Secret 06 ช่วยหน่อย

1847 Words
“บี๋ บี๋” เวลาสามทุ่มกว่าศรัณย์ปลุกหญิงสาวที่กำลังอยู่บนเตียง เขาต้องไปส่งเธอที่บ้าน แต่คนตัวเล็กหลับสนิทแทบไม่ใช่นิสัยของแสนซน “อืม” แสนซนขานรับทั้งที่ยังหลับตา “บี๋ครับสามทุ่มแล้ว กลับบ้านกันเค้าไปส่ง” เขาสะกิดเรียกเธออีกรอบ ทว่าเมื่อยื่นมือแตะที่แก้มเธอก็พบว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอผิดปกติ “ทำไมตัวร้อนแบบนี้” “กี่โมงแล้วอะ” แสนซนงัวเงียขึ้นมานั่ง ปวดไปทั้งร่างเลย “เค้าต้องกลับบ้านยาย” “บี๋ไม่สบาย ค้างที่นี่นะ” “ไม่ได้สิ ตายายจะสงสัย” “บี๋ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นเค้าจัดการเอง บี๋นอนพักเดี๋ยวเค้าเรียกกินยา” ศรัณย์จับไหล่แสนซนให้เอนตัวลงนอน ไม่สบายแบบนี้เขาจะปล่อยกลับได้ยังไง เธอคว้ามือเขาไว้ จะให้นอนที่นี่จริงเหรอเธอไม่อยากสร้างปัญหาให้เขา “บี๋โอเคใช่ไหม” “โอเคครับ บี๋พักผ่อนเลยเรื่องอื่นเค้าจัดการเอง” “ขอโทษนะ” “บี๋ไม่ได้ทำอะไรผิดจะขอโทษทำไม ไม่สบายอย่าคิดหลายเรื่อง นอนพักนะครับ” เขามอบจูบอ่อนโยนที่กลางหน้าผาก ร่างกายร้อนผ่าวของเธอทำให้เขาต้องรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้พร้อมกับหยิบยาลดไข้มาป้อนด้วยความเป็นห่วง จัดการกับร่างกายจารวีเรียบร้อยศรัณย์นั่งคิดอยู่นานว่าควรทำยังไง สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจกดโทรหาคู่แฝด หากถามหาคนที่เขาไว้ใจที่สุดก็คงเป็นคนที่อยู่ด้วยกันในท้องแม่เป็นเวลาหลายเดือนและลืมตาออกมาดูโลกพร้อมกัน ถ้าความลับนี้จำเป็นต้องแตกก็ให้แตกกับคนที่ไว้ใจเชื่อใจที่สุด (ฮัลโหล) “แซน” (ว่าไง มีเรื่องอะไร) เป็นฝาแฝดกันมา 20 กว่าปีมีเหรอจะไม่รู้ว่าน้ำเสียงแบบนี้ซานต้าต้องมีเรื่องให้ช่วย “...โทรไปบอกป้าจิวให้หน่อยว่าแสนซนค้างกับแซน” (หืม แสนซนไม่ได้มาหาแซนนะ) “ก็บอกว่าโทรบอกให้ป้าจิวแบบนั้น” (...ซานทำอะไรอยู่) แซนตี้ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง ซานต้าจะเล่นกับความรู้สึกของใครก็ได้ แต่ที่ไม่ควรเล่นก็คือญาติพี่น้องกัน ใช่ว่าไม่เคยมีบทเรียน ตอนไข่เจียวก็เป็นบทเรียนแล้วทำไมไม่จำ “ช่วยหน่อย” (จริงจังหรือเปล่า บังคับหลานไหม) “บอกได้แค่ว่าไม่ได้บังคับ ที่เหลืออย่าเพิ่งถาม นี่กำลังขอให้ช่วยอยู่ ไม่ได้โทรมาให้ตั้งคำถาม” (…) “แซนตี้” (ครั้งเดียวนะซาน แซนช่วยอะไรแบบนี้แค่ครั้งเดียว จะทำอะไรคิดให้ดีเลิกเอาแต่ใจสักที คนอื่นแซนไม่สนนะแต่นี่แสนซนหลานเรา อย่าเอาความรู้สึกหลานมาเล่น) “ปิดไว้ก่อนนะ เดี๋ยวจัดการเอง” เขาไม่ได้สนคำเตือนคู่แฝดด้วยซ้ำ (เออ) แซนตี้กระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด ก็ว่าจะไม่ยุ่งแต่ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องยุ่งสักหน่อย “ขอบใจมาก” หลังจากที่วางสายคู่แฝดศรัณย์ก็เดินมาดูอาการจารวีที่นอนหลับสนิท เขายื่นมือแตะอังหน้าผากของเธอด้วยความเป็นห่วง “หนาว” เธอพึมพำเบา ๆ หนาวเข้ากระดูกทั้งที่อากาศไม่ได้หนาวขนาดนั้น “บี๋หนาวเหรอ” เป็นเขาที่ปลุกเธอด้วยคำถาม “อืม” “แต่ตัวบี๋ร้อนมากเลยนะ เราไปหาหมอกันดีกว่าไหม กินยาแล้วไข้ทำไมไม่ลดอะ” “เพิ่งกินไปเอง รออีกหน่อยนะถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวเค้ากลับบ้านให้ที่บ้านพาไปโรงพยาบาล” จารวีมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือของศรัณย์ “เค้าก็พาบี๋ไปได้ปะ” ให้ตายสิคิดว่าเขาพึ่งพาไม่ได้เลยหรือไง “เราไปกันเลยนะ” “ไม่เอา” “แสนซน” “ปวดหัวขอพักนะ ถ้าตื่นแล้วไม่ดีขึ้นค่อยไป” “ไปตอนนี้เลยก็ได้ไหม” “ร่างกายซนซนรู้ว่าไหวแค่ไหน “...ดื้อ” “นะ ขอนอนอีกนิด” “ก็ได้” เขาเหรอจะอยากขัดใจคนป่วย “ถ้าไม่ไหวรีบบอกเค้า” “อืม” จารวีดึงผ้าห่มขึ้นและขดตัวไว้เพราะรู้สึกหนาว หนาวจนใจสั่น คงแค่ปวดหัวไม่สบายเฉย ๆ คงไม่ใช่หรอกมั้ง ไม่น่าใช่วันนั้นของเดือน หรือว่าจะใช่นะ เวลาตีหนึ่งจารวีรู้สึกตัวเพราะเหนอะหนะที่หว่างขา ความรู้สึกแบบนี้ ใช่แน่ ๆ วันนั้นของเดือน เนื่องจากเป็นคนที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติบางครั้งสามเดือนมาทีสองเดือนมาทีแล้วแต่ช่วง ฮอร์โมนและความเครียดสะสมก็มีส่วนด้วย คราวนี้ปัญหามันอยู่ที่เธอนอนอยู่เพนท์เฮ้าส์ซึ่งในห้องนี้ไม่มีผ้าอนามัยแน่เพราะเธอไม่เคยพกมันติดไว้ ถ้าหากมีก็แสดงว่าเขาพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามา “ตื่นแล้วเหรอ อาการเป็นยังไงบ้างดีขึ้นไหมเค้าว่าจะปลุกบี๋มากินยาอยู่” ลืมตาขึ้นมาก็เห็นเขานั่งอยู่ข้าง ๆ เห็นว่าเธอตื่นเขาจึงยื่นมือมาแตะอังหน้าผากอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขาแตะทุก 20 นาทีคอยเช็ดตัวให้เรื่อย ๆ “ซาน” “หืม” “ซนว่าซนเป็นเมนส์” “…” “ซนต้องการผ้าอนามัยกับยาแก้ปวดท้องเมนส์ ตอนนี้ซนเริ่มปวดท้องแล้ว” “ได้สิ บี๋ใช้แบบไหนเดี๋ยวเค้าสั่งคนซื้อมาให้” “มันจะนาน เค้าลงไปซื้อเองไวกว่า” “ไม่สบายอยู่จะไปได้ไง” “…” จารวีหน้านิ่ง “ไหนใช้แบบไหนกดมา” ศรัณย์ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอ “เค้าใส่เสื้อผ้าลงไปซื้อข้างล่างให้ แต่ยาแก้ปวดท้องเดี๋ยวเค้าสั่งคนซื้อมาให้โอเคไหม” “อื้ม” เธอรับโทรศัพท์มือถือมากดค้นรูปภาพยี่ห้อผ้าอนามัยที่ใช้ รวมถึงยี่ห้อยาแก้ปวดประจำเดือนที่เคยกิน “เดี๋ยวเค้ามา ห้ามลุกไปไหนเข้าใจไหม เกิดล้มขึ้นมามันอันตราย” เขารับโทรศัพท์คืนมา “ค่ะ” จารวีพยักหน้ารับ ศรัณย์ ศิวะวานนท์คุณชายน้อยผู้ไม่เคยต้องใส่ใจกับของเหล่านี้วันนี้กลับต้องมาเดินเลือกซื้อผ้าอนามัยในร้านสะดวกซื้อซะได้ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันแบบนี้เหมือนกัน ระหว่างอยู่ในลิฟต์เขากดส่งรูปยาแก้ปวดที่จารวีค้นมาให้ส่งไปยังไลน์ของลูกน้องคนหนึ่งและกดโทรเข้า (ครับคุณชาย) ปลายสายกดรับทันที “ซื้อยาแก้ปวดตัวนี้ ยาลดไข้ อะไรที่เกี่ยวกับปวดประเดือนซื้อมาให้หมด มีเวลา 20 นาที” (รับทราบครับ) ลูกน้องทราบดีว่าเจ้านายอยู่ที่ไหนอยู่กับใคร ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเอาไปพูดได้ เขามีหน้าที่ทำตามคำสั่งเจ้านายเท่านั้น “อ่อ วัตถุดิบทำข้าวต้มด้วย” (คุณชายจะทำ?) “อืม ทำไม” (เปล่าครับ ผมจัดการให้ครับ) “อืม” วางสายลูกน้องลิฟต์ศรัณย์เดินออกจากลิฟต์ เดินเข้าร้านสะดวกซื้อเดินไปยังมุมที่ไม่เคยคิดจะสนใจ ทว่าวันนี้ต้องมาจดจ่อหายี่ห้อผ้าอนามัยที่จารวีใช้ประจำ ซึ่งที่ชั้นมันไม่มี มันหมดหรือพนักงานไม่เติมของวะ คนยิ่งรีบ ๆ เขาเดินมาที่เคาน์เตอร์ กดรูปให้พนักงานดู “โทษนะครับ แบบนี้มีไหม” “สินค้าอยู่ที่ชั้นเลยค่ะลูกค้า” “ผมดูแล้ว มันไม่มี” “แสดงว่าหมดค่ะ” “ผมต้องใช้แค่ยี่ห้อนี้ รบกวนเช็กสต็อกดูให้หน่อยได้ไหมครับ” ยังไม่ทันเช็กของก็รีบพูดว่าหมด ถ้าเดินเข้าไปเช็กด้านในแล้วจะไม่ว่าสักคำ “ตรงนั้นไม่มีก็หมดค่ะ” พนักงานคนเดิมตอบ “ลูกค้ารอสักครู่นะคะ เดี๋ยวเข้าไปเช็กข้างในให้ค่ะ” พนักงานอีกคนพูดแทรกแล้วรีบเดินเข้าด้านในห้องเก็บสินค้า จากป้ายที่ติดอกเธอคือผู้จัดการสาขานี้ ไม่นานพนักงานเดินออกมาพร้อมห่อผ้าอนามัยยี่ห้อที่เขาต้องการ “ลูกค้าต้องการรับกี่ห่อคะ” “สิบ” เขาเอ่ยเสียงเรียบพลางปรายตามองพนักงานคนแรกที่กำลังเม้มปาก “ถ้าไม่รักงานบริการคุณควรทำงานอื่นนะครับ เพราะทำแบบนี้ทำให้สาขาเสียหายลูกค้าเสียความรู้สึก กฎข้อตกลงก่อนรับเข้าทำงานคุณน่าจะทราบดีก่อนที่จะลงชื่อ ผมพูดถูกไหมครับ” “…ค่ะ ขอโทษค่ะคุณลูกค้า” พนักงานหญิงคนแรกหน้าเจื่อน เก็บความไม่พอใจไว้ในใจ ก็แค่ผ้าอนามัยยี่ห้อไหนก็ใช้ได้ไม่ตายหรอกทำไมต้องเรื่องมาก น่ารำคาญ “ทั้งหมด 390 บาทค่ะคุณลูกค้า” ผู้จัดการสาขาเอ่ยเธอรีบคิดเงินจะได้รีบจบเรื่อง “ครับ” ศรัณย์จ่ายเงินขณะที่สายตาจ้องป้ายชื่อของพนักงานคนแรก “ทางเราต้องขอโทษคุณลูกค้าด้วยนะคะ เดี๋ยวเราจะอบรมพนักงานให้มากกว่านี้ค่ะ” ผู้จัดการสาขาพูดอีกครั้ง “ครับ” เขาพูดพลางล้วงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดเบอร์พี่ชายพร้อมกับเดินออกจากร้านสะดวกซื้อ (ว่าไงซาน) “ผมว่าการเลือกรับพนักงานของบริษัทเกิดปัญหา พนักงานไม่รักงานบริการฝ่ายบุคคลให้ผ่านได้ยังไง เป็นแบบนี้ฐานลูกค้าของเราเสียหายนะครับ” (สาขาไหน เดี๋ยวพี่จัดการให้) เป็นน้องชายที่ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะเอาแต่ใจแค่ไหนแต่เรื่องงานไม่เคยพลาด ตีหนึ่งโทรมาคอมเพลนพนักงาน ไม่คิดว่าพี่มันจะนอนหรือไงวะ “สาขาที่เพนท์เฮ้าส์ผม” (พรุ่งนี้พี่จัดการให้) “ครับ” “ทำไมไปนาน” คนรอนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด หงุดหงิดไม่พอใจ แค่ไปซื้อผ้าอนามัยจำเป็นต้องนานขนาดนี้เลยหรือไง “มีปัญหากับพนักงาน” “เค้าแค่จะเอาผ้าอนามัยทำไมบี๋ไปมีเรื่อง” ถามด้วยความหงุดหงิด คุณชายซานต้าผู้เอาแต่ใจทำไมเวลาทำอะไรเองถึงได้มีปัญหาตลอด “เค้าไม่ได้อยากมีเรื่องนะบี๋ ผ้าอนามัยยี่ห้อที่บี๋ต้องการที่ชั้นวางมันหมด เค้าถามพนักงานคนนึงบอกที่ชั้นหมดก็คือหมด แต่อีกคนเข้าไปดูในคลังและได้กลับมาให้เค้า มันน่าหงุดหงิดไหมอะ” “แล้วยังไง” “เค้าก็เลยโทรหาซีอีโอ” “ตีหนึ่งกว่าอะนะ” “ใช่ครับ” ศรัณย์ยิ้ม “เค้าก็แค่คอมเพลนพนักงานเอง” “เฮ่อ ไหนผ้าอนามัยเค้า” “นี่ครับ ยี่ห้อถูกต้อง ยาแก้ปวดท้องกำลังจะมาในอีก 3 นาที บี๋เข้าไปใส่ผ้าอนามัยรอได้เลย” “ซื้อมาเยอะเกิน” เขาตั้งใจประชดแน่ “ก็เอาไว้ใส่ครั้งต่อไปไงบี๋” เขาหยิบออกมาหนึ่งห่อ ฉีกตามรอยปะแล้วยื่นมาให้เธอหนึ่งแผ่น “ให้เค้าช่วยไหม” “ไม่เป็นไร เค้าทำเองได้” “โอเคครับ เค้ารอหน้าห้องน้ำ” “อื้ม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD