บท 5 แผนร้ายขั้นต่อไป (1)

2151 Words
สองเดือนต่อมา @โรงพยาบาล “พี่กานต์ รอนานมั้ยคะ” ปรียาดารีบเดินเข้ามาถามคนรักที่นั่งรออยู่หน้าโรงพยาบาลอย่างตกใจที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมารอแล้ว “ไม่นานครับ สำหรับน้องดาให้รอทั้งชีวิตก็รอได้” ชนกันต์ยิ้มให้คนรักก่อนจะตอบกลับด้วยคำหวาน “กลัวว่าพอถึงเวลาที่พี่กานต์ไม่ต้องรอน้องดาแล้ว จะมีผู้หญิงมาบอกว่าท้องกับพี่กานต์ หรือเปล่านะ” คำพูดหยอกล้อจากคุณหมอสาวทำเอาผู้พันหนุ่มถึงกับชะงักไปทันทีเมื่อภาพเหตุการณ์ในวันนั้นฉายเข้ามาในหัวอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ถูกฝึกมาจากหน่วยงานพิเศษ ทำให้เขารีบปรับสีหน้าเป็นปกติจนคนตรงหน้าไม่ได้สังเกตเห็น “รอดูครับว่าจะมีมั้ย” ผู้พันหนุ่มบอกออกไปด้วยน้ำเสียงปกติก่อนจะจับมือคุณหมอสาวให้เดินตามไปยังรถที่ตัวเองจอดไว้ “หืมม หรือว่าแอบมีใครซ่อนไว้หรือเปล่า” ปรียาดาเดินมาดักหน้าผู้พันหนุ่มแล้วมองตาอีกฝ่ายอย่างจับผิด แต่ชนกันต์ตอบกลับไปด้วยแววตาเป็นประกายอย่างความอ่อนโยนเหมือนที่เคยมองคนตรงหน้าประจำก่อนจะยกมือขึ้นมาโยกศีรษะเบาๆอย่างเอ็นดูกับอาการหึงเล็กของคุณหมอสาว “ไม่มีครับ แฟนทั้งสวย น่ารักและใจดีขนาดนี้ จะหาแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก พี่ไม่มีทางเสียเพชรเม็ดนี้ไปเป็นอันขาด” ผู้พันหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะจูงมือคนรักพาเดินต่อ “ขอให้จริง ถ้าจับได้ว่าแอบมีนะ น้องดาจะ...” “จะอะไรครับ” ชนกันต์สวนกลับก่อนที่คุณหมอสาวจะพูดจบอย่างอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไรถ้าหากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา แต่เขาก็ยังมั่นใจว่าจะไม่มีทางเกิดเหตุการณ์อย่างที่คนรักพูดขึ้นมาอย่างแน่นอน “จะร้องไห้แล้วจะไม่มาเจอพี่กานต์อีกเลย” “อย่ากังวลเลยครับ พี่ไม่มีทางที่จะมีใครนอกจากน้องดาแน่นอน ในหัวใจของพี่มีเพียงน้องดาคนเดียวเท่านั้น” “น้องดาเชื่อพี่กานต์ค่ะ” ปรียาดาหันมาตอบคนรักด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในความเชื่อใจคนรักที่กำลังจูงมือกันเข้าพิธีหมั้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า “รีบไปกันดีกว่าครับ เดี๋ยวรถจะติด เชื่อใจพี่นะครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชีวิตของพี่จะรักเพียงน้องดาคนเดียวเท่านั้น” ชนกันต์เปิดประตูตรงฝั่งที่นั่งคนขับให้คนรักก่อนจะบอกออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนดั่งคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อคุณหมอสาว เวลาต่อมา @ร้านห้องชุดแบรนด์ POEM “สวัสดีค่ะคุณน้องดา คุณหญิงโทรมาแจ้งไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญคุณน้องดากับผู้พันทางนี้เลยค่ะ” พนักงานของร้านเข้ามาทักทายลูกค้าประจำอย่างคุณหมอสาวอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับพาคนทั้งคู่ไปยังพื้นที่ส่วนตัวทันที “ชุดที่ทางร้านเตรียมไว้มีทั้งหมด 9 ชุด ไม่รู้ว่าจะถูกใจคุณน้องดาสักชุดมั้ย แต่ทางร้านคัดเลือกชุดที่สวยที่สุดของร้านและเข้าคอนเซ็ปต์งานตามที่คุณหญิงแจ้งไว้นะคะ” พนักงานของร้านบอกกับคุณหมอสาวขณะที่เข้ามายังห้องลองชุด โดยที่ผู้พันหนุ่มนั่งรออยู่ตรงโซฟาด้านนอก เพราะฝ่ายชายขอใส่ชุดเครื่องแบบขาวของทหารอากาศ “หืมม คอนเซ็ปต์งาน?” คุณหมอสาวออกอาการงงทันทีหลังได้ยินคำบอกเล่าดังกล่าว เพราะทั้งเธอและคนรักตกลงกันว่าจะจัดงานเล็กๆมีเพียงญาติผู้ใหญ่ที่สนิทและเพื่อนคนสนิทของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นไม่มีธีมหรือคอนเซ็ปต์งานอะไรทั้งสิ้น “คุณหญิงบอกว่าให้สวยสะพรั่งดั่งเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยายค่ะ” พนักงานของร้านบอกออกไปพร้อมกับเรียกเหล่าลูกน้องทยอยนำชุดมาให้คุณหมอสาวเลือก “งั้นดูชุดกันเลยนะคะ” “ได้ค่ะ” หลังจากนั้นชุดทั้งหมด 9 ชุด ก็เริ่มถูกทยอยเข้ามาให้ปรียาดาเลือก ซึ่งในแต่ละชุดที่เอามาให้เลือกนั้นถ้าเธอใส่คงเหมือนนางวรรณคดีไทยในละครแน่ๆ เพราะแต่ละชุดมีเครื่องประดับติดตามชุดอย่างอลังการจนคุณหมอสาวลังเลที่จะเลือก “คุณใยไหมคะ” “ว่าไงคะคุณน้องดา คุณน้องดาสนใจชุดไหนเป็นพิเศษคะ” “น้องดาขอชุดที่แบบธรรมดากว่านี้ได้มั้ย แบบชุดไทยจิตรลดาหรือชุดไทยประยุกต์ได้มั้ยคะ” “เอ่อ แต่ว่า...คุณหญิง...บอกว่า” “น้องดาขอชุดไทยจิตรลดาแบบธรรมดาที่สุดค่ะ” ปรียาดาเน้นเสียงเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีอาการลังเลที่จะทำตามคำขอของเธอ “ได้ค่ะ” พนักงานของร้านเรียกลูกน้องให้เอาชุดเซตใหม่มาให้คุณหมอสาวดูแทนเซตเดิมที่ผู้เป็นแม่ของคุณหมอสาวได้บอกไว้ “โอเคค่ะ งั้นน้องดาขอลองชุดสีน้ำเงินค่ะ” ปรียาดามองชุดไทยทั้งสิบชุดที่พนักงานของร้านเอามาให้เลือกใหม่แล้วชี้ไปยังชุดที่ถูกใจทันที “หืมม ไม่เอาสีขาว สีชมพู หรือสีครีมเหรอคะ” พนักงานของร้านได้ยินถึงกับตกใจเล็กน้อยที่คุณหมอสาวดูจะเลือกสีชุดไม่เข้ากับงานสักเท่าไหร่ “ทำไมเหรอคะ” “คือว่าชุดไทยจิตรลดาสำหรับงานหมั้นโดยปกติแล้วเค้าจะเลือกใช้สีอ่อนหรือโทนสีสว่างค่ะ เช่น สีขาว สีครีม สีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน หรือสีโอลด์โรส เพราะสีพวกนี้เป็นสีที่จะช่วยให้เจ้าสาวดูโดดเด่น สวยสง่างาม เหมาะกับงานมงคลแบบนี้นะคะ” “น้องดาขอชุดสีน้ำเงินค่ะ” ปรียาดาย้ำความต้องการของตัวเองอีกครั้ง ทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าทัดทานได้ จึงเรียกลูกน้องเข้ามาช่วยคุณหมอสาวเปลี่ยนชุด “มาแล้วค่ะ” พนักงานของร้านเดินออกมาพร้อมกับเปิดผ้าม่านที่กั้นไว้ออก ปรียาดาที่มาในชุดสีน้ำเงินที่เธอเลือกด้วยตัวเองครั้งแรก ด้วยแปลกตาจนสะกดใจอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะความพิเศษของชุดไทยชุดนี้อยู่ตรงที่มีการผสมผสานของสองวัฒนธรรมไว้ด้วยกันระหว่าง ชุดไทยจิตรลดากับชุดไทยล้านนา โดยทางร้านได้เลือกใช้ผ้าไหมยกดอกเชิงหัวท้ายลายปลายเทียนสีน้ำเงินเข้ม ผ้าไหมทอมือพื้นเมืองของชาวลำพูนสอดตามขวางของเส้นยืนจนเกิดเป็นลวดลาย เพิ่มความหรูหราด้วยการประดับกระดุมทองลายดอกพิกุลแบบโบราณที่คนชนชั้นสูงสมัยก่อนเลือกใช้ แม้ดูผิวเผินชุดที่คุณหมอสาวใส่จะดูเรียบๆ แต่ด้วยผิวพรรณและใบหน้าที่สวยสะดุดตาทำให้ชุดที่ปรียาดาเลือกใส่นั้นทำให้เธอดูสง่างามดั่งเจ้าหญิงอย่างที่ผู้เป็นแม่อยากเห็นในวันงานหมั้นของเธอ “สวยมากเลยครับ จนอยากให้อาทิตย์หน้าเปลี่ยนเป็นงานแต่งแทนได้มั้ยครับ” ชนกันต์ถึงกับตาค้างกับความสวยของคนตรงหน้าจนพูดออกมาอย่างที่ใจคิดจนปรียาดาถึงกับเขินอายกับอาการและคำพูดของคนรัก “พี่กานต์...” ปรียาดาถึงกับมีสีหน้าไปไม่ถูกทีเดียว จึงทำได้เพียงหันหน้าไปมองตัวเองตรงกระจกที่ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่านั่นตัวเธอเองหรือเปล่า “ทีมงานคุณใยไหมเก่งต่างหากค่ะ ทำลูกเป็ดขี้เหร่อย่างน้องดาสวยขนาดนี้ได้” “โอ๊ย ลูกเป็ดขี้เหร่อะไรล่ะคะ คุณน้องดาสวยยังกับดารา นี่ช่างแต่งหน้าทำผมให้นิดหน่อยเอง คุณน้องดายังสวยสง่าขนาดนี้ วันงานจริงผู้พันกานต์จะทนไหวมั้ยคะเนี๊ย” “กลัวไม่ไหวน่ะสิครับ” ผู้พันหนุ่มรับมุกจากพนักงานของร้านจนคุณหมอสาวถึงกับยืนหน้าแดงอย่างเขินอาย “ถ้าวันงานสวยมากกว่านี้กลัวจะรอให้ถึงวันแต่งไม่ไหวจริงๆนะครับ” ชนกันต์เดินเข้ามาหาคนรักใกล้ขึ้นแล้วจับมือเบาๆอย่างสื่อความหมาย “ทนไม่ไหวก็ต้องทนค่ะ น้องดาได้ยินมาว่าทอทหารอดทนนะคะ” “เฮ้อ จะทนไหวได้แค่ไหนก็ไม่รู้” ผู้พันหนุ่มเปรยออกมาไม่จริงจังนักอย่างนึกอยากแกล้งคนรักที่ดูสีหน้าเป็นกังวลกับการแสดงออกของเขา “รอน้องดาแค่ไม่นานหรอกนะคะ” คราวนี้คุณหมอสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนกำลังอ้อนวอนกันคนรัก “พี่ก็พูดไปขำๆครับ พี่บอกแล้วไงครับ ให้รอตลอดชีวิตพี่ก็จะรอน้องดาคนเดียว” “ขอบคุณนะคะที่เข้าใจ” ปรียาดาเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดที่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ขอทำตามความฝันจนทำให้คนรักต้องรอเวลาไปอีก ทั้งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็คะยั้นคะยออยากให้ลงเอยกันเป็นสามีภรรยาเสียที อีกทั้งแม่ของทั้งสองฝ่ายถึงขนาดไปขอฤกษ์แต่งงานกับพระอาจารย์ชื่อดังมาให้พร้อมคำเตือนที่ว่าถ้าไม่แต่งตอนนี้คนทั้งสองอาจจะได้เจอการพลัดพรากจากกัน แต่เธอก็ยังยืนกรานที่จะไม่ทำตาม แต่ยอมผู้ใหญ่ด้วยการหมั้นหมายกันก่อนในวันที่เป็นฤกษ์แต่งงานของเธอกับคนรัก โดยที่มีคนรักคอยสนับสนุนและเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอมาโดยตลอด วันหมั้น เวลา 07.00 น. @โรงแรมหรูติดแม่น้ำของครอบครัวชนกันต์ กรุงเทพฯ “ห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าวอยู่ชั้น 22 ห้อง 2202 อันนี้คีย์การ์ดสำหรับขึ้นไปยังชั้นนั้น ผู้พันกานต์พักอยู่คนเดียว ส่วนว่าที่คู่หมั้นไม่ได้พักด้วย ส่วนกำหนดการของงานเก้าโมงสิบเก้านาทีสวมแหวนหมั้น ก่อนหน้านั้นน่าจะเริ่มอยู่ในห้องจัดงานตอนกันน่าจะประมาณแปดโมงเช้า ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงเข้า แกมีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการปิดดีลครั้งนี้” แพรวนภาบอกกับเขมจิราพร้อมกับมอบคีย์การ์ดที่เธอได้มาจากการจองห้องพักเพื่อให้เพื่อนรักได้ขึ้นไปยังชั้นดังกล่าว แล้วยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะบอกเพื่อนออกไป “มีคีย์การ์ดขึ้นไปอีกเหรอ” เขมจิรารับคีย์การ์ดมาแล้วพูดออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะวางระบบความปลอดภัยขนาดนี้ “นี่โรงแรมหรูแบบเงียบสงบ รับประเภทคนที่มาพักส่วนใหญ่เป็นพวกคนรวยโลกส่วนตัวสูงน่ะแก เลยต้องมีทั้งคีย์การ์ดของแต่ละชั้นอีกชั้นนึงเพื่อไม่ให้คนที่ไม่ได้พักอยู่ชั้นนั้นเข้ามารบกวน พูดง่ายๆถ้าเมียหลวงจะมาจัดการผัวกับเมียน้อยก็ต้องลงทุนจ่ายค่าห้องพักเหยียบหมื่นนี่แหละ” “อืมม เข้าใจแล้ว” “แน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันไปเป็นเพื่อนจริงๆ ไหนตอนแรกแกจะให้ฉันถ่ายคลิปส่งให้แฟนของผู้พันไง” “เห็นการรักษาความปลอดภัยของโรงแรม ฉันไม่อยากให้แกโดนหางเลขไปด้วย แต่ในระหว่างที่พูดตกลงกัน ฉันจะโทรศัพท์หาแก แกก็อัดเสียงที่ฉันคุยกันกับเค้าแล้วก็ส่งคลิปเสียงนั้นไปถึงผู้หญิงคนนั้น ฉันคิดว่าคบกันมานานขนาดนี้ จะจำเสียงกันไม่ได้ก็แปลกแล้ว” “อืมม เอาอย่างที่แกว่ามาก็ได้ งั้นฉันรอแกอยู่ห้องคาเฟ่ของโรงแรมชั้นล่างนี้นะ แกก็ระวังตัวด้วยล่ะ ยิ่งท้องอ่อนอยู่ อย่าใช้ความรุนแรงกันนะ” แพรวนภาพยักพเยิดใบหน้าให้เพื่อนหันไปมองยังห้องที่เธอพูดถึง แล้วจึงบอกกับเพื่อนต่ออย่างเป็นห่วงก่อนจะโบกมือลากันชั่วคราว วันนี้เป็นวันที่เขมจิรารอคอยให้มาถึง ตลอดเวลายี่สิบปีที่เธอต้องฝันร้ายถึงความโหดร้ายของคนที่เธอเคยเรียกว่าแม่ ทั้งที่ไม่ใช่แม่ที่ให้กำเนิด รวมถึงภาพอ้อนวอนขอความเห็นใจจากผู้เป็นพ่อในวันที่ผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป เพราะผู้หญิงคนนั้นให้พ่อของเธอเลือกระหว่าง ภรรยาและลูก ซึ่งถ้าหากว่าพ่อของเธอเลือกผู้หญิงคนนั้น พ่อจะต้องนำเธอไปไว้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตามที่ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นสั่งให้พ่อของเธอทำ แต่พ่อของเธอยังมีความเป็นพ่ออยู่มากแม้ว่าจะเคยเป็นสามีที่แย่ เลือกที่จะเลี้ยงดูเธอและขอให้ผู้หญิงใจร้ายทิ้งพ่อและเธอไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD