ทุกคนต่างทำหน้ามึนงงสงสัยในตัวลี่หลินเป็นอย่างมาก เมื่อกี้นางยังร้องไห้ไม่ยอมหยุดอยู่เลยแต่เพียงแป๊บเดียวก็กลับมาหัวเราะเสียอย่างนั้น ไม่รู้นางได้รับบาดเจ็บหนักจนเลอะเลือนหรือไม่
“พวกเจ้าไม่ต้องมองข้ายังกับว่าเห็นผีเลยนะ” ลี่หลินหันกลับไปมองหน้าสามพี่น้องอย่างคาดโทษ สภาพนางตอนนี้คงเกินคำว่าดูไม่ได้ไปมาก อย่างไรนางก็ได้โชคใหญ่มา จะไม่ถือสาเอาความก็แล้วกัน
“เจ้าเจ็บตรงไหนอีกหรือไม่” หยางหนิงเฉิงเอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ
“ไม่มีแล้ว นอกจากข้อเท้าก็มีแต่แผลถลอก” ลี่หลินสำรวจตัวเองอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งก่อนบอกเขา
เมื่อเห็นว่านางไม่มีส่วนไหนบาดเจ็บเพิ่มเติมและสามารถขยับตัวได้ตามปกติ หยางหนิงเฉิงจึงทำทีจะเดินเข้ามาอุ้มนาง
“หยุด หยุดก่อน ข้ายังไม่ต้องการไปไหน พวกเจ้าสามคนพี่น้องช่วยกันเก็บสิ่งนี้มาให้ข้า เก็บมาให้หมดเลยนะ อย่าให้เหลือแม้แต่ต้นเดียว” ลี่หลินสั่งงานทุกคนหน้าตาเฉย
“พี่สะใภ้ต้องการหญ้าพวกนี้ไปทำอะไรหรือเจ้าคะ” อ้ายฉิงเอ่ยถามออกมาตาใส หากพี่สะใภ้ต้องการแน่นอนว่าพวกมันย่อมมีประโยชน์ แต่นางไม่รู้ว่าหญ้าพวกนี้มีประโยชน์อันใด
“เจ้าอย่าเรียกพวกมันว่าหญ้าเชียวนะ ต้องเรียกพวกมันว่าถังเช่า มันคือขุมทรัพย์ที่จะทำให้พวกเราหลุดพ้นจากความยากจนได้” ลี่หลินบอกอ้ายฉิงอย่างนางพญา
“อ่อ อ๊ะ ข้าทำมันหัก ไม่เป็นไรใช่ไหมเจ้าคะ” อ้ายฉิงชูหญ้าหนอนที่นางทำขาดเป็นสองท่อนให้ลี่หลินดู
“กรี๊ดดดดดดดด อ้ายฉิงงงง เจ้า เจ้า ข้าจะบีบคอเจ้า นี่มันแหล่งเงินแหล่งทองของข้า เจ้าทำมันหักได้อย่างไร” ลี่หลินกรีดร้องออกมาสุดเสียง นี่มันแหล่งเงินทองชั้นดีเชียวนะอ้ายฉิงทำกับหญ้าหนอนแบบนี้ได้ยังไง
“อะ เอ่อ” อ้ายฉิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นางคงทำผิดจนพี่สะใภ้ใหญ่โมโหอีกแล้วสินะ
“พวกเจ้าทั้งสามคนหยุดก่อน หยุดแล้วฟังข้า หญ้านอนที่พวกเจ้ากำลังเก็บอยู่เป็นยาสมุนไพร มีมูลค่ามากมายมหาศาล ฉะนั้นพวกเจ้าต้องเก็บมันอย่างทะนุถนอม อย่าให้เสียหายเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นข้าจะหักคอพวกเจ้าเมื่อข้าลุกขึ้นเดินเองได้” ลี่หลินร้องขู่ออกไปอย่างเข่นเขี้ยว
“เจ้าค่ะ ข้าจะทะนุถนอมพวกมันอย่างดี รับรองว่าไม่มีเสียหายอีก” อ้ายฉิงรีบให้สัญญาทันที นางต้องทำให้ดีถ้าไม่อยากถูกพี่สะใภ้ด่า
หลังจากบอกวิธีเก็บเกี่ยวหญ้าหนอนให้ทุกคนเรียบร้อย ลี่หลินก็ทำหน้าที่ตรวจสอบหญ้านอนในตะกร้าอย่างละเอียด หากใครเก็บมาแล้วหญ้าหนอนเสียหายก็ถูกนางด่ากันไปตามระเบียบ หญ้านอนที่ได้มามีเพียงครึ่งตะกร้าเท่านั้น ลี่หลินมองผลงานในมืออย่างไม่ค่อยพอใจ หากเก็บได้ในปริมาณเยอะกว่านี้พวกนางคงไม่ต้องขึ้นเขาให้ลำบากกันอีก
“ทำไมเจ้าถึงทำหน้าหดหู่เช่นนั้น” หยางหนิงเฉิงถามออกมาเมื่อเห็นว่านางไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“ข้าอยากได้พวกมันเยอะกว่านี้ แต่ไม่เป็นไร ได้เท่านี้ก็ถือว่าดีแล้ว” ลี่หลินบอกเขาด้วยน้ำเสียงเสียดาย
“พวกเรากลับกันเถอะ หากล่าช้ากว่านี้จะมืดค่ำเอาได้ ส่วนดอกไม้ค่อยให้อี้เฉินกับอ้ายฉิงมาเก็บวันหลัง”
“อืม ดีเหมือนกันข้าอยากกลับบ้านไปอาบน้ำพักผ่อนเต็มที สภาพข้าตอนนี้คงบุกป่าฝ่าดงต่อไม่ไหว” ลี่หลินคล้อยตามเขาอย่างว่าง่าย สภาพมอมแมมเปื้อนดินโคลนไปทั้งตัวแบบนี้ นางไม่อาจทนต่อไปได้
หยางหนิงเฉิงเข้ามาแบกลี่หลินไว้ด้านหลังก่อนพานางเดินออกจากหุบเขาด้วยความทุลักทุเลโดยมีอ้ายฉิงกับอี้เฉินคอยประคองไว้ เมื่อออกจากหนทางลาดชันได้พวกเขาทั้งหมดต่างตรงไปยังหมู่บ้านทันที แต่กว่าจะมาถึงเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ยามเซินจนได้ (15.00-16.59)
“พวกเราเช่าเกวียนพาเจ้าไปหาหมอไม่ทัน อย่างเร็วคงไปได้พรุ่งนี้ตอนเช้า เจ้าอดทนรอก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าหาสมุนไพรมาประคบให้เจ้าก่อน” เมื่อวางลี่หลินลงบนเก้าอี้ในห้องโถงเรียบร้อย หยางหนิงเฉิงก็หันมาคุยกับนางอย่างรู้สึกผิด
“ข้าเข้าใจ ตอนนี้ใกล้มืดค่ำแล้วไปตอนเช้าก็ได้” ลี่หลินตอบเขา การเดินทางเข้าไปในตัวตำบลเวลาใกล้มืดค่ำเช่นนี้เป็นเรื่องไม่ปลอดภัย
“เดี๋ยวข้าไปหาสมุนไพรมาประคบให้เจ้าก่อน ส่วนเรื่องอาหารให้อ้ายฉิงทำ” หยางหนิงเฉิงบอกลี่หลินก่อนรีบเร่งจากไป
อ้ายฉิงรับหน้าที่ทำอาหารคืนนี้ก็จริงแต่ยังคงมีลี่หลินคอยกำกับนางเช่นเดิม อาหารค่ำวันนี้มีแกงจืดหมูสับใส่เห็ดหอม ปลาทอด และข้าวสวยร้อนๆ เหมาะสำหรับคนป่วยอย่างลี่หลินมาก
ทั้งสี่คนกินอาหารมื้อนี้ด้วยความหิวโหยอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนแยกย้ายไปนอนพักผ่อนเพื่อเอาแรง ลี่หลินแจ้งให้ทุกคนทราบว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนางจะกลายเป็นคนมีเงินและซื้อของทุกอย่างเข้าบ้านจนพึงพอใจ
เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยรอยยิ้มอันสดใสของลี่หลิน วันนี้นางให้หยางหนิงเฉิงไปเช่าเกวียนวัวของต้าไห่เพื่อเข้าเมืองโดยเฉพาะ การเดินทางบนเกวียนครั้งนี้จึงมีเพียงครอบครัวหยางเท่านั้น ส่วน หยางหนิงเฉิงทำหน้าที่เป็นสารถี
“พี่สะใภ้ พวกเราจะขายหญ้าหนอนพวกนี้ได้แน่หรือเจ้าคะ” อ้ายฉิงเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย หญ้าธรรมดาจะมีราคามากมาย
“เอ๊ะ ข้าบอกเจ้าแล้วให้เรียกว่า ถังเช่า เจ้าจำไม่ได้หรือตั้งใจกวนโมโหข้ากันแน่” ลี่หลินชักสีหน้าใส่อ้ายฉิงอย่างไม่พอใจ นางจำได้ว่าเคยบอกไปครั้งหนึ่งแล้ว เด็กคนนี้เห็นนางเป็นคนชอบโกหกหรืออย่างไร
“พะ พี่สะใภ้ ท่านอย่าได้โมโห ข้าความจำสั้นเองครั้งหน้าจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว พวกเราเข้าเมืองวันนี้ท่านอยากไปที่ไหนบ้างเจ้าคะ” อ้ายฉิงรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อเอาตัวรอดทันที
“พวกเราไปขายปลาก่อน เสร็จแล้วก็เอาหญ้าหนอนหรือถังเช่าไปขาย พอได้เงินมาพวกเราค่อยไปหาหมอและซื้อของต่ออีกนิดหน่อย” ลี่หลินเล่าแผนการในหัวที่นางคิดไว้ให้อ้ายฉิงฟัง
“พี่สะใภ้วางแผนไว้ดียิ่งนัก พวกเราเอาตามนั้นเลยเจ้าค่ะ”
“อ้อ ข้าลืมถามไป หนิงเฉิงกับอี้เฉินพวกเจ้าต้องการซื้อของอย่างอื่นหรือไม่” ลี่หลินหันไปถามชายหนุ่มสองที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเกวียน
“พวกเราไม่ต้องการซื้ออะไร เอาตามแผนของเจ้าได้เลย” หยางหนิงเฉิงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ ทำให้คนฟังรื่นหูยิ่งนัก
ใช้เวลาเพียงไม่นานตระกูลหยางก็เดินทางมาถึงตำบลจนได้ หยางหนิงเฉิงบังคับเกวียนไปจอดบริเวณเหลาอาหารหงหลูฟางตามที่ลี่หลินบอกเอาไว้เสร็จแล้วจึงนำปลาออกมาขาย วันนี้พวกเขาขายปลาได้ถึง 2 ตำลึงเงินเลยทีเดียว เหล่าพี่น้องตระกูลหยางดีใจกันยกใหญ่ เพราะวันนี้ขนปลามาได้จำนวนมากจึงขายได้เงินเยอะตามไปด้วย
ลี่หลินมองภาพตรงหน้าอย่างเบิกบานใจ หากคนพวกนี้รู้ว่าถังเช่าของนางทำเงินได้มากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่าจะไม่ตกใจตายกันหรือ แค่คิดถึงเงินนางก็มีความสุขขึ้นมาแล้ว
“หนิงเฉิงท่านรู้จักร้านขายยาราคายุติธรรมหรือไม่” ลี่หลินถามเขา นางต้องการร้านขายยาที่ให้ราคาดีที่สุด
“อืม ข้ารู้จัก สมัยท่านพ่อป่วยก็มาซื้อยาร้านนี้ประจำ เถ้าแก่ร้านนี้เป็นคนใจดีมีน้ำใจ เคยให้ยาข้าฟรีโดยไม่รับเงินด้วย”
“ท่านพาข้าเข้าไปหน่อยได้หรือไม่ ข้าจะเอาสมุนไพรไปขาย” หยางหนิงเฉิงมองสมุนไพรในตะกร้าของลี่หลินด้วยความไม่มั่นใจแต่เขาก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรนางได้
“อ้าว อาเฉิง วันนี้เจ้ามาซื้อยาอะไร” หลงจู๊จางหย่งเอ่ยทักทายหยางหนิงเฉิงอย่างเป็นมิตร
“เอ่อ ข้าไม่ได้มาซื้อสมุนไพรหรอก วันนี้ข้ามาขายไม่ทราบว่าหลงจู๊รับซื้อหรือไม่” หยางหนิงเฉิงถามออกมาอย่างกระอักกระอ่วนใจ
“ข้ารับซื้อสมุนไพรทุกชนิด ว่าแต่วันนี้เจ้าเอาสมุนไพรอะไรมาขายให้ข้าหล่ะ” หลงจู๊สอบถามออกมาอย่างใคร่รู้ ปกติหยางหนิงเฉิงรู้จักสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดไม่คิดว่าวันนี้เขาจะนำมาขายได้
“นี่เจ้าค่ะ หลงจู๊สนใจหรือไม่” ลี่หลินหยิบถังเช่าต้นหนึ่งออกมาจากตะกร้าให้หลงจู๊จางหย่งพิจารณาอย่างใจเย็น
“นี่มัน เจ้าได้มาจากที่ใด แล้วเจ้าเป็นใครหรือแม่นาง” หลงจู๊รัวคำถามใส่ลี่หลินชุดใหญ่
“ข้าเป็นภรรยาของหยางหนิงเฉิงเจ้าค่ะ ขออภัยที่ลืมแนะนำตัวไป ว่าแต่พวกเราคุยกันเรื่องสมุนไพรในห้องรับรองดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าคิดว่าท่านคงไม่อยากให้คนนอกรับรู้เรื่องนี้” ลี่หลินแนะนำตัวเสร็จก็เอ่ยถามต่อทันที
“แม่นางเป็นคนเฉลียวฉลาด รอบคอบ อาเฉิงโชคดีเสียจริงที่ได้เจ้าเป็นภรรยา ตามข้าขึ้นมาบนห้องรับรองเถิด” หลงจู๊ผายมือให้สองสามีภรรยาเป็นการเชื้อเชิญก่อนจะเดินนำขึ้นไป ลี่หลินหันไปบอกอี้เฉินกับอ้ายฉิงให้ตามมาด้วย นางอยากให้ทุกคนรับรู้เรื่องเงินร่วมกัน ต้องจัดการให้ดีตั้งแต่เริ่มต้นในอนาคตจะได้ไม่เป็นปัญหา