หลังจากที่เคลียร์เรื่องที่โรงพักเสร็จเรียบร้อย ธเนศก็เดินทางมาที่โรงพยาบาลต่อ เขาอยากจะเจอสาวน้อยคนนั้น อนาคตกำลังจะสดใส เพิ่งเรียนจบมัธยมชั้นศึกษาปีที่ 6 สอบได้มหาวิทยาลัยดังเป็นที่ภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อแม่ แต่ทว่ากลับอนาคตดับเพียงเพราะเขาพลาดขับรถไปชนเธอเข้า โชคยังดีที่ยังมีชีวิตรอดกลับมา แต่คงทำใจลำบากถ้าจะรับรู้ว่าในตอนนี้ตัวเองยังไม่สามารถเดินได้
"ยังมีโอกาสที่อนาคตจะเดินได้ อาจจะต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าเกิดว่าร่างกายพร้อมเราจะทำการกายภาพบำบัดต่อ น่าจะใช้เวลาไม่ถึงปีอาจจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง"
และเมื่อทุกคนได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกโล่งอก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นโอกาสเพียงแค่ริบหรี่ แต่ทว่ามันก็คือทางสว่างที่ทุกคนใฝ่ฝัน ภายในหนึ่งปีเขาจะทำทุกวิธีเพื่อให้หญิงสาวกลับมาเดินได้ อนาคตที่มืดบอดเขาจะทำให้มันสดใสอีกครั้ง
"ผมเข้าไปเยี่ยมน้องได้ไหมครับ"
"ได้สิ ตอนนี้ฟื้นแล้วแหละ"
ธเนศเดินเข้าไปทำห้องพักฟื้น คนอื่นๆ ยังไม่กล้าเข้าไป เพราะกลัวว่าจะเห็นภาพที่หญิงสาวร้องไห้แทบจะขาดใจ ได้รับรู้ว่าตัวเองยังเดินไม่ได้ในตอนนี้
"คุณแม่จะเข้าไปเยี่ยมลูกสาวไหมคะ"
"ฉันยังทำใจไม่ได้เลยค่ะ กลัวเห็นลูกร้องไห้มันจะขาดใจแทน โธ่ลูก..."
ธันย์ และเติมฝันหันมามองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าเป็นคราวเคราะห์หรืออะไร ลูกชายถึงได้ต้องเจอกับเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ โชคยังดีที่เด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เพราะถ้าเกิดไม่มีลมหายใจขึ้นมาไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะมีสภาพเป็นแบบไหน
ธเนศค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องพัก VIP จ้องมองไปยังร่างเล็กที่ตอนนี้นอนร้องไห้กลั้นเสียงสะอื้น พยายามที่จะขยับขาของตัวเองแต่ทว่าไม่สามารถขยับได้เลย โชคยังดีที่ยังพอมีความรู้สึก คุณหมอบอกว่ายังมีโอกาสหาย แต่เธอจะต้องสูญเสียอนาคตที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดังในตอนนี้ เธออุตส่าห์สอบคณะแพทย์ได้ เป็นความหวังของคุณแม่ แต่ทุกอย่างกลับมลายหายไปต่อหน้าต่อตา
"หนู..."
ธเนศค่อยๆ เดินเข้ามายืนอยู่ข้างเตียงนอน จ้องมองไปยังใบหน้าของคนตัวเล็กที่ตอนนี้นอนร้องไห้อยู่ เขารู้สึกสงสารเธอจับใจ เพราะความประมาทแท้ๆ ถึงทำให้เด็กคนหนึ่งหมดอนาคตแบบนี้
"ฮึก...! แม่ แม่จ๋า"
หญิงสาวร้องไห้ออกมาหาผู้เป็นแม่ ในตอนนี้เธอรู้สึกกลัวทุกคนที่เข้ามาหา ไม่รู้ว่าใครเป็นใครหวังดีกับเธอหรือเปล่า และดูเหมือนว่าคนที่อยู่หน้าประตูจะได้ยินเสียงเรียกจากข้างใน คุณแม่ของครีมหวานจึงรีบเปิดประตูเข้ามา ก่อนจะตรงเข้าไปสวมกอดลูกสาว
"ว่าไงคะลูก"
"ฮึก...! แม่ขา หนูจะกลับมาเดินได้ไหมคะ"
หญิงสาวร้องไห้ออกมาแทบจะขาดใจ ผู้เป็นแม่สวมกอดลูกอย่างปลอบโยน ธเนศรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก เขาตัดสินใจถูกแล้วที่มารับผิดชอบชีวิตเด็กคนหนึ่ง ส่วนผู้หญิงที่เขากำลังคบอยู่ เธอควรจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ ถ้าเขาขอให้เธอรอคงจะดูเป็นการเห็นแก่ตัวจนเกินไป เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เขาจะต้องจบทุกอย่าง และเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง
