“ถูกคนอ้วกใส่” ทักษกรตอบออกไปตามตรง
“ถูกคนอ้วกใส่หรือครับ” ฌอนย้อนถามเสียงดัง
“ใช่ ผู้หญิงด้วยนะ”
คำพูดของทักษกรทำให้ฌอนอดที่จะนึกถึงผู้เป็นพี่สาวขึ้นมาไม่ได้ เขาพยายามเมียงมองไปที่โต๊ะก็ไม่เห็นหรือว่าเจ้าตัวกลับไปแล้ว โทร.หาก็เป็นฝากข้อความ แล้วผู้หญิงที่ไหนกันนะถึงกล้าอ้วกใส่พี่ภรรยาเขาได้
แล้วคนเนี๊ยบกริบอย่างอีกฝ่ายไม่โกรธแย่หรือ แต่ท่าทางที่เห็นไม่บ่งบอกว่าโกรธเลยนี่นา
“แถมอ้วกแล้วหนีอีกต่างหาก”
“อ้วกแล้วหนี!” ฌอนถามเสียงสูง
“อืม” ทักษกรพยักหน้าพลางจุดรอยยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่งแล้วพูดพึมพำกับตัวเอง “หนียังไงก็จะตาม
หาให้เจอ”
คิ้วเข้มของฌอนขมวดเข้าหากัน นึกแปลกใจไม่น้อยเพราะสีหน้าของทักษกรยามพูดนั้นไม่ได้ฉายแววโกรธเคืองแม้แต่น้อย เหมือนอยากเจอด้วยเหตุผลอย่างอื่นมากกว่า ชายหนุ่มนึกสังหรณ์ใจแปลกๆ
เรือนซ่อนกลิ่นคอฟฟีคาเฟ่
หิรัญญิการ์ก้าวลงจากรถยนต์คันใหญ่คู่ใจ ก่อนจะยืนกอดอกมองร้านกาแฟของตัวเองด้วยความชื่นชมชื่อของร้านเรือนซ่อนกลิ่นคอฟฟีคาเฟ่ ซึ่งหญิงสาวมั่นใจว่าไม่ซ้ำกับร้านใครอย่างแน่นอนนั้น นางพุดแก้วผู้เป็นยายเป็นคนตั้งให้ และนอกจากชื่อร้านจะสะดุดหูแล้วยังตั้งอยู่ในทำเลทองอย่างริมถนนเลียบด่วนรามอินทรา ซึ่งเป็นจุดที่ใครต่อใครผ่านไปมาต้องสะดุดตา จนอดไม่ได้ที่จะเหลียวกลับมามองซ้ำอีกครั้งจากที่เธอยืนสังเกตอยู่
สาเหตุที่ว่าน่าจะมาจากการตกแต่งของร้าน ที่เป็นการผสมผสานระหว่างความวิจิตรงดงามแบบไทยสมัยโบราณ กับความทันสมัยสไตล์โมเดิร์นแบบตะวันตกที่เน้นหนักไปทางรูปทรงเลขาคณิตพื้นที่ขว้างขวางภายในร้านถูกแบ่งเป็นสองส่วน ที่แม้จะดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทว่ามุมเหลี่ยมต่างๆ
กลับลงตัวกลมกลืนแนบเนียนไม่ขัดตา ทางซ้ายมือถูกจัดวางไว้ด้วยโต๊ะเก้าอี้รูปทรงทันสมัยอย่างเหมาะเจาะเบาะรองนั่งสีสันสดใจที่วางไว้บนเก้าอี้ นอกจากจะนั่งพิงอย่างสบายแล้วยังทำให้ร้านดูสว่างไสวขึ้น ตามมุมต่างๆ จัดวางชั้นหนังสือสำหรับให้ลูกค้าอ่านระหว่างดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟ ช่วยทำให้บรรยากาศคล้ายกับการนั่งดื่มกาแฟภายในบ้านของตัวเองมากกว่านั่งอยู่ในร้าน
เคาน์เตอร์สีดำสนิทสำหรับวางเครื่องชงกาแฟสีน้ำตาลเข้มถูกสั่งทำเป็นพิเศษไม่ซ้ำแบบใคร ผนัง
ด้านหลังเป็นภาพเมนูของกาแฟชนิดต่างๆ โดยมีชื่อเขียนไว้อยู่ด้านล่างของภาพ ด้านขวาเป็นถ้วยกาแฟรูปทรงสวยงามแปลกตาแขวนเรียงรายอยู่อย่างมีศิลปะ
