แต่คำตอบนั้นก็ทำให้เขาเริงรื่น จนมีรอยยิ้มนิดที่มุมปาก และเขามีความหวังที่จะได้เจอหล่อนบ้าง เพราะไม่ได้เจอกันนาน
“อ้าว มาสิคะ ตะกี้เห็นอยู่แถวนี้ ก็เธอเพิ่งลงเครื่องมาถึงเมื่อเช้านี้เอง หนูเมนิกาสวยไม่สร่างเลยเชียว”
คนที่เอ่ยตอบเขาดูเหมือนจะเคยรู้จักหล่อนเป็นอย่างดี ทำให้เขาพยายามเมียงมอง หรือหล่อนรู้ว่าเขามา แต่พยายามเก็บซ่อนตัวเอาไว้ เพราะหล่อนเคยบอกเขาว่าไม่ต้องการและไม่อยากเจอหน้า
ในฐานะคนที่เคยรู้จักกัน คบหากันในระดับหนึ่งของความลึกซึ้งในดวงใจระหว่างกัน
จนมีเหตุเขาต้องเดินทางกลับมาที่เมืองไทยก่อนหล่อนหลายปี เป็นเพราะคำสั่งของบิดาและมารดา
“อยู่นี่เองหรือ”
ในที่สุดเขาใช้ความสามารถจนดั้นด้นมาพบร่างระหงที่หยุดยืนอยู่คนเดียว ตรงพุ่มไม้ น้ำเสียงของเขาแจ่มชัด หล่อนจำได้
“ใช่ ถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับ”
“ ถ้าคุณกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเลย ผมจะดีใจอย่างที่สุด”
หล่อนไม่ได้หันมาทางเขา เพราะกับการที่ได้พบเขาณตรงนี้ เป็นเรื่องไม่คาดคิด และหล่อนยังไม่ทันตั้งรับและตั้งตัวได้แล้ว
“แล้วคุณล่ะ แต่งงานมีลูกมีเต้ากี่คนแล้ว”
จนเมนิกาเอ่ยถามเขา
หากแต่ ชารุตก็ตอบส่งเดช หล่อนไม่เคยคิดเลยว่า คนที่เขารอคอย นั้นมีเพียงหล่อนแค่คนเดียวสลิลญานั้นแต่งงานกับพี่ชายของเขาไปแล้ว มีแต่เขาที่ไม่คิดจะตกลงปลงใจหรือลงเอยกับสาวคนไหนสักคน จึงเคว้งคว้างเป็นพ่อพวงมาลัยแบบเงียบๆส่วนตัว โดยตามปกติของเขา
“ก็สามคนแล้ว” คำตอบของเขา
มันทำให้ลมหายใจของหล่อนเต้นแรง
มีคำถามของเขากลับไปบ้าง
“แล้วคุณล่ะ คงแต่งงานไปแล้วสินะ กับชาวต่างชาติ เพราะคุณลุ่มหลงหนุ่มชาวตะวันตกมากมายพอสมควรเลยนี่”
“ใช่ “ เมนิกาตอบกลับไป หล่อนก็ยังต้องการไม่ให้เขารู้เรื่องราวส่วนตัวของหล่อนอยู่ดี
“ผมเสียใจด้วยนะเรื่องเกี่ยวกับคุณพ่อคุณ”
“ค่ะ” เมนิกายินยอมตอบ และหล่อนก็เอ่ยต่อ ในสิ่งที่หล่อนอยากอยู่ห่างจากเขา
“ขอโทษนะ ถึงได้เจอกัน แต่ก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก อีกอย่างในภาวะที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฉันอย่างนี้ ฉันขอตัวก่อน”
เมนิกาตัดบท ไม่อยากให้ถ่านไฟเก่าลุกโหมกระหน่ำใจอีกครั้ง ในเมื่อเขาแต่งงานมีครอบครัวอย่างที่เขาพูดแล้วนี่ ฮึ ผู้ชายที่สุดแสนจะน่ารัก สุดหล่อในอดีตของหล่อน ริ้วรอยของความหล่อในแบบฉบับของเขา ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม
ยิ่งวัยของเขามากขึ้น เมนิกาได้เห็นเขาเป็นครั้งแรกก็อดสะท้านใจไม่ได้
เขาพอจะเข้าใจ แล้วร่างของเมนิกาก็ผละจากไป และเมื่อสวดพระอภิธรรมศพของบิดาวันแรกครั้นเสร็จแล้ว หล่อนขอตัวกลับไปที่พักเลยในทันที แทบจะไม่ให้พี่น้องคนอื่นซักต่อ เมนิกากลับมาอยู่กับลูกชาย ที่ตื่นแล้ว ยังไม่ได้บอกถึงความจริง ว่ามีอะไรเกิดขึ้นใน
ครอบครัว เพราะแกยังเล็กเหลือเกิน ยังไม่รู้ความและไร้เดียงสา
ชารุตรับรู้ว่าหล่อนกลับมาแล้ว แต่ใจเขายังหวงแหนหล่อน เมนิกาอาจจะมีผู้ชายคนอื่น
เขาล่ะ ยังไม่มีใครเลย แต่ก็โกหกหล่อนว่ามีคนอื่น