"คุณหมอบอกว่าหนูกลับมาเดินได้แน่นอน หนูอย่าท้อนะต้องสู้ แม่เป็นกำลังใจให้หนูนะ"
"ผมขอคุยกับน้องได้ไหมครับ"
ธเนศเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คุณแม่หันไปมองใบหน้าของลูกสาวก่อนจะลูบผมเธอแล้วเอ่ยกระซิบเสียงเบา
"คุยกับพี่เขานะลูก ตกลงกันเลยว่าจะเอายังไง แม่อยู่ข้างหนูนะ"
"ค่ะแม่"
คุณแม่ถอยหลังห่างออกมาปล่อยให้เด็กทั้งสองคนตกลงกัน ครีมหวานจ้องมองไปยังใบหน้าของชายหนุ่ม เขาเป็นคนที่ขับรถชนเธอแน่นอนเลย เพราะคุณพยาบาลบอกว่าผู้ชายคนนั้นรออยู่หน้าห้องไม่ได้ไปไหน
"หนูชื่ออะไรนะคะ"
น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำให้หญิงสาวฟังแล้วรู้สึกแปลก และก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาจะเคลียร์กับเธอเรื่องอะไรอีก ถ้าเป็นคดีความหรืออะไรเธอไม่ได้คิดที่จะเอาเรื่องอยู่แล้ว
"ชื่อครีมหวานค่ะ คุณเป็นคนขับรถชนหนูเหรอคะ"
"ค่ะ พี่เป็นคนขับรถประมาทจนทำให้หนูเป็นแบบนี้ พี่ขอโทษนะ"
ใบหน้า และน้ำเสียงเขาทำให้เธอรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มรู้สึกแบบนั้นจริงๆ มันคงเป็นคราวเคราะห์ของเธอมากกว่า ไม่อยากจะโทษว่าใครเป็นคนประมาท ถือโทษโกรธกันไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูไม่อยากถือโทษโกรธใครทั้งนั้น เอาเป็นว่าหนูให้อภัยคุณค่ะ อีกไม่นานเดี๋ยวหนูก็คงเดินได้ ปีหน้าหนูจะลองไปสอบคณะแพทย์ใหม่ ปีนี้ถือว่าพักผ่อนสมองไปก่อน ดีซะอีกจะได้มีเวลาเตรียมตัว"
เธอฝืนยิ้มออกมาเพื่อให้ทุกคนสบายใจ ธันย์ และเติมฝันรู้สึกสงสารเด็กคนนั้นมาก อนาคตคุณหมอที่กำลังจะสดใส กลายมาเป็นแบบนี้ซะได้
"ครีมหวาน... แต่งงานกับพี่นะ พี่จะเป็นคนดูแลหนูเอง"
"คะ... อะไรนะคะ"
ครีมหวานนึ่งอึ้งไปด้วยความมึนงง ทำไมเขาจะต้องมาขอเธอแต่งงานด้วย แค่ขับรถชนชดใช้เป็นอย่างอื่นก็ได้ ไม่มีความจำเป็นจะต้องสูญเสียอิสระในชีวิตทั้งหมด เพียงเพราะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"พี่คุยกับคุณแม่ของหนูแล้ว ท่านให้มาคุยกับหนูว่าจะเอายังไง"
"หนูไม่แต่งหรอกค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ก็ได้ หนูไม่โกรธหรอกค่ะมันคงเป็นคราวเคราะห์ของหนูเอง"
"แต่พี่เต็มใจนะ ไม่ได้ฝืนอะไรเลย"
"แต่ว่า..."
หญิงสาวหันไปมองคุณแม่อย่างขอความช่วยเหลือ เธอรู้ว่าเขารู้สึกผิด แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพาเธอไปเป็นภาระในชีวิต ซึ่งไม่รู้ว่าอนาคตจะกลับมาเดินได้หรือเปล่า เธอไม่อยากให้ตัวเองไปเป็นภาระในชีวิตของใคร ไม่อยากให้ใครมาดูแลหรือมองด้วยความสมเพช
"ตกลงตามนี้นะ ครีมหวานแต่งงานกับพี่นะ"
เขายื่นมือไปลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู ตอนแรกเขามีความลำบากใจมากกับการที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนึง ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่พอได้คุยกับเธอจริงจัง ครีมหวานเป็นเด็กที่น่ารักมาก ทั้งที่เธอประสบอุบัติเหตุเพราะความประมาทของเขา ยังไม่ถือโทษโกรธ แถมยังโทษโชคชะตาว่าเป็นคราวซวยของตัวเอง ยิ่งเธอเป็นคนดีมากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกผิดและอยากรับผิดชอบเพิ่มขึ้นไปอีก
"อย่าเอาหนูไปเป็นภาระเลยค่ะ"
"ภาระอะไรกัน กายภาพแค่ไม่กี่เดือนเดี๋ยวก็กลับมาเดินได้แล้ว ถึงตอนนั้นถ้าหนูอยากจะไปเรียนแพทย์ที่จะเป็นคนส่งหนูเรียนเอง ไม่คิดมากนะ หมอที่โรงพยาบาลนี้เก่งมาก เครื่องมือที่มีเพียบพร้อมทุกอย่าง พี่สัญญาหนูจะต้องกลับมาเดินได้อีกครั้ง"
"คุณ..."