ตอนที่ 2

1140 Words
ตอนที่ 2 แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบเข้ามากับม่านหน้าต่างพร้อมสายลมอ่อนๆ ที่พัดพาเอาสายลมเข้าไปยังห้องนอน ม่านผ้าโปร่งแสงกระพือขึ้นลงราวกับปีกผีเสื้อที่พยายามโผบิน สายลมอ่อนหอบเอากลิ่นหอมหวานของดอกโมลี่ (ดอกมะลิ) ที่ปลูกไว้เป็นแปลงขนาดใหญ่ข้างเรือนนอนของฮูหยินเอก แสงแดดยามเช้าพร้อมกับสายลมทำให้ทั้งสองนั้นหลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างบางกระชับผ้าห่มหนานุ่มให้ถึงต้นคอระหงของนาง อีกทั้งเรือนร่างที่เปลือยเปล่าก็ถูกโอบกอดอย่างทะนุถนอม มือหนาโอบเอวคอดไว้ แขนหนาแกร่งกำยำเป็นหมอนหนุนให้ภรรยาตัวน้อย ร่างหนากระชับนางให้อุ่นขึ้นพร้อมเสียงเรียกด้านนอกที่ดังอย่างต่อเนื่อง เพราะรุ่งเช้าต้องรับอาหารเช้าแต่ว่า ทั้งสองยังไม่ก้าวเท้าออกจากห้อง ดังนั้นสาวใช้จึงได้เพียงแต่เอ่ยขานเรียกเจ้านายของตน “หุบปากเสียที รำคาญ” เสียงอู้อี้ บ่นอุบอิบทั้งที่ดวงตาหงส์นั้นยังปิดสนิทอยู่ มือเรียวก็ดึงผ้าคลุมจนถึงศีรษะพลางมุดหน้า หาอกแกร่งของผู้เป็นสามี แม่ทัพใหญ่หรือสามีปากสุนัขที่นางนั้นรังเกียจนักหนา กับแค่นหัวเราะในลำคอ ไม่มีสตรีใดในโลกนี้ไม่รักสามีเช่นนางหรอกกระมัง ปากก็ว่าเกลียดนักหนาแต่ยามหลับมักจะเข้ามาหาอกแกร่งให้เขากอดนางจนหลับเช่นเด็กน้อยตัวเล็ก มีหรือเขาจะไม่รักนาง นางเป็นภรรยาเพียงคนเดียวที่เขารักที่สุดและจะไม่มีภรรยารองหรืออนุให้นางเจ็บช้ำใจไปมากกว่านี้ อันว่าบุรุษนั้นย่อมมีภรรยามาก แต่เขาตั้งใจและสัญญาไว้กับนางก่อนแต่งงานว่าจะมีเพียงนางผู้เดียว และไอ้ที่ชอบเข้าสถานเริงรมย์นั้นก็ไปทำงานทั้งสิ้นตามพระประสงค์พี่ชายบุญธรรมของนางนั่นแหละจึงเป็นเหตุให้นางนั้นโมโหเขาอยู่ทุกวี่วัน นางหึงและหวงเขาจึงได้เป็นเช่นนี้ เขาจึงได้รักยายแก่ขี้บ่นแถมยังชอบลงไม่ลงมือกับสามีเช่นเขาอีกด้วย ใครจะรู้ว่าเขาก็กลัวภรรยาเช่นเดียวกัน หากไปกับพี่ชายบุญธรรมนางเมื่อไหร่ เขามิอยากไปเลยสักนิดเพียงแต่เขานั้นเป็นขุนนางย่อมทำตามรับสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พี่ชายบุญธรรมของนางคือไท่จื่อ และไท่จื่อก็เป็นญาติผู้พี่ของเขา พระมารดานั้นเป็นพระขนิษฐาของท่านลุง เป็นองค์หญิงของแคว้นและได้แต่งงานกับบิดาของเขา เขาประกาศไม่รับตำแหน่งอ๋องน้อย ที่ท่านลุงพระราชทานให้ ทุกคนล้วนรู้ว่าเขานั้นโหดเหี้ยมเพียงใด ฆ่าคนไม่กะพริบตาอีกทั้งเขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ท่านลุงฮ่องเต้จึงได้แต่ยอมโดยดี “ภรรยารัก ตื่นได้แล้วหิวหรือไม่” เขามุดเข้าไปใต้ผ้าห่มที่คลุมศีรษะภรรยาเอ่ยเรียกเบาๆ หวั่นว่านางจะไม่พอใจขึ้นมา “อืม” คำขานรับแต่เปลือกตายังปิดสนิทอยู่ เขาก้มใบหน้าลงพร้อมกับหอมแก้มนุ่มนิ่มของภรรยาไปหลายฟอด “เล่นอะไรอีกเนี่ย ข้าจะนอน” นางเอ่ยมือไม้ปัดจมูกผลักหน้าเขาให้ออกไปให้ไกลตัวนาง “แก้มเจ้าหอมยิ่งนัก