ละครสุดทันสมัยที่ใช้พล็อตแบบที่เราเคยเจอมาแล้วบ่อยครั้งทั้งในละครและนวนิยาย แต่ละครเรื่องนี้ฉีกออกไป เพราะแม่สามีที่ว่าร้าย เป็นการร้ายแบบมีชั้นเชิง ส่วนลูกสะใภ้ก็ไม่ได้สู้แบบพื้นๆ แต่สู้ด้วยความมั่นใจ ความเผ็ด และความสตรอง หลังจากภาวินีเรียนจบกฎหมายที่อเมริกาด้วยดีกรีปริญญาโท ความกังวลในอดีตซึ่งเธอลืมไปแล้วก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งจากการได้ข่าวว่าศรีกานดาตกอยู่ในสภาพย่ำแย่หนัก ภาวินีแจ้นไป
หาพี่สาวแต่ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันมากมายก็ต้องพาไปโรงพยาบาลเพราะอาการของพี่สาวแย่มากจริงๆ สุดท้ายศรีกานดาก็อาการทรุดลงจนเสียชีวิตพร้อมฝากฝังให้ดูแลบุตรชายที่ชื่อนิคให้ด้วย ซึ่งภาวินีก็ตกปากรับคำอย่างดี
เรื่องราวของศึกระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้นั้นเป็นแนวที่สนุกมากอีกแนวหนึ่ง เพราะต้องลุ้นว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะเลือกอย่างไร แต่ถ้ามีนิยายที่พระเอกไม่ได้มีสิทธิ์เลือกแต่ถูกคลุมถุงชนจากผู้เป็นย่าขึ้นมาล่ะ ความมันส์ของเรื่องจึงชวนอ่านอย่างยิ่ง คลิกที่ลิงก์ได้เลย!
นิยายอ่านง่ายย่อยง่าย : สะใภ้ไม่ไร้ศักดินา
- ส่วนที่ 1: เรื่องย่อของละครเรื่องสะใภ้สายสตรอง
- ส่วนที่ 2: นักแสดงของเรื่องสะใภ้สายสตรอง
- ส่วนที่ 3: ตัวละครหลักของสะใภ้สายสตรอง
- ส่วนที่ 4: ตอนล่าสุดของสะใภ้สายสตรอง
ส่วนที่ 1: เรื่องย่อของละครเรื่องสะใภ้สายสตรอง
หลังจากงานศพของพี่สาว ภาวินีที่ทำใจได้แล้วก็พกพาความแค้นไปเผชิญหน้ากับมาดามนวลอันเป็นต้นเหตุให้ศรีกานดาต้องตาย และเอาน้องนิคมาอยู่กับตนแต่นพนัยน์ผู้เป็นพ่อไม่ยอม ภาวินีอ้างเหตุผลว่าไม่อยากให้เด็กอยู่กับคนร้ายกาจแบบมาดามนวล และใช้โอกาสนี้บอกว่าถ้านพนัยน์ไม่เชื่อ ก็ให้แต่งงานกับตน
เองแบบหลอกๆ เธอจะใช้เวลา 6 เดือนเปิดโปงความร้ายกาจของมาดามนวลออกมาให้ได้ นพนัยน์เองก็อยากรู้ความจริงจึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอ ทำให้มาดามนวลโกรธจนแทบเต้น นับจากวันนั้นภาวินีกับมาดามนวลก็เปิดศึกกันอย่างสมบูรณ์โดยฝั่งมาดามนวลมีลูกสาวชื่อเนตรดาวช่วยเสริมทัพ แต่ภาวินีเป็นคนฉลาดและทันคน ที่สำคัญนพนัยน์ดูเหมือนจะมีใจให้สะใภ้แสนชังเสียอย่างนั้น ศึกนี้จึงดูจะยากขึ้นเรื่อยๆ
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าบทบาทของนักแสดงแต่ละคนนั้นสุดยอดมาก สมกับเป็นนักแสดงมืออาชีพที่ควรค่าแก่วงการบันเทิงไทยอย่างที่สุด
ส่วนที่ 2: นักแสดงของเรื่องสะใภ้สายสตรอง
-ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ รับบท นพนัยน์
-ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ รับบท ภาวินี
-หน่อย บุษกร วงศ์พัวพันธ์ รับบท คุณนวลสมร หรือ มาดามนวล
-พิชชาภา พันธุมจินดา รับบท เนตรดาว
-ฐากูร การทิพย์ รับบท ถมทวี
-ลลินา ชูเอ็ทท์ รับบท ลลิตา
-ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท สิงขร
-อัมรินทร์ นิติพน รับบท พนิต
-พีรวิชญ์ ตีรวัฒน์ รับบท นิค
สำหรับคอละครคงจะเห็นรายชื่อนักแสดงที่คุ้นตาหลายคน ทั้งได้รับบทเด่นๆ และบทรอง เพราะมีประสบการณ์ทางด้านการแสดงมาอย่างโชกโชนจึงเหมาะสมกับบทที่ได้รับ ยิ่งตัวละครหลักของเรื่องก็จะเห็นความฟาดฟันกันอย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน
นิยายอ่านง่ายย่อยง่าย : สะใภ้ไม่ไร้ศักดินา
ส่วนที่ 3: ตัวละครหลักของสะใภ้สายสตรอง
นพนัยน์ชายหนุ่มผู้รักครอบครัว เขาป็นตัวกลางไว้คอยหย่าศึกระหว่างมารดากับภรรยาเสมอๆ จนถึงกับต้องลาออกจากงานเพื่อมาสงบศึกภายในบ้าน และเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างผู้เป็นแม่กับศรีกานดาภรรเก่า เขาจึงใช้แผนแกล้งรักกับภาวินีในบ้านด้วยต่อหน้ามาดามนวล แต่มันกลับทำให้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับหญิงสาวขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ภาวินีสมาร์ทเกิร์ลสุดมั่น สุดตรองแห่งยุค ด้วยความที่เป็นเด็กจบนอกและเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ทำให้ภาวินีตั้งใจจะทำให้ทุกคนเห็นว่ามาดามนวลนั้นที่แท้จริงเป็นคนเลวร้ายขนาดไหน หญิงสาวเสี่ยงยอมให้ตัวเองมาเป็นสะใภ้เหมือนพี่สาวแต่เดินเกมฉลาดล้ำลึกกว่ามาก แต่ดูเหมือนใจที่มักสั่นไหวให้นพนัยน์จะทำให้หล่อนเสียงานอยู่ร่ำไป
มาดามนวลหรือคุณนวลสมรหญิงเก่งที่ผ่านชีวิตมาและสร้างตัวจนคนในวงการขนานนามเธอว่าดอกไม้เหล็กแห่งปี เธอเป็นคนที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งทั้งในบ้านและนอกบ้าน เห็นได้จากการที่ใช้เส้นสายให้ลูกชาย
ได้งานใหม่กับการพยายามกลั่นแกล้งให้ภาวินีลูกสะใภ้คนใหม่ตกงาน ที่สำคัญเป็นคนมีความคิดเกี่ยวกับความเป็นคนแสนดีและคนร้ายกาจที่ผิด ซึ่งทุกอย่างมันจะตอบสนองมาดามนวลให้รู้ซึ้งถึงที่สุดในตอนจบของละคร
ส่วนที่ 4: ตอนล่าสุดของสะใภ้สายสตรอง
มาดามนวลส่งคนไปจับตัวภาวินีแต่ไม่สำเร็จแถมนพนัยน์เองก็รู้เรื่องนี้ นพนัยน์กับเนตรดาวที่มาอยู่ฝั่งภาวินีแล้วร่วมมือกันต่อต้านมาดามนวลและขอมีชีวิตเป็นของตัวเอง มาดามนวลโกรธจนตัดแม่ตัดลูก แต่ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข ปล่อยให้มาดามนวลโดดเดี่ยวเศร้าซึม จนวันหนึ่งถูกคนของตัวเองจับไปเรียกค่าไถ่ ทำให้ทุกคนต้องรีบไปช่วย เรื่องบาดหมางทั้งหมดจึงถึงจุดจบได้ในที่สุด
ไม่มีใครจะเก่งและสามารถอยู่ได้คนเดียวโดยไม่มีใคร เพราะทุกคนทุกชีวิตล้วนแต่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากคนรอบข้าง ความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ย่อมทรงคุณค่ากว่าการมีอิทธิพลอยู่เหนือคนอื่นตลอดกาล