ขอรักได้ไหมคุณพี่เลี้ยง 3

877 Words
ขอรักได้ไหมคุณพี่เลี้ยง 3 อากาศร้อนอบอ้าวชวนให้น่าหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย อ้ายเหรินหยิบกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาหมายมั่นตั้งใจจะไปเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน หลังจากที่เธอส่งงานชิ้นล่าสุดไปแล้วเรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้เธอเองก็เป็นอิสระและต้องการชานมเย็น ๆ สักแก้วเพื่อเยียวยาความเมื่อยล้านี้ให้หายไป ระหว่างที่ขับรถอยู่นั้นโทรศัพท์เธอก็มีสายเรียกเข้ามาเป็นพี่ชายคนโตของเธอที่ติดต่อเข้ามาในตอนนี้ แต่ทว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะคุยแม้เรื่องนี้จะผ่านมาแล้วเกือบสองสัปดาห์ก็ตาม ความรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจที่เคยเกิดขึ้นในครั้งนั้นเมื่อถูกสะกิดแผลเป็นอีกครั้งเธอยังคงรับรู้ความเจ็บปวดนั้นได้อย่างดี “โห รถติดมาก” ริมฝีปากเล็กเอ่ยบ่นไม่จริงจังมากนักกับสภาพการจราจรที่แสนติดขัดในวันหยุดเช่นนี้ สักพักใหญ่หญิงสาวก็มุ่งหน้าเข้าสู่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าที่เป็นปลายทางของเธอ สิ่งแรกที่จะทำหลังจากมาถึงคือไปที่ร้านชานมที่เธออยากกิน “สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ?” พนักงานสอบถามยามที่คนตัวเล็กเดินไปหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์ร้าน “สวัสดีค่ะ เอาชาเย็นหวานหนึ่งร้อยแก้วใหญ่ค่ะ แล้วก็เอาเค้กอย่างละหนึ่งชิ้นกลับบ้าน” “ได้ค่ะ ทั้งหมด...” เมื่อได้รับเครื่องดื่มหวาน ๆ เธอก็ดื่มและเดินเลือกซื้อของเข้าบ้านไปพลางอย่างสบายใจ เพราะเพื่อนสนิทยังทำงานอยู่ทำให้วันนี้เธอต้องมาเดินเล่นคนเดียว ก็ถือว่าปกติละนะ เพราะปกติเธอก็มาคนเดียวบ่อย ๆ ได้แต่คิดกับตัวเองราวกับว่านี่เป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป อ้ายเหรินเดินซื้อของจนครบและตั้งใจที่จะเดินทางกลับบ้าน ทว่าระหว่างที่เธอกำลังย้ายของจากรถเข็นไปเก็บที่ท้ายรถก็มีเด็กคนหนึ่งวิ่งมุ่งหน้ามาทางเธอด้วยความเร็ว จะก้าวหลบก็ไม่ทันเมื่อร่างเล็กนั้นชนเธอจนล้มลงกับพื้น พร้อมกับใบหน้าบิดเบี้ยว “หนู เป็นอะไรไหมคะ เจ็บตรงไหนบ้าง” เธอนั่งลงพร้อมกับจับตามแขนขาเมื่อดูเด็กน้อยว่าบาดเจ็บตรงไหนไหม “ไม่ ไม่เจ็บ” “เดินไหวไหม แล้วผู้ปกครองอยู่ไหนทำไมวิ่งมาคนเดียวแบบนี้” ยังคงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง หากแต่เด็กน้อยส่ายหน้ากลับมาให้ พร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้ง หรือเด็กจะพลัดหลงกับผู้ปกครองกันนะ “เดี๋ยวพี่พาไปจุดประชาสัมพันธ์นะ จะได้ประกาศหาผู้ปกครอง” ตอนนี้ผู้ปกครองเด็กก็คงจะห่วงอยู่ไม่น้อยที่จู่ ๆ ลูกหลานก็หายไปแบบนี้ “ไม่เอา ไม่ไป” “ทำไมล่ะ” อ้ายเหรินทวนถามด้วยความไม่เข้าใจ “ผม...” “คุณหนู!!!” เสียงตะโกนดังจากด้านหลังพร้อมกับกลุ่มคนที่วิ่งกรูเข้ามา เด็กน้อยตกใจรีบวิ่งมาหลบด้านหลังหญิงสาวพร้อมกับกอดขาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย “คุณหนูจะวิ่งออกมาแบบนี้ไม่ได้นะครับ มันอันตราย” “ไม่!!” “ไปกันเถอะครับ เจ้านายรออยู่” “ไม่ไป!! เราไม่เอาคนใหม่” ครั้งแรกฉันนึกกลัวว่าคนพวกนี้จะทำร้ายเด็กน้อย แต่พอเห็นว่าเด็กน้อยนั้นต่อกรได้ก็พอจะวางใจว่าพวกเขาคงจะรู้จักกันจริง ๆ ก็ท่าทีอ่อนน้อมของคนตัวใหญ่ตรงหน้าทำให้ฉันพอจะดูออกบ้างว่าเด็กน้อยคนนี้คงไม่ต่างจากเจ้านายพวกเขา “ค่อยไปคุยกับเจ้านายนะครับคุณหนู” คนตัวใหญ่ยังพยายามหลอกล่อคนที่เรียกว่าคุณหนูให้กลับไปพร้อมกับตน เมื่อเห็นท่าทางไม่ดีจึงส่งให้ผู้ช่วยอีกสองคนเข้ามาอุ้มเด็กน้อยนี้ไป แม้จะเด็กจะร้องไห้งอแงหรือดีดดิ้นมากเพียงไรก็ยากที่จะต้านทานแรงของผู้ใหญ่ได้ “ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ พอดีคุณหนูชอบเล่นสนุกแบบนี้น่ะครับ” คนที่ทำหน้าที่ต่อรองกับเด็กน้อยก่อนหน้านี้เอ่ยบอกกับหญิงสาวที่ยังยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้อยู่ “อ้อ ค่ะ แต่เด็กน่ะ ถ้ามีแต่ใช้ความรุนแรงแล้วบังคับเขาจะยิ่งต่อต้านนะคะ” “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมขอตัวก่อนครับ” คล้อยหลังกลุ่มคนเหล่านั้นเดินหายไป อ้ายเหรินถึงได้สติรีบกลับขึ้นรถตัวเองเพื่อเดินทางกลับบ้าน แม้ภายในใจลึก ๆ จะเป็นห่วงเด็กน้อยคนนั้น แต่ก็เข้าใจว่านั่นเป็นลูกคนรวยที่จะเอาแต่ใจก็ไม่แปลก แต่แววตาเศร้า ๆ ของเด็กกลับทำให้เธอจดจำภาพนั้นได้อย่างดี และหวนคิดถึงอยู่เสียเรื่อยไป หวังว่าเธอจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่นะเด็กน้อย อธิษฐานขอพรให้กับเด็กน้อยคนนั้น... ====== เราเสียใจมากๆเลยค่ะ เราไม่สามารถกดบัตรไปหาแรงบรรดาลใจของตัวเองได้ เป็นซึมและเศร้ามากไม่รู้จะทำยังไงเลยค่ะ ขอกอดทุกคนได้ไหม T_T
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD