนี้ผอมลงอย่างน่าใจหาย บริเวณดวงตาบวมช้ำ เพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
ช่วงเวลาหนึ่งอีธานรู้สึกสับสนว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องรึป่าว???
แต่ถ้าเขาไม่ทำเช่นนี้…..เขาต้องเสียรินาไปแน่
เขาไม่อยากทำร้ายนาง ทว่าไม่มีทางเลือกเลย….
สิบปีที่แต่งงาน เขายังแอบไปหารินาตอนหลับบ่อยๆ ตอนนี้รินาเดินไม่ได้แล้ว ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าที่เคยงามปรากฏเป็นใบหน้าที่ซูบผอม มีเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น
แต่ไม่ว่ารินาจะเป็นยังไง เธอยังคงงดงามในสายตาเขาเสมอ
อนุภรรยาที่เขารับมาเต็มคฤหาสน์เขาล้วนไม่ใส่ใจ บางคนเขาจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ สตรีทั้งหลายล้วนมาจากตระกลูมีชื่อเสียง
เขาจำเป็น….เขาต้องสั่งสมอำนาจไว้ เกิดวันนึงท่านโปปเลออนจะมาแย่งภรรยาเขา เขาจะได้ทำสงครามกับโบสถ์ซะเลย
เขามีอำนาจจนล้นมือเช่นนี้ ใครจะกล้ามีปากเสียงกับเดอนีเซีย!!!
อีธานกลับมาที่คฤหาสน์พร้อมกับสตรีผู้หนึ่ง เขาเหลือบไปมองที่หน้าต่างยังพบเจอเจ้าของใบหน้างามนั้นจ้องมองมาทางเขา
รินา อาจจะไม่ชอบใจที่เขามีภรรยาน้อย แต่เธอต้องเข้าใจแน่ว่าเขาจำเป็น เขาล้วนทำเพื่อเธอทั้งสิ้น
มีหมอหลวงเดินสวนทางกับเขา
เขาจึงเอ่ยถามอาการรินา……หมอหลวงอึกอักในการตอบ เขาจึงชักดาบออกมาจี้คอหมอหลวง
“ท่านหญิงไม่เหลือเวลาแล้วครับแกรนด์ดยุค….ร่างกายนางไม่ตอบสนองกับการรักษาครับ”
อีธานจำได้ว่านั้นเขาวิ่ง….วิ่งเร็วที่สุดในชีวิตเพื่อไปหารินา
เธอไอ….เป็นเลือด
เลือดสีแดงสดเต็มผ้าเช็ดหน้าที่เธอปิดปากไว้…..
เขาทำทุกอย่าง ทุกหนทางที่จะไม่เสียเธอไปให้คนอื่น…..
…..แต่เขาต้องเสียเธอให้ความตายงั้นหรือ???
ไม่….เขาไม่มีทางยอม
เขาไม่ยอมเสียรินาไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
รินา….สิ้นใจต่อหน้าอีธาน มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยบาดจากดาบ มุมปากของเธอยังมีเลือดติดอยู่ เขาใช้ผ้าชุบน้ำบรรจงเช็ดเลือดที่เปื้อนรินา มือทั้งสองข้างของอีธานสั่นเทา
เขากรีดร้องออกมา....ก่อนจะวางร่างรินาไว้
ในคืนนั้นข้ารับใช้และอนุภรรยาของเขา ถูกสังหารจนหมดสิ้น…..เหลือรอดเพียงคนเดียวคือสตรีร่างท้วมที่ถูกใช้ให้ไปตามหมอหลวง
คฤหาสน์สีทองอร่าม….มีศพกองเรียงรายจำนวนมาก
อีธานทำพิธีอัญเชิญวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า….เขานำชาวบ้านมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยซาตาน
ผ่านมานับสองปี รินาก็ยังไม่ฟื้น….
จนเขาเจอหนังสือลึกลับในห้องทำงานเก่าของบิดา เมื่อเขากรีดเลือดและท่องคาถาตามหนังสือปรากฏร่างของซาตานผู้หนึ่ง
“หากเจ้าให้ข้ายืมร่าง…ข้าจะปลุกนางขึ้นมาให้…..”
อีธานก้มลงไปจูบบริเวณหน้าผากรินา ถึงแม้จะไร้ลมหายใจแต่ทว่าสภาพร่างกายรินายังคงอยู่เหมือนเดิม เพราะอีธานใช้เลือดของสาวพรหมจรรย์ให้ร่างไร้วิญญาณของรินาดื่มตลอด
“อีกไม่นาน….เจ้าจะได้ฟื้นคืนแล้วนะรินา….”