อาหารเย็นวันนี้ลี่หลินต้องการทำน้ำแกงหน่อไม้กระดูกหมู หมูสับผัดหน่อไม้ ปลาเผาเกลือ ส่วนข้าวคงต้องทำเป็นโจ๊กไปก่อน เพราะข้าวในบ้านมีเหลือให้กินได้อีกเพียงสองหรือสามวันเท่านั้น
“อ้ายฉิง เจ้าช่วยก่อไฟให้ข้าหน่อยเสร็จแล้วไปต้มโจ๊กด้วย ข้าจะทำอาหารเอง”
“ท่านจะทำหรือเจ้าคะให้ข้าทำเองดีกว่า ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ เพิ่งหายป่วยวันนี้เองอย่าพึ่งหักโหมนัก” อ้ายฉิงไม่เคยเห็นลี่หลินทำอาหาร นางกลัวว่าหากทำแล้วกินไม่ได้จะเสียของ อาหารในบ้านมีอยู่เพียงน้อยนิดต้องกินอยู่อย่างประหยัด
“เอ๊ะ ข้าบอกว่าจะทำเองทำไมเจ้าชอบขัดนัก ชอบกวนโทสะให้คนโมโหเล่นหรืออย่างไร ข้าไม่คุยกับเจ้าแล้วจะไปแบ่งหมูมาทำอาหารเพิ่ม เจ้าทำตามที่ข้าบอกเลยนะอ้ายฉิง เข้าใจหรือไม่” พูดจบลี่หลินก็เดินถือชามสะบัดก้นออกไปข้างนอกอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยสิ่งใด ถึงนิสัยของนางจะดีขึ้นไม่ได้รู้สึกรังเกียจสามพี่น้องครอบครัวหยางแล้วก็ตามแต่อารมณ์ขี้โมโหยังเป็นปัญหาใหญ่สำหรับลี่หลิน
นางแก้นิสัยนี้ไม่ได้เพียงแค่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนิดหน่อยและรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองเท่านั้น ถ้าเป็นอีกโลกนางคงโดนคุณแม่กับคุณยายบ่นจนหูชาพร้อมด้วยการทำโทษให้หลาบจำอีกยกใหญ่
“พวกท่านจะทำอะไรหน่ะ” ลี่หลินเหลือบมองไปเห็น หยางหนิงเฉิงกำลังถือถังใส่เครื่องในหมูเดินออกไปจึงรีบร้องถาม นางว่าจะมาขอเนื้อหมูกับกระดูกหมูไปทำอาหารสักหน่อย
“ข้าจะเอาเครื่องในหมูไปฝังดิน เจ้าไม่ต้องกังวลข้าจะนำไปฝังให้ไกลจากตัวบ้านรับรองว่าไม่มีกลิ่นรบกวนแน่นอน”
“ท่านเอาไปทิ้งทำไม เอากลับมาเลยนะของพวกนี้ล้วนกินได้ทั้งนั้น” ลี่หลินออกคำสั่ง คนพวกนี้ช่างไม่รู้จักของกินเอาซะเลย มิน่าถึงได้อยู่อย่างอดอยากไม่มีอะไรกินกัน
“ข้าขอโทษ แม้ข้าจะเลี้ยงเจ้าได้ไม่ดีนัก แต่ข้าไม่อยากให้เจ้ากินของพวกนี้ มันทั้งคาวและสกปรก ไม่มีใครกินกันหรอก เจ้าเองก็ไม่ควรกินเช่นกัน พรุ่งนี้หากล่าสัตว์ได้ข้าจะซื้อของกินดีๆ มาฝาก” หยางหนิงเฉิงพูดกับลี่หลินด้วยท่าทีร้อนรนและรู้สึกผิด สีหน้าของเขาหม่นหมองลงไปหลายส่วน แม้เขากับนางจะแต่งงานกันด้วยเหตุผลไม่คาดคิดและลี่หลินเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ทว่าตอนนี้เขาถือว่าเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นสามีของนาง เขาทำให้ลี่หลินอดอยากจนต้องกินของสกปรกพวกนี้เลยหรือ
“ทำไมจะกินไม่ได้ สกปรกอะไรกัน พวกมันกินไม่ได้เพราะท่านทำไม่เป็นต่างหาก ข้าจะทำให้ดูว่ากินยังไง ไม่ต้องเอาไปทิ้งเลย ถ้าท่านไม่ยอมเชื่อฟังพวกเรามีเรื่องกันแน่” หยางหนิงเฉิงได้แต่ถอนหายใจเสียงเบาออกมา ในเมื่อลี่หลินพูดแบบนี้เขาจะทำอะไรได้ หากไม่อยากมีปัญหาก็ต้องยอมนาง
“ท่านเอากระดูกหมู เนื้อติดมันเล็กน้อย แล้วก็มันหมูสีขาวในถังมาให้ข้า ข้าจะเอาไปทำอาหาร ขาหมูเก็บไว้รมควัน เนื้อหมูเอาไว้ตากแห้ง ส่วนเครื่องในและหนังท่านเก็บไว้ในถังให้ข้าก่อน ข้าจะมาจัดการพวกมันพรุ่งนี้เช้า” เมื่อจัดแจงเสร็จลี่หลินก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารต่อทันที
นางใส่น้ำมันในกระทะเล็กน้อย ผัดกระเทียมที่สับไว้ให้มีกลิ่นหอม ใส่หมูสับลงไปผัดพอสุกตามด้วยหน่อไม้ ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลเล็กน้อยเพิ่มความกลมกล่อม ปิดท้ายด้วยใบหอมป่าเพื่อให้มีสีสันสวยงาม เสร็จแล้วจึงตักใส่จานพักไว้ กลิ่นหอมของผัดหน่อไม้ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องครัว
“พี่สะใภ้ ผัดหน่อไม้ของท่านกลิ่นหอมน่ากินเหลือเกินเจ้าค่ะ “อ้ายฉิงแทบน้ำลายไหลกับกลิ่นหอมของอาหาร
“แน่นอนอยู่แล้ว ของที่ข้าทำดีกว่าของที่คนอื่นทำเสมอ มื้อเย็นวันนี้มีน้ำแกงหน่อไม้กับปลาเผาด้วยนะ รับรองว่าเจ้าได้กินของอร่อยจนพุงกางเชียว” ลี่หลินเชิดหน้าขึ้นโอ้อวดอย่างอารมณ์ดี งานอดิเรกของนางในโลกอีกใบคือการตระเวนกินอาหารเชียวนะ นางชื่นชอบอาหารอร่อยเป็นชีวิตจิตใจ
หลังจากผัดหน่อไม้ลี่หลินก็ลงมือทำน้ำแกงกระดูกหมูต่อ นางตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด ใส่กระดูกหมูลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ จากนั้นช้อนฟองออกเพื่อให้น้ำซุปใส เติมหน่อไม้เพิ่มความหวานของน้ำซุปอีกนิดหน่อย ต้มต่อไปจนกระดูกหมูเปื่อยยุ่ยก็สามารถรับประทานได้
ในครัวของนางมีสองเตาไฟแต่ไม่มีตะแกรงสำหรับย่าง ลี่หลินจึงเลือกใช้ไม้ไผ่เสียบปลาแทน นางยัดขิง กระเทียมใส่ในท้องปลาเพื่อดับคาว ส่วนด้านนอกทาเกลือบางๆ แล้วนำไปย่างให้สุก ถึงแม้เครื่องปรุงและเครื่องเทศที่ใช้ทำอาหารจะมีอยู่อย่างจำกัดแต่ลี่หลินก็รังสรรค์เมนูออกมาได้ดีมาก
“อาหารเย็นพร้อมแล้วเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านอาบน้ำเสร็จหรือยัง มากินข้าวได้แล้ว” อ้ายฉิงโผล่หน้าออกไปเรียกบุรุษหนุ่มสองคนของบ้านเสียงใส พวกเขารีบเร่งอาบน้ำแต่งตัวกันยกใหญ่อย่างไม่คิด หากไม่ติดว่าต้องจัดการหมูให้เสร็จก่อนหนิงเฉิงกับอี้เฉินคงเข้าไปนั่งรอบนโต๊ะอาหารแล้ว กลิ่นหอมของมันทำให้กระเพาะส่งเสียงร้องโครกครากอยู่หลายครั้ง
“อ้ายฉิง เจ้าทำอาหารได้น่ากินมาก เอ๊ะ นี่มันหน่อไม้หนิ เจ้าไม่รู้หรือว่ามันมีพิษแถมรสชาติขมอีกต่างหาก ปลาตัวใหญ่นี่อีกเจ้าได้มันมาจากไหน” อี้เฉินเห็นว่าอาหารมีส่วนประกอบของหน่อไม้จึงเอ่ยถามน้องสาวด้วยสีหน้าไม่พอใจ นางเอาเนื้อหมูมาต้มและผัดกับหน่อไม้ได้ยังไง ทั้งขมทั้งมีพิษ
“ข้าไม่ได้ทำเจ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนทำ ทั้งหน่อไม้ทั้งปลาพี่สะใภ้หามาเองทั้งหมด” อ้ายฉิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ทำไมพี่รองต้องว่านาง นางห้ามพี่สะใภ้ใหญ่ได้ที่ไหนมีแต่จะโดนด่ากลับมาสิไม่ว่า
“เจ้าทำอาหารพวกนี้จริงหรือ” หยางหนิงเฉิงเลิกคิ้วถามเมื่อได้ยินว่าลี่หลินเป็นคนทำอาหารทั้งหมด เขาประหลาดใจมาก
เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยแกมไปด้วยความประหลาดใจของทุกคนลี่หลินก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
“ข้าทำอาหารทุกอย่างเอง อาหารพวกนี้กินได้ไม่มีพิษ พวกท่านไม่รู้วิธีกินหน่อไม้จึงทำให้มีรสขม แล้วแต่พวกท่านเลยว่าจะกินหรือไม่ ถ้าไม่กินก็ไปกินอย่างอื่น” ลี่หลินแสร้งทำเป็นโมโหขึ้นมา นางขี้เกียจอธิบายและหิวข้าวมาก ใครจะกินไม่กินก็ช่าง นางกินเองมีแต่ของอร่อยทั้งนั้น
“ข้ากิน ข้ากินเอง” เมื่อเห็นท่าทีโมโหของนางหยางหนิงเฉิงจึงรีบตักน้ำแกงหน่อไม้เข้าปากทันที เขาไม่อยากให้ลี่หลิน เสียน้ำใจอย่างน้อยนางก็เริ่มคิดได้ลุกขึ้นมาทำอาหาร
เมื่อน้ำแกงสัมผัสถูกปลายลิ้นหยางหนิงเฉิงก็ต้องตาโตกับรสชาติ น้ำแกงไม่ขมเลยแถมยังมีรสชาติหวานนิดๆ ติดปลายลิ้นออกมาอีกต่างหาก หน่อไม้กรอบนุ่ม กระดูกหมูเปื่อยยุ่ย รสชาติดีมาก
หยางหนิงเฉิงไม่รีรอเขาตักผัดหน่อไม้หมูสับขึ้นมาชิมต่ออย่างรวดเร็ว รสชาติหอม อร่อย กลมกล่อมมาก จากนั้นจึงเลื่อนไปยังปลาเผาเนื้อหวาน สดใหม่ ไม่คาว รสชาติของมันอร่อยกว่าที่เคยได้ลิ้มลองมา
เมื่อเห็นท่าทีของพี่ชายอี้เฉินกับอ้ายฉิงจึงตักอาหารขึ้นมากินบ้าง สองพี่น้องตกใจกับรสชาติอาหารจนเกือบสำลักออกมา ไม่นึกเลยว่าพี่สะใภ้ของพวกเขาจะมีฝีมือทำอาหารดีขนาดนี้
“พี่สะใภ้ อาหารที่ท่านทำอร่อยมาก ข้าไม่คิดว่าหน่อไม้จะทำออกมาได้อร่อยขนาดนี้ ท่านสอนข้าทำได้หรือไม่ หน่อไม้ในป่ามีเยอะแยะมาก ข้าคงมีอาหารอร่อยกินทั้งปี” อ้ายฉิงพูดด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขมาก ไม่มีใครกินหน่อไม้มีแค่ครอบครัวนางที่นำมากินได้ ไม่มีใครแย่งอาหารของนาง แค่คิดก็มีความสุขสุดๆ
“ข้าสอนเจ้าทำได้ อาหารมื้อนี้ถือว่าฉลองการหายป่วยและการมีชีวิตอีกครั้งของข้า ต่อไปนี้ชีวิตของพวกเราต้องดีขึ้นทุกวันอย่างแน่นอน” ลี่หลินเห็นทุกคนกินอาหารของนางอย่างมีความสุขก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อคนกินชมว่าอาหารอร่อยคนทำก็มีความสุข
หลังจากสงครามอาหารจบลง อาหารเย็นทั้งหมดของวันนี้ไม่หลงเหลือสักอย่างพวกมันถูกกวาดลงกระเพาะของทุกคนในบ้านจนพุงกาง
“ข้าไม่ได้กินอาหารอิ่มขนาดนี้มานานแล้ว พี่สะใภ้ท่านไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวข้าล้างจานเอง” อ้ายฉิงรับหน้าที่ล้างจานส่วนลี่หลินออกไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน
เมื่อกลับเข้ามาในบ้านลี่หลินก็เห็นสามีกับน้องชายของเขา นอนหลับด้วยกันในห้องโถงอย่างสบายใจ บ้านหลังนี้มีสองห้องนอน นางกับอ้ายฉิงอยู่คนละห้อง ส่วนหยางหนิงเฉิงหลังจากแต่งงานลี่หลินก็ไม่เคยให้เข้ามานอนในห้องด้วยสักครั้ง นางคิดอะไรอีกนิดหน่อยก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย