13

1541 Words
“เป็นไรมากไหมครับ” เมื่อได้ยินว่าเป็นเสียงผู้ชาย เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วทั้งคู่เหมือนจะอึ้งกันไปครู่หนึ่ง เธออึ้งเพราะรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่าย ‘นี่ฉันชนคนหรือยักษ์เนี่ย ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด’ ในขณะที่อีกฝ่ายอึ้งเพราะจำเธอได้ ‘นั่นมันผู้หญิงที่จับก้นนายวันนั้นนี่หว่า’ ที่จำได้ก็เพราะว่า ผู้ชายคนนี้คือ บอดีการ์ดของริคาโด้นั่นเอง แต่จำอะไรไม่จำ ดันจำเรื่องจับก้นได้เนี่ยนะ ถ้าเธอรู้เข้า คงได้กรี๊ดหูดับกันบ้างล่ะงานนี้ “อะเอ่อ! ไม่เป็นไรเลยค่ะ” ‘ก็แค่ก้นกบพัง หลังเดาะ เอวเคล็ดเท่านั้นเอง’ เธอตอบแล้วก็ต้องมานั่งประชดอีกฝ่ายในใจอีก จะทำยังไงได้ล่ะ ก็เมื่อเธอเป็นฝ่ายผิด เดินซุ่มซ่ามไปชนเขาเอง แค่เขาไม่เอาเรื่องก็ดีถมไปแล้ว “คุณทำงานที่นี่เหรอครับ” เคนยื่นมือให้เธอจับพร้อมกับชวนคุยไปด้วย “เอ่อ! เราเคยรู้จักกันรึเปล่าคะ” ด้วยรู้สึกว่าคุ้นหน้าอีกฝ่าย แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน จึงทำให้เธอต้องถามออกไปแบบนั้น “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะครับ” เคนแสร้งถามด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม ไม่ยอมบอกความจริง “ก็ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกคุ้นหน้าคุณ แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน” เธอบอกออกไปตามตรง ยิ่งทำให้อีกฝ่ายยิ้มกริ่มอีก “ถ้าเดาไม่ผิด คุณคงทำงานอยู่ที่นี่ ผมเองก็เป็นพนักงานของที่นี่เหมือนกัน เราคงเดินสวนกันไปสวนกันมา คงเคยเห็นหน้ากันบ้าง คุณก็เลยคุ้นหน้าผมมั้งครับ” เคนเลี่ยงที่พูดความจริง ด้วยไม่แน่ใจว่าเจ้านายของเขารู้เรื่องนี้รึยัง “อืม! งั้นก็คงเป็นงั้นแหละ ถ้ายังไงฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เธอว่าแล้วก็เดินจากไปด้วยสีหน้างงๆ “ครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้นะครับ” เคนพูดเป็นนัยๆ ทำเอาเธอถึงกับคิ้วขมวด แล้วก็โพล่งถามออกมาตรงๆ “คุณกำลังจีบฉันเหรอ” เคนถึงกับอ้าปากหวอ ‘แม่คุณตีความเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงวะเนี่ย’ “ฮ่าๆๆ เอาไว้ค่อยเจอกันอีกที ถึงตอนนั้นคุณจะรู้เองนั่นแหละครับ” เคนเลือกที่จะเลี่ยงคำตอบอีกครั้งก่อนเดินจากไป “ชิ! คิดจะจีบฉันเหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะจะบอกให้ ฉันมันประเภทสวยเลือกได้ย่ะ” ก๊อก ก๊อก ก๊อก หลังจากที่เจอกับผู้หญิงที่แอบจับก้นเจ้านายโดยบังเอิญแล้ว เคนจึงรีบนำข่าวนี้มารายงานเจ้านาย โดยไม่เอะใจสักนิดว่าเจ้านายกำลังยุ่งมากแค่ไหน และด้วยความเคยชิน เคนจึงเปิดประตูเข้าไป ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ยินเสียงอนุญาตจากเจ้าของห้องเลยด้วยซ้ำ “รู้ไหมครับว่าวันนี้ผมไปเจอใครมา อูว!” เคนส่งเสียงมาก่อนตามความเคยชิน แต่เมื่อเห็นว่าเจ้านายกำลังติดภารกิจรีดนมสดอยู่ จึงเผลออุทานออกมาเสียงดัง และเสียงนั้นเองที่ทำให้หนุ่มสาวทั้งสองที่กำลังเจรจากันเรื่องธุรกิจฟาร์มนมถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความหงุดหงิด “กรี๊ด...!” เมื่อเห็นว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาอยู่ในห้อง เจ้าของฟาร์มนมถึงกับกรีดร้องออกมา พร้อมกับรีบคว้าเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของตัวเองขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อยโดยเร็ว “ไอ้เคน มือมี ทำไมไม่เคาะประตูก่อนเข้ามาวะ” ริคาโด้ต่อว่าคนของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ “มือผมน่ะมี แต่หูนายน่ะสิครับที่ไม่รู้ว่ามีไหม ผมเคาะประตูเสียงออกดัง ถ้าไม่มัวรีดนมอยู่ ป่านนี้คงได้ยินที่ผมเคาะแล้วล่ะครับ” เคนเล่นลิ้นกลับไปด้วยความเคยชิน รู้หรอกว่าพูดแบบนี้ต้องโดนแน่ๆ แต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ นี่นา “ไอ้เคน” ริคาโด้ขึ้นเสียงอย่างเข่นเขี้ยว ทำไปทำมา ชักไม่แน่ใจว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้านาย แล้วใครเป็นลูกน้อง ‘ก็ดูมันยอกย้อนมาแต่ละคำสิ เคยเห็นกูเป็นเจ้านายบ้างไหมเนี่ย’ “เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งโมโหไอ้เคนตอนนี้เลยครับ ถ้านายรู้ว่าผมไปเจอใครมา รับรองว่านายจะหายโกรธผม ในพริบตาเลยล่ะ” เคนหยักยิ้มมุมปาก ราวกับว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าก็ไม่ปาน “รีบๆ บอกมา ก่อนที่แกจะถูกฉันเตะหายออกไปในพริบตาไอ้เคน” ริคาโด้กัดฟันกรอดด้วยความหมั่นไส้คนของตัวเอง พร้อมกับชายตามองเจ้าของฟาร์มนมที่กำลังจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนมือแทบพันกันไปด้วย “งั้นเชิญคุณเจ้าของฟาร์มนม เอ่อ! ผมหมายถึงคุณผู้หญิงท่านนี้ออกไปก่อนดีไหมครับ เพราะถ้านายได้ฟังเรื่องที่ผมจะบอก เกรงว่านายจะรีบเชิญเธอออกไปเหมือนกัน” คำพูดตรงๆ ของเคน ทำเอาเจ้าของฟาร์มนมถึงกับเดือดพล่านขึ้นมาทันควัน “กรี๊ด! ไอ้บ้า กล้าดียังไงมาไล่ฉัน ริคคะคุณต้องจัดการให้ริซ่านะ ไม่อย่างนั้นริซ่าไม่ยอมจริงๆ ด้วย” ริซ่าสาวทรงโตพยายามออดอ้อน เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังหลงตนมากแค่ไหน ดูจากการกระทำที่ผ่านมาเธอคิดไม่ผิดแน่ “ไอ้เคน ถ้าเรื่องนี้มันไม่สำคัญอย่างที่ปากแกว่าล่ะก็ แกคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนเธอริซ่า กลับไปก่อนแล้วกัน แล้วทีหลังถ้าฉันไม่เรียกก็อย่ามาที่นี่อีก ครั้งนี้ฉันจะถือว่าเธอไม่รู้ แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีก เธอคงรู้นะว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราจะเป็นยังไง” ถึงแม้จะชอบและติดอกติดใจการบริการถึงที่ของอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ชอบให้อีกฝ่ายทำนอกเหนือคำสั่ง ด้วยการมาหาเขาถึงที่นี่โดยไม่ได้บอกล่วงหน้าเช่นวันนี้ “ตะแต่ว่า” ริซ่ารู้เสียหน้าไม่น้อยจึงหันไปมองหน้าเคนอย่างขุ่นเคือง “กลับไป” ริคาโด้กดเสียงต่ำ แน่นอนว่าเพียงพอที่จะทำให้สาวทรงโตยอมเดินออกไปแต่โดยดี โดยไม่ต้องรอให้พูดซ้ำอีก ด้วยยังไม่อยากถูกตัดสายสัมพันธ์โดยไม่จำเป็น “เอาล่ะ! ทีนี้แกมีเรื่องอะไรก็รีบๆ ว่ามาเคน” หลังจากได้อยู่กันตามลำพัง ริคาโด้ก็เข้าเรื่องทันที “ผมเจอลูกโป่งครับนาย” เคนบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “หา! มึงเจอลูกโป่ง” เคนถึงกับยิ้มกริ่ม เมื่อเห็นว่าเจ้านายก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน “ที่มึงบอกว่ามีเรื่องสำคัญนักสำคัญหนาอยากจะบอกกู คือเรื่องที่มึงเจอลูกโป่งว่างั้น” ริคาโด้ยิ้มเย็น ดูไปดูมามันดูน่ากลัวมากกว่าตื่นเต้นนะ “ครับนาย อึ้งเลยใช่ไหมครับ เห็นไหมผมบอกแล้วว่ามันต้องโดน” เคนทำหน้าภาคภูมิ โดยไม่ได้ดูสีหน้าของคนเป็นเจ้านายเลยแม้แต่น้อย “ใช่! โดน! โดนมาก แต่เป็นมึงนะที่จะโดนไอ้เคน” สิ้นเสียงริคาโด้ก็กระโดดเตะ เอ๊ะ! หรือจะเรียกว่ากระโดดถีบเลยน่าจะถูก “โอ๊ย! นายถีบผมทำไมครับเนี่ย” เคนตะโกนถามด้วยความสงสัย หลังจากที่เจ็บจนจุกแล้วจึงรีบถอยกรูดให้ห่างจากรัศมีฝ่าเท้าของเจ้านายโดยเร็ว “ยังมีหน้ามาถามว่าทำไม ฉันไม่กระทืบแกให้เละคาเท้าก็บุญเท่าไหร่แล้ว ฉันต้องหยุดรีดนมเพื่อมาฟังเรื่องลูกโป่งบ้าๆ ของแกเนี่ยนะ กูเพื่อนเล่นมึเหรอ” ริคาโด้ทำหน้าถมึงทึง พลางคิดในใจ ‘มันไม่เคยไปสวนสนุกรึไงวะ กะอีแค่เห็นลูกโป่งยังทำท่าดีใจขนาดนี้ สงสัยตอนเด็กชีวิตมันคงรันทดมาก ถึงเป็นได้ขนาดนี้’ “แต่ลูกโป่งที่ผมเจอ เป็นคุณลูกโป่งที่แอบจับก้นนายเมื่อวันก่อนนะครับ” “ยัง! ยังไม่จบ แกอยากโดน... หืม! แกว่าแกไปเจอใครมานะ” ริคาโด้จำต้องถามซ้ำ ด้วยไม่แน่ใจว่าตัวเองหูเพี้ยนจนฟังผิดไปหรือว่ายังไง “คุณลูกโป่งที่จับก้นนายครับ” เคนรีบบอกโดยไม่ยึกยักให้ตัวเองต้องเจ็บตัวอีก “คุณลูกโป่ง? ยัยลูกโป่งตู้มๆ น่ะนะ เจอยัยนั่น? ตอนไหนอะไรยังไง รีบเล่ามาเร็วๆ” หลังจากทบทวนจนแน่ใจริคาโด้ก็ออกอาการตื่นเต้นจนน่าหมั่นไส้ ‘แล้วที่กูโดนถีบไป กูไม่ต้องเจ็บตัวฟรีเหรอวะเนี่ย’ “มันไม่สำคัญแล้วมันก็ไม่คุ้มกันสักนิดที่นายจะต้องอดรีดนมเพราะผม แล้วผมมันก็พวกไม่มีสมอง ชอบเอาเรื่องไร้สาระมาบอกนาย ผมว่าผมไปให้พ้นๆ หน้านายน่าจะดีกว่า” เคนทำท่างอน พร้อมกับเดินไปที่ประตู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD