เซเนียสาวเท้ามาถึงหน้าบ้าน เห็นรถจักรยานสีครีมจอดอยู่ เธอยิ้มกว้างสีหน้ายินดี เพราะเมื่อวานได้ไหว้วานให้พี่อันโทสช่วยตระเตรียมให้ เนื่องจากตนเอง อยากไปขี่เล่น เที่ยวชมทิวทัศน์ และเดินตลาด เดน่ามาเร่งฝีเท้ามาหา สีหน้าเป็นห่วง
“จะไปคนเดียวเหรอคะคุณหนู” เดน่าเอ่ยถาม
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่นม ที่นี่ไม่มีอันตรายอะไรหรอกค่ะ” เธอจดจำได้ ทุกคนที่นี่เป็นมิตร
“แต่เราเพิ่งย้ายมาอยู่นะคะคุณหนู”
อันโทสก้าวมาสมทบ วงสนทนา ก่อนยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงกัน
“ไม่มีอันตรายหรอกครับคุณป้า ทุกคนรู้จักผมกันหมด ที่นี่ผมเองก็พอจะมีอิทธิพลพอตัวอยู่ครับ”
“เห็นไหมคะแม่นม พี่อันโทสออกจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้” เธอบอกแล้วระบายยิ้ม
“ก็ได้ค่ะ ยังไงก็เดินทางระวังหน่อยนะคะ”
“ค่ะ” เธอรับคำ แล้วขึ้นคร่อมจักรยาน ถีบออกจากตัวบ้านไป
ระหว่างเส้นทาง วิวทิวทัศน์ของภูเขา ลำธาร ทำเอารู้สึกสดชื่นไม่น้อย เธอไม่เคยหายใจได้เต็มปอดมากขนาดนี้ พอคิดดูแล้ว ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย จนทำให้รู้สึกเหมือนตนเอง กำลังถูกกดให้จมดิ่งลงในบ่อน้ำอันมืดมิด ที่นี่คือแสงสว่างเดียว ที่เธอโหยหามาตลอด ถ้าหากหลงลืมความแค้น ไม่คิดสืบทอดสิ่งที่พ่อแม่คาดหวังไว้ เธอคงอยู่ที่นี่ไปตลอด ไม่จากไปไหนอีก
ไม่นานนัก รถจักรยานจอดตรงบาทวิถี ตรงด้านหลังตลอด เธอลงจากรถ แล้วสาวเท้าเข้าด้านใน เพื่อดูอาหารที่อยากทาน ตั้งใจจะซื้อวัตถุดิบไปทำอาหารทานกันที่บ้านด้วย วันนี้เธอเชิญพี่อันโทส และทุกคนมาร่วมมื้อเย็นด้วยกัน เป็นการฉลอง ที่ได้เจอกันครั้งแรก ในรอบหลายปี
ระหว่างเลือกซื้ออาหาร และของใช้ส่วนตัว สายตาแม่ค้า และบรรดาหนุ่ม ๆ จ้องมองมา ใบหน้าเช่นนี้ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน รู้สึกไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย แค่มองผาดเดียว ทุกคนพอรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ คงไม่ใช่คนท้องถิ่น คงเป็นหญิงสาวที่มาจากตัวเมือง ก่อนหน้าอันโทสเคยประกาศเอาไว้แล้ว แบบนี้คงไม่มีหนุ่มหน้าไหนกล้าเข้าไปยุ่งด้วยหรอก เซเนียกลับมายังรถจักรยาน เมื่อเสร็จธุระแล้ว ถีบกลับไปยังบ้านพัก พอจอดรถ แม่นมมารอรับพร้อมบีน่า วัตถุดิบถูกนำมาปรุงอาหาร โดยมีเธอคอยเป็นลูกมือ เพราะตนเองทำอาหารไม่เก่งเท่าใดนัก
“ว้าว! อาหารน่าทานมากเลยครับ!” อันโทสเอ่ยชม หลังจากบีน่ายกสปาเก็ตตี้ผัดซอสทะเล ตามด้วยบาร์บีคิวเสียบไม้ ซึ่งอันโทสกำลังก่อไฟอยู่ เพื่อเตรียมย่าง
ทุกคนช่วยกันนำบาร์บีคิวขึ้นย่างบนเตา เซเนียนำไวน์มาเปิด แล้วดื่มกับทุกคน ก่อนสนทนาเรื่องทั่วไป เสียงหัวเราะดังแว่ว เซเนียยิ้มเศร้า อยากให้ความสุขเช่นนี้อยู่กับเธอตลอดไปมากเหลือเกิน แม้รู้ดีว่า สักวันดีทริส จะต้องตามหาเธอจนเจอแน่ หมอนั่นไม่มีวันยอมวางมือ เรื่องการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ ถ้าหากหลบหนีเขาได้สักสองสามปีก็คงดี
มือเหี่ยวย่นแตะแผ่วบริเวณหลังมือ แล้วยิ้มอ่อนโยน
“ทานบาร์บิคิวสิคะคุณหนู อร่อยมากเลยนะคะ” เดน่าบอก แล้ววางบาร์บีคิวไว้ในจานให้กับเธอ
“ขอบคุณนะคะแม่นม”
แม่นมยิ้มให้ มองคุณหนูที่ตนเองฟูกฟักมาด้วยความรู้สึกสงสาร ระคนเห็นใจ
“แม่นมอยากให้คุณหนูมีความสุขค่ะ แม่นมรู้ว่าคุณหนูชอบที่นี่มาก”
เธอเหลือบมอง น้ำตาคลอ “ค่ะแม่นม ถ้าเกิดหนูอยู่ที่นี่ได้ตลอดไปคงดี”
ทุกคนมองหน้ากัน แววตาหม่น ก่อนรีบปรับสีหน้า เพราะไม่อยากให้คุณหนู ต้องเป็นทุกข์มากไปกว่านี้
“ลองทานบาร์บิคิวสิคะ” บีน่ารีบออกปาก จ้องมองเจ้านายสาว แล้วยิ้มกว้าง
เธอหยิบมา แล้วลองชิม มันอร่อยมากเลย
“อร่อยไหมคะ” บีน่าถาม ทุกคนกำลังจ้องมองเพื่อรอคำตอบ
“อร่อยมากเลยล่ะบีน่า”
สีหน้าทุกคนยินดี แล้วพากันย่างบาร์บีคิวต่อ เซเนียยิ้มบาง ๆ ตอนนี้ เธอไม่ควรกังวล ควรตักตวงความสุขที่มีตอนนี้ให้ดี จบมื้ออาหาร ทุกคนพากันแยกย้ายกันพักผ่อน เซเนียเลือกเดินเล่นด้านหลังบ้าน ซึ่งมีธารน้ำไหลเอื่อย มองดูทัศนียภาพรอบ ๆ แล้วระบายลมหายใจออกมา
ยกท่อนแขนกอดอก แววตาหม่น ใบหน้าของเขาวนเวียนในมโนสำนึกไม่ไปไหน มันทำทำเอาเธอหวาดหวั่นใจพิกล มีเวลานานแค่ไหน ที่จะหลีกหนีดีทริสได้ เธอกังวลว่าเขาจะตามหาตัวพบ แล้วตนคงถูกกักขัง ไม่มีวันได้พบเจอใครอีก
“มายืนทำอะไรคนเดียวครับคุณหนู” เสียงเอ่ยทัก เธอหันกลับไปมองแล้วอมยิ้ม
“พี่อันโทสมาทำอะไรคะ”
“มาตามหาคุณหนูน่ะสิครับ”
“ฉันมายืนรับลมน่ะค่ะ อากาศดีมากเลยนะคะที่นี่”
“ใช่แล้วครับ ไม่มีที่ไหนอากาศดีเท่าที่นี่แล้วล่ะครับ” เขาบอกแล้วอมยิ้ม ก่อนเดินมายืนเคียงข้าง “พี่มีอะไรอยากถามสักหน่อยได้ไหม”
เธอหันไปช้อนสายตามอง
“อยากถามอะไรคะ”
“เรื่องตระกูล เซเนียไม่ได้คิดอยากกอบกู้ชื่อเสียงคืนแล้วใช่ไหม” เขาเอ่ยถามเสียงเครียด
คนฟังชะงัก เม้มริมฝีปาก เธออยากกอบกู้ชื่อเสียง แต่ไม่ต้องการเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อให้ได้มา
“อยากสิคะ เซเนียกำลังพยายามอยู่ค่ะ”
มือหนายกขึ้นหมายลูบศีรษะ แต่กลับต้องชะงัก เมื่อรู้สถานะตนเองดี เขาแค่หวังให้เซเนียได้มีความสุข เหมือนหญิงสาวทั่วไป ได้เจอคนที่ตัวเองรัก ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไร แต่ด้วยสถานะ ชาติตระกูล เซเนียคงทำเช่นนั้นไม่ได้
“พี่เองไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ นอกจากเป็นกำลังใจให้”
“แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วล่ะค่ะพี่อันโทส”
อัสโทสยิ้มอ่อนโยน “พี่กลับก่อนนะ ต้องไปเอาหญ้าให้วัวอีกค่ะ”
“ค่ะพี่”
เขาเลี่ยงออกมา ปล่อยให้อีกคนอยู่กับความคิดของตนเอง เซเนียระบายลมหายใจออกมา อยากให้ความสงบแบบนี้อยู่กับเธอไปอีกนานเหลือเกิน