มันเป็นความสบายใจของเขาที่ดูสะใจลึกๆเหลือเกิน หล่อนไปแล้ว เขาอยากติดตามหาที่อยู่หล่อน แต่ไม่มีทาง เมื่อถามทางญาติ ปรากฏบอกว่า หล่อนไม่ได้พักอยู่ที่บ้าน ทำไม เมนิกาชอบทำตัวให้เป็นปริศนาเสมอ
หล่อนไม่ภาคภูมิใจหรือไงการกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าไอ้หนุ่มตาน้ำข้าวนั่นจะตามหล่อนมาด้วยหรือเปล่า หรือหล่อนซ่อนมันเอาไว้ ไม่กล้าพาตัวให้ใครๆรู้จักในงาน เขาเจอพี่ชายคนโตของหล่อน ทักทายเพื่อจะถามเรื่องนี้
“พี่โมไนย เมล่ะครับ”
โมไนยมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะตอบ เขารู้จักชายหนุ่มตรงหน้า
“เอ ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่ได้ถามยัยเมด้วย แกก็รีบไป ดูเหมือนจะมีธุระสำคัญ”
นี่คือคำตอบที่เขาไม่อาจจะทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับที่อยู่ของหล่อน
“ทำไม เมไม่พักอยู่กับบ้าน”
เขาชอบอย่างนี้ของเขา เหมือนพวกฝรั่งที่ชอบอยู่เป็นส่วนตัว เมนิกาก็อยู่แต่ยุโรป
“ครับ” จากนั้นเขาก็ก้าวจากไป
ไม่กระจ่างแจ้งเลย เมื่อข่าวพ่อของหล่อนตาย ที่เขาเองก็คิดว่ามีเงื่อนงำ
เขาปรารถนาที่จะพบหล่อน แต่เหมือนเมนิกาไม่อยากจะเจอเลย เขาคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติเขาจะไม่ได้เจอหล่อนเสียอีก เพราะคิดว่า เมนิกายินยอมอยู่ยุโรปตลอดชีวิต
รุ่งเช้าที่เขาตื่นและตั้งใจมุ่งตรงมาที่วัดแห่งนี้ศาลาเดิมเมื่อครั้งพบเจอหล่อนมั่นใจเสมอว่า เมนิกาจะต้องเดินทางมา และหล่อนตกใจอย่างมากที่เมื่อเจอเขา เมื่อเวลาเจ็ดโมง
“เมนี่” เขาเรียกหล่อน
แต่หล่อนไม่ฟัง เบี่ยงตัวไปทางอื่น หลังจากที่ลงจากรถแท็กซี่ เลยเดินเข้าไปในครัว
เห็นทีหล่อนต้องคุยกับชารุตให้ยืดยาวเสียแล้วว่า เราไม่ควรพบเจอกันอีก ให้พ้นจากงานของบิดาของหล่อนผ่านพ้นไปก่อน ณ เวลานี้ ฉุกละหกและกะทันหันไปหมด
หากแต่เขาพบเจอกับสายตาของคุณเอมอรที่มุ่งมองมา เขารับทราบว่าหล่อนเป็นภรรยาคนหนึ่งของนายถกล ที่ไม่ได้ออกหน้าออกตานัก
และคุณเอมอรอยู่ในบ้านใหญ่หลังนี้ นั่นน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ เมนิกาไม่ได้เข้าพักในบ้านของหล่อนเอง เขาเดาและมั่นใจว่า หล่อนน่าจะพักอยู่ที่โรงแรมใดสักแห่ง
“อ้าว คุณ มาแต่เช้านะคะ”
ดลฤดีมองตามสายตามารดาบ้าง หล่อนรับรู้ว่าเขาหน้าตาดีมาก สะอ้านและหล่อเหลา ฉุดเอาใจของดลฤดีไขว้เขวไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้เหลือบแลสายตามาทางหล่อนสักนิด ดูเหมือนจะหยิ่งอย่างมาก
รู้แต่วันแรกที่พบเห็นแล้ว เขาเอาตัวไปป้วนเปี้ยนและใส่ใจกับเมนิกาลูกสาวคนเล็กของคุณถกล บิดาเลี้ยงของหล่อน ที่หล่อนกลัวว่า เมื่อเมนิกาตัดสินใจกลับเข้ามาเมืองไทยนั้น หล่อนกับมารดาจะไม่ได้อะไรเลย เพราะเท่าที่ทราบอยู่มารดาเป็นภรรยานอกสมรสของคุณถกล
นี่เอง ที่หล่อนไม่สบายใจและเป็นกังวลทุกด้านไปหมด แต่หล่อนไม่รอให้เมนิกาเฉดหัวพวกหล่อนออกไปจากบ้านกับแม่หรอกนะ หล่อนต้องจัดการก่อน วิธีจัดการอย่างไร แน่นอนล่ะ ดลฤดีวางแผนมาแยบยล
เสร็จจากพิธีฌาปนกิจศพของนายถกลก่อนเถอะ ทุกอย่างจะเริ่มต้นตามแผนการ หล่อนสืบเสาะหาคนได้แล้ว พร้อมทั้งค่าจ้างการวางแผน เป้าหมาย ตอนนี้ดลฤดีจึงวางตัวแบบนิ่งๆไปก่อน