ส่วนที่สองทางด้านขวามือมีการตกแต่งราวกับอยู่ในยุคสมัยโบราณไม่ว่าจะเป็นพื้นกระดานที่ถูกขัดจนมันวับ ตั่งไม้สักสีเหลืองทองประดับมุกถูกวางไว้เป็นจุดๆ มีเบาะลวดลายไทยไว้สำหรับให้ลูกค้านั่งพิง
นอกจากนั้นบนเพดานยังมีภาพวาดลวดลายไทยอ่อนช้อยงดงาม ตามผนังมีภาพขนมไทยชาววังนานาชนิดติดอยู่เป็นระยะ มีชื่อประกอบไว้ทุกภาพ สลับกับภาพชาคุณภาพดีชนิดต่างๆ รวมทั้งสรรพคุณ
ภายในตู้กระจกโค้งแบบโบราณลวดลายวิจิตร วางเรียงรายไว้ด้วยขนมไทยชาววังสีสันสวยงาม รวมทั้งหน้าตาน่ากินหลากหลายชนิด บนภาชนะที่มองดูก็รู้ว่าเป็นของเก่าแก่ทรงคุณค่า
การตกแต่งร้านและแนวคิดต่างๆ นั้น หิรัญญิการ์ซึ่งเคยประกอบอาชีพมัณฑนากรมาก่อนเป็นผู้สรรค์สร้าง เธอไม่อยากทำร้านกาแฟให้เหมือนใคร ส่วนใหญ่ร้านกาแฟทั่วไปมักจะคล้ายกันแทบทุกร้าน และที่เหมือนจนกลายเป็นของคู่กันก็คือขนมเค้ก หญิงสาวคิดว่าถ้าเปลี่ยนจากขนมเค้กแบบฝรั่งเป็นขนมไทยโดนเฉพาะขนม
ชาววังที่นางพุดแก้วผู้เป็นยายมีชื่อเสียงทางด้านนี้อยู่แล้วก็น่าจะดีไม่น้อย ที่สำคัญหญิงสาวเคยเข้าไปดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟนรสิงห์ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเธอรู้มาว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านกาแฟ ที่เกิดขึ้นเป็นแห่งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ร้าน
กาแฟนรสิงห์นั้นขึ้นชื่อทั้งในด้านรสชาติของกาแฟและอาหารชาววังทั้งคาวและหวานต่างๆ ตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งบัดนี้ แล้วทำไมเธอจะทำร้านกาแฟควบคู่ไปกับขนมไทยบ้างไม่ได้
“อ้าว...คุณพลู เมื่อคืนไปงานเลี้ยง แต๋นก็นึกว่าจะกลับมานอนที่นี่”
ทิพวรรณซึ่งเป็นบาริสต้าประจำร้าน และเพิ่งเดินทางมาถึงที่ทำงานเอ่ยทักเจ้านายสาวด้วยน้ำเสียง
แปลกใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนกอดอกอยู่หน้าร้าน ทำเอาคนถูกทักถึงกับสะดุ้งโหยง
“อ๋อ...เมื่อคืนถนนโล่งก็เลยกลับไปนอนที่บ้านสวนแล้วก็รีบออกมาแต่เช้านี่แหละจ้ะ”
หิรัญญิการ์ตอบพลางยิ้มแห้งๆ เมื่อคืนหลังจากสร้างวีรกรรมที่ไม่น่าจดจำด้วยการอ้วกใส่ทักษกร แล้วยังหนีมาริสาผู้เป็นเพื่อนกลับบ้าน ตอนแรกหญิงสาวตั้งใจจะขับรถกลับมานอนที่ร้านซึ่งอยู่ไม่ไกลกับสถานที่ที่เธอไปงานเลี้ยงนัก แต่เป็นเพราะความตกใจหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้เธอขับรถกลับบ้านสวนเฉยเลยก็ตั้งแต่เกิดมาจนอายุย่างเข้าสามสิบ เพิ่งจะเคยเมาแล้วอ้วกใส่คนอื่นก็คราวนี้แหละ แล้วหญิงสาวก็อดยิ้มออกมาด้วยความขบขันไม่ได้