เวลาต่อมา @หน้าโรงแรมห้าดาว ในตัวเมืองภูเก็ต
“คุณคะ ระวังค่ะ” หญิงสาวเข้าไปประคองร่างของผู้พันหนุ่มที่กำลังจะล้มหัวทิ่ม
“ขอโทษครับ ผมเมาหนักไปหน่อย”
“ให้ไปส่งมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมพักที่โรงแรมนี้เอง อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงลิฟต์แล้ว” ผู้พันหนุ่มพยายามปฏิเสธหญิงสาวที่เข้ามาประคองตนเองโดยยังไม่ทันเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายพร้อมกับพยายามฝืนเดินต่อ
“อีกไม่กี่ก้าวของคุณมันน่าจะมากกว่าสิบก้าวนะคะ ให้ฉันไปส่งคุณดีกว่า ดูท่าทางของคุณแล้วไม่น่าจะเดินถึงลิฟต์นะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงทั้งที่ยังประคองผู้พันหนุ่มอยู่
“ขอบคุณครับ ผมไปเองได้” ผู้พันกานต์สะบัดแขนของตนเองให้ออกจากการประคองของอีกฝ่าย
“คุณกลัวฉันเหรอ” เขมจิราเอ่ยถามผู้พันหนุ่มอย่างรู้ทันกับอาการที่อีกฝ่ายแสดงออกมา
“กลัว??” นาวาอากาศตรีชนกันต์เลิกคิ้วมองคนที่พยุงร่างของตนเองก่อนจะพูดออกไป
“ก็อาการของคุณมันฟ้อง”
“อยากไปส่งมากใช่มั้ย...ได้!!...ไปกันสิ” คนทั้งสองเดินเข้าลิฟต์เพื่อไปยังห้องพักในโรงแรมหลังจากที่สบตามองหน้าดูชั้นเชิงกันอยู่สักพัก
เวลาต่อมา @ห้องพักในโรงแรม
“ผมถึงห้องแล้ว ขอบคุณที่มาส่งถึงเตียงนะครับ” ผู้พันหนุ่มทิ้งตัวลงบนที่นอนทันทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบอกหญิงสาวที่ยืนมองเขาอยู่
“ให้ฉันช่วยอีกมั้ยคะ” เขมจิราล้มตัวลงนั่งข้างผู้พันหนุ่มที่นอนหลับตาพร้อมกับเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของอีกฝ่าย
“ผมว่า ผมรบกวนคุณมากไปแล้ว เชิญคุณออกไปจากห้องพักของผมได้แล้ว” นาวาอากาศตรีชนกันต์เอื้อมมือไปจับมืออีกฝ่ายไว้ให้หยุดการกระทำดังกล่าว ก่อนจะลืมตามองแล้วพูดออกมาเพื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาต้องการให้เธอออกไปจากห้องนี้โดยเร็วที่สุด
“รังเกียจฉันเหรอคะ” หญิงสาวโน้มตัวลงมาทาบทับบนหน้าอกผู้พันหนุ่มที่ยังมีอาการมึนเมาและพยายามดึงสติของตัวเองให้หลุดพ้นจากอาการเมาและผู้หญิงตรงหน้า
“ออกไป!” นาวาอากาศตรีชนกันต์ร้องตะโกนออกไปอย่างดังด้วยอารมณ์โกรธกรุ่นที่เกิดขึ้นพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งผลักร่างที่ทาบทับลงมาที่ร่างของตัวเอง
แต่ดูเหมือนว่าร่างกายไม่ยอมทำตามคำสั่ง พร้อมกับอารมณ์เร่าร้อนที่เกิดขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อหญิงสาวด้านบนโน้มใบหน้าลงมางับที่กกหูทั้งยังขบกัดเบาๆ จนขนตามร่างกายลุกขึ้นชูชันรวมถึงไปแก่นกายภายใต้ร่มผ้าที่เริ่มอยากออกมาหายใจด้านนอก
“อ่าส์...” เสียงครางของผู้พันหนุ่มที่ดังออกมาเบาๆ พร้อมกับร่างกายที่เริ่มสัมผัสสัดส่วนต่างของร่างหญิงสาวบนตัวอย่างห้ามความต้องการไม่อยู่
เขมจิราที่เห็นอาการของอีกฝ่ายที่เกิดจากฤทธิ์ยาที่เธอได้มาจากรุ่นพี่ที่รู้จักกันมานานและคอยช่วยเหลือเธอทุกครั้งที่เกิดปัญหาหรือเธอร้องขอความช่วยเหลือ
“มันเป็นน้ำมันหอมระเหยผสมตัวยาปลุกอารมณ์ในผู้ชายจำพวกประเภทนกเขาไม่ขันต้องใช้กัน ขนาดผู้ชายที่นกเขาไม่ขันยังเกิดอารมณ์แล้วคิดว่าผู้ชายปกติจะห้ามความรู้สึกต้องการได้เหรอ แต่ว่ายาตัวนี้น่ะจะใช้ได้ผลดีกับคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็เข้าทำนองพวกเมาแล้วเกิดอารมณ์ทำนองนี้ วิธีใช้ก็ง่ายแค่ป้ายตามร่างกายพวกต้นคอ ใบหน้า ให้กลิ่นไปช่วยกระตุ้นอารมณ์อยาก”
หญิงสาวเมื่อเห็นอาการของคนตรงหน้าที่เหมือนอยากปลดปล่อยอารมณ์ เธอจึงเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนร่างกายออกทีละชิ้นต่อหน้าผู้พันหนุ่ม การกระทำของเธอยิ่งกระตุ้นความต้องการจนผู้พันหนุ่มทานทนไม่ได้ เขากระชับเอวบางแล้วดึงร่างหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเข้าหาตัวจนร่างกายบดเบียดแนบชิดแทบเป็นเนื้อเดียวกันก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปจูบอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องการตอบสนองกลับอย่างหนัก
แขนเรียวข้างหนึ่งโอบรอบคอผู้พันหนุ่ม ส่วนอีกข้างทำหน้าที่ปลดกระดุมเสื้อ จนเจ้าของเสื้อที่เห็นท่าทีที่ไม่แล้วเสร็จสักที เขาจึงผละจากจูบที่ดูดดื่มแล้วทำการถอดเสื้อของตนรวมถึงยกสะโพกขึ้นพร้อมกับถอดส่วนล่างที่เกะกะออกไปให้หมด จากนั้นผู้พันหนุ่มก็เริ่มต้นบทรักด้วยการโน้มลงมากอดจูบที่ซอกคอชื้นเหงื่อของหญิงสาว
“อื้อ...” เขมจิราซุกใบหน้าเข้าหาแผงอกของผู้พันหนุ่มที่กำลังคลอเคลียบริเวณซอกคอของเธอและกำลังเลื้อยลงมาเรื่อยๆ
“ซี๊ด...อ่าส์” เสียงครางของผู้พันหนุ่มดังลั่นห้อง เมื่อส่วนร่างของคนทั้งคู่เริ่มเสียดสีกัน รวมถึงมือไม้ของพวกเขาสัมผัสร่างกายทุกส่วนของกันอย่างไม่ยอมกันและกัน
จนกระทั่งเป็นผู้พันหนุ่มที่อดทนต่อความต้องการกับร่างบางใต้ร่างไม่ไหว มือที่กำลังบีบเคล้นบริเวณเนินอกของหญิงสาวข้างหนึ่งได้ผละออกแล้วไปจับส่วนล่างของตนเพื่อให้มันเข้าไปในร่างกายของอีกคนในเวลาต่อมาทันทีอย่างรวดเร็วและครั้งเดียวมิดลำ จนเขมจิราต้องกัดปากเพื่อกลั้นเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและจุกเสียดเมื่อแก่นกายใหญ่เข้าสู่ร่างกายของเธออย่างไม่ทันตั้งตัวอย่างรุนแรง
“อ๊า...ซี๊ด...เชี๊ย...แน่นจังวะ” นาวาอากาศตรีชนกันต์ครางเสียงสั่นพร้อมกับสบถออกมาเมื่อถูกภายในร่องรักบีบรัดอย่างหนัก
“อ๊า...ไม่ไหว...ขยับนะ” จบคำพูดผู้พันหนุ่มทำการกระแทกสะโพกใส่หญิงสาวอย่างหนักหน่วงจนไม่ให้อีกฝ่ายได้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว
นาวาอากาศตรีชนกันต์กระหน่ำเข้าออกช่องทางรักของหญิงสาวอย่างไม่หยุดพัก ส่วนหญิงสาวก็ทำการโน้มใบหน้าลงไปจูบอีกฝ่ายเพื่อลดความเจ็บปวดในร่างกายของตน เรียวลิ้นเล็กที่แทรกเข้าไปภายในปากของผู้พันหนุ่มยิ่งกระตุ้นให้การกระแทกรุนแรงขึ้น เรียวขาเรียวทั้งสองข้างตวัดขึ้นเกาะแน่นกับเอวสอบ ยิ่งทำให้แก่นกายเข้าไปกระทบกับผนังเนื้อนุ่มด้านในซ้ำๆ ทำเอาทั้งคู่รู้สึกทั้งเจ็บปวดและเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน แต่ความเสียวซ่านมันมากเกินกว่าจะหยุดการกระทำดังกล่าวได้
เขมจิราไม่อาจรู้ได้ว่าบทรักครั้งนี้มันจะหยุดลงเมื่อไร แต่ที่เธอมั่นใจเกินร้อยนั่นก็คือ ตอนนี้แผนการที่เธอวางไว้ได้สำเร็จไปเกินครึ่งแล้ว เหลือเพียงผลิตผลจากการกระทำนี้ที่จะทำให้แผนการลุล่วงร้อยเปอร์เซ็นต์