หากไม่ตื่นขึ้นพี่คงจะจับเจ้ากินลงท้องแทนข้าวสักมื้อสองมื้อ” สามีตัวดีเอ่ยอย่างนุ่มนวล มีหรือเขาไม่อยากกินนาง เนื้อตัวนุ่มนิ่มกลิ่นกายหอมหวานละมุนยิ่งนัก อีกทั้งซาลาเปาคู่หน้าก็ใหญ่จนเกินตัว ช่างนุ่มนิ่มมือยามจับคลึง “ข้าตื่นก็ได้ ปวดเมื่อยไปทั้งตัว” นางเปิดผ้าห่มที่คลุมจนมิดตอนนี้ใบหน้าเรียวติดซีดไปเล็กน้อย พร้อมดวงตาหงที่ง่วงงุนอีกทั้งผมเผ้าก็ฟูรุงรังเพราะหนักหน่วงยิ่งนัก จนทำให้เตียงที่นอนอยู่เกือบหักลงมา “ปวดเมื่อยเช่นนั้น สามีไม่ไปประชุมแล้วอยู่ปรนนิบัติภรรยาดีหรือไม่” เขามีประชุมช่วงสายๆ ของวันนี้ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงสักเท่าไหร่ เป็นปัญหาปากท้องของชาวบ้านในเขตทุรกันดาร นางเบิกตากว้างสว่างสดใสขึ้นมาทันที ความง่วงงุนเมื่อครู่หายเป็นปริดทิ้ง “ไม่ต้องเจ้าค่ะ” นางรีบเอ่ย นางไม่อยากให้เขาอยู่ที่จวนด้วย ไม่ใช่เพราะรังเกียจสามีดั่งเช่นเมื่อคืน แต่รำคาญเขามากกว่าหากอยู่ที่จวนเมื่อไหร่ก็จับนางกินทั้งวัน จนนางเดินไม่ได้ ทำให้อับอายบ่าวไพร่ยิ่งนัก หึๆ เขายกยิ้มพลันหัวเราะเยาะภรรยาตัวดีที่เมื่อคืนขู่เขาหมายจะเอาเลือดหัวเขาออก ตอนเช้ากลับเปลี่ยนเป็นคนละคน เขารักนางเพราะแบบนี้ “ก็ได้ หิวหรือไม่ ประเดี๋ยวอาบน้ำก่อนแล้วพี่จะเอาข้าวมาป้อนให้นะ ดูแล้วคงจะลุกเดินไม่ไหวไปอีกหลายวัน” เขาว่า พลางมองภรรยาตัวน้อยที่ทำตาเขียวส่งใส่เขาเมื่อเขาแกล้งเย้าแหย่ เขายกยิ้มร่าอย่างพอใจ “เจ้าค่ะ” สายตาเขียวปั้นปึ่งยังส่งให้ต่อเนื่อง เพราะเขาทั้งนั้นแหละที่ทำให้นางเป็นเช่นนี้ คนอะไรคึกคักทั้งคืน จนนางสลบไปเขาก็ยังไม่หยุด ไม่รู้ไปกินอะไรมาถึงได้เป็นเช่นนี้ และนางต้องอายบ่าวไพร่อีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่กัน “เสี่ยวชุน เตรียมน้ำให้ฮูหยิน” เจ้านายของจวนเรียกสาวใช้ที่ยืนอยู่หน้าห้อง “เจ้าค่ะ นายท่าน” เสี่ยวชุนขานรับและรีบไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฮูหยินอย่างรู้หน้าที่ “เดี๋ยวพี่อุ้มเจ้าไปอาบนะ” เขาเอ่ยพลางมีเลศนัยและคาดว่าจะจับนางกินอีกครั้งก่อนรับอาหารเช้า “อย่าดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านพี่” นางรีบเอ่ยพลางจะลงจากเตียง “โอ๊ย” ขานางยังสั่นไม่หาย ยืนทรงตัวไม่ได้พลันเจ็บและปวดหลังไปหมด สามีตัวดีนั้นรีบโอบประคองและอุ้มร่างบางที่เปลือยเปล่า ซาลาเปาใหญ่นั้นก็ชนเข้ากับอกแกร่งของเขาอย่างไม่ตั้งใจ เขายกยิ้มปลื้มปริ่มอีกครั้งอย่างพอใจ ใบหน้างามล้ำซบที่ไหล่กว้างของสามี เรือนกายของนางนั้นมีแต่จุดจ้ำสีแดงที่แสดงความเป็นเจ้าของทิ้งร่องรอยทั่วเรือนกาย “ท่านพี่ อย่าไปที่หอคณิกาอีกเลย หากท่านอยากได้พวกนางมาอยู่ในจวนก็ย่อมได้ ข้าจะไปไถ่ตัวพวกนางให้ เจ้าค่ะ” นางเอ่ยอย่างจริงใจ เพราะนางไม่อยากถูกรังแกเช่นนี้อีก นางใจกว้างเช่นนั้นหรือย่อมไม่ใช่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD