“น้ำชอบอยู่ข้างบน คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”
“ผมตามใจคนสวยอยู่แล้ว”
ความไม่มั่นใจในสายตาของเธอหายไปแล้ว เหลือเพียงเสน่ห์เย้ายวนที่ทำให้คนมองแทบคลั่ง ยามมือเรียวถอดเดรสตัวบางออก เหลือเพียงบิกินีตัวจิ๋ว เบื้องล่างเขาก็เคร่งเครียด กระเหี้ยนกระหือรืออยากออกอาละวาด แต่ความอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อสะกดความบ้าคลั่งนั้นไว้…แต่ก็คงทนได้ไม่นาน
“คุณหุ่นดีจัง ผมชอบนะ”
เธอเอียงคอเล็กน้อยและทาบจูบแผ่วเบาบนริมฝีปากของเขา ไม่ได้ใช้ลิ้น ไม่ดุเดือดอย่างที่คาดหวัง ทว่าความไม่ประสานั้นกลับทำให้ธีรักษ์รู้สึกปั่นป่วนแทบขาดใจ
ภาพบางอย่างผุดขึ้นมาในสมอง…
‘คุณจูบหนูจนปากบวมหมดแล้ว’
เขาชะงักเพราะความทรงจำที่แวบเข้ามาชั่วขณะ พอเธอถอนจูบเขาก็รีบถอดแว่นและกดศีรษะเล็กลงมาดังเดิม บังคับให้จูบต่อไปเรื่อย ๆ เผื่อว่าจะช่วยกระตุ้นภาพของคนคนนั้นให้ชัดเจนขึ้นมา ทำให้บางอย่างที่หายไปหวนกลับคืน
จากที่ปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายเริ่ม ธีรักษ์กลับเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุก เร่งรัดมอบจูบหอมหวานไม่หยุดหย่อน มือใหญ่ที่ว่างก็ไม่ได้อยู่เฉย บีบเคล้นความอวบอัดใต้บิกินีตัวจิ๋วที่ทำให้เขาหิวกระหายเสียยิ่งกว่าเดิม
“น้ำไม่ชอบแบบนี้…” เธอพึมพำเสียงอู้อี้ ช้อนตามองเขาอย่างอ้อนออด “คุณธารตามใจน้ำหน่อยไม่ได้เหรอคะ”
“คุณนี่เอาแต่ใจจริง ๆ”
ธีรักษ์ตบสะโพกสวยเบา ๆ พลางหัวเราะ ไม่ได้หงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะซาบซ่าน ทว่าประหลาดใจที่รู้สึกคุ้นหน้าและเสียงของหญิงสาวที่เพิ่งกระโจนจากเตียงไปหยิบเนกไทที่เขาถอดแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบ เธอกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาทอประกายวาววับราวกับผู้ล่าในยามค่ำคืน
“น้ำจะทำให้คุณหมดแรง…”
เธอจูบเขาอีกครั้ง ไม่ได้แตะปากผิวเผินเหมือนแรกเริ่ม ทว่าเป็นการจูบที่ล่อลวง ไม่ชำนาญแต่ทำให้หลงใหล เผลอไผลยินยอมให้เธอถอดเสื้อและกางเกง รวมถึงใช้เนกไทมัดข้อมือแข็งแกร่งยึดติดไว้กับหัวเตียง
ธีรักษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ว่าเธอมัดเขาแน่นกว่าที่ควรจะเป็น ไม่รู้ว่าเนกไทอีกเส้นถูกหยิบมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอมือเล็กสัมผัสบนหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและเริ่มลูบไล้อย่างยั่วยุ เขาก็ลืมคำถามเหล่านั้น
“ผมจะไม่ไหวแล้วนะคุณ” ธีรักษ์สูดปากเบา ๆ มองเธอด้วยสายตาที่บอกชัดว่าใกล้จะทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ
“ใจร้อนมากไปจะไม่สนุกนะคะ”
เธอมัดมืออีกข้างของเขาเสร็จแล้ว เสียงหัวเราะคิกคักทำให้ธีรักษ์คันยุบยิบในหัวใจและน้องชายเบื้องล่างก็กระหายหนักเสียยิ่งกว่าเดิม
“ผมอยากกินหนูแล้ว”
ธีรักษ์กดหัวคิ้วแทบชนกันอีกครั้ง ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจึงหลุดปากเรียกสาวสวยตรงหน้าว่า ‘หนู’ ทั้งภาพเลือนรางที่อยู่ในความทรงจำก่อนหน้าก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง และเจ้าของร่างนั้นก็กำลังพูดในสิ่งเดียวกันกับที่เธอกำลังพูด
“อย่าเรียกว่าหนู! หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ!”
คนที่อยู่ในภาพที่คล้ายกับความฝันนั้นพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด อยากให้เขาเอาอกเอาใจ แต่สาวสวยตรงหน้ากำลังโกรธจนตัวสั่น ธีรักษ์อยากถามว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่อาการปวดศีรษะกลับโจมตีเขาอย่างกะทันหัน มือใหญ่ขยับจะกดขมับตัวเอง แต่กลับถูกเนกไทราคาแพงตรึงไว้กับที่ สูญเสียอิสรภาพชั่วคราว
“ก็หนูแทนตัวเองกับผมแบบนั้นก่อน…” เขากัดฟันกรอด ข่มความปวดร้าวที่แล่นริ้วขึ้นมาทุกครั้งที่เกิดความเครียด มันไม่ได้อันตราย แต่ทำให้หงุดหงิดมากพอที่เขาจะระเบิดอารมณ์ออกมา
“ยอมรับแล้วเหรอว่าจำได้! ผู้ชายห่วยแตก! ได้แล้วทิ้ง! จิ้มกันแล้วทำเป็นลืม! ไม่มีความรับผิดชอบ! คนใจร้าย ไอ้แก่ตัณหากลับ!”
เธอคว้าเดรสตัวสวยขึ้นมาสวม มือเล็กเช็ดปากที่ถูกเขาจูบแรง ๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเด็ดตามแผนที่วางเอาไว้
“เฮ้ย! หนู! อย่าถ่ายรูปนะ!”
“ไม่ต้องกลัวว่าภาพจะหลุดหรอกนะคะ ฉันแค่เก็บไว้ดูเล่นเวลาอารมณ์เสีย เห็นคุณในสภาพนี้แล้วตลกจะตาย โธ่! วางมาดหล่อสวมแว่น ทำตัวลึกลับเจ้าเสน่ห์ ติสต์แตกไม่มีใครเกิน! ฉันรู้หมดแล้วแหละค่ะว่าคุณน่ะหล่อแค่เปลือก! ชอบฉวยโอกาส! ไม่รักษาคำพูด! โดนถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกแค่นี้มันยังเทียบกับสิ่งที่คุณทำกับฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”
คนที่กำลังโมโหหันซ้ายและขวาอยู่ครู่หนึ่งก็คว้าเอากระเป๋าตังค์ของเหยื่อตัวใหญ่ที่ถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้อยู่แค่บนเตียงมาไว้ในมือ เธอหันมามองเขาอีกครั้งและก้าวเร็ว ๆ ไปยังประตูห้อง แต่ก่อนที่จะจากไป คำเรียกของเขากลับทำให้เธอชะงักไปชั่วขณะ
“น้ำหวาน! อย่าเพิ่งไป!” ทว่าเธอไม่สนใจฟัง
ธีรักษ์กดความทรมานซึ่งเกิดขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่พยายามนึกถึงความทรงจำที่ขาดหาย ใช้แรงกระชากเนกไทจนข้อมือถลอกและมีเลือดซิบ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล การพูดคุยกับสาวสวยที่จะช่วยให้เขาจำทุกอย่างได้ต่างหากที่สำคัญ
แต่กว่าจะเป็นอิสระจากการผูกมัดอันแสนหวาน หรืออย่างน้อยก็ตามที่เขาเข้าใจในทีแรก ‘น้ำหวาน’ ก็ไม่อยู่ให้สอบถามอะไรแล้ว…