16

1471 Words
“อื้อ!” ริชาร์ดหยุดชะงักพร้อมกับอุทานออกมาเสียงดัง ทำเอาแคทเทอรีนถึงกับหน้าเสีย คงมีแต่จัสมินเท่านั้นที่กำลังยิ้มกริ่มด้วยความสะใจ ‘หึๆ อย่างน้อยฉันก็ลงทุนไม่เสียเที่ยวล่ะน่า อยากมาด้วยดีนัก เป็นไงล่ะ ฮ่าๆๆ สะใจชะมัด’ “อร่อยอย่างที่แคทว่าจริงด้วย นี่ถ้าลดความเผ็ดลงหน่อย พี่ก็วางช้อนไม่ลงเหมือนกันนั่นแหละ” จัสมินถึงกับหยุดยิ้มและหันไปมองอย่างไม่อยากเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เมื่ออีกฝ่ายยังตักโน่นตักนี่มาลองอย่างเอร็ดอร่อย “กินบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเองค่ะ เผลอๆ พี่อาจจะให้เขาเพิ่มพริกให้อีกก็ได้นะคะ” แคทเทอรีนอดที่จะขำไปด้วยไม่ได้ ก็ใครจะไปคิดว่าผู้ชายอย่างริชาร์ดจะชอบอะไรแบบนี้กับเขาด้วย “เอ้า! มะลิ ทานด้วยกันสิ ตั้งแต่มา ผมยังไม่เห็นคุณทานอะไรเลยนะ มาเดี๋ยวผมตักให้” เขาหันไปยิ้มมุมปากให้ ก่อนจะตักส้มปลาร้าโดยมีปลาร้าตัวโตๆ ติดไปด้วยใส่จานเธอ “นี่ บอกแล้วไงว่าอย่ามาเรียกฉันแบบนั้น แล้วใครใช้ให้คุณตักอาหารพวกนี่ให้ฉัน เอาของคุณคืนไปเลย” จัสมินตักอาหารที่เขาให้มาคืนเขากลับไปด้วยใบหน้าผะอืดผะอม ก็คนไม่ชอบ จะให้บังคับให้ชอบก็คงไม่ได้ ก็ใช่ว่าคนไทยทุกคนจะกินปลาร้าได้นี่นา “เอ! หรือความจริงแล้ว คุณไม่ชอบอาหารพวกนี้ แต่ที่สั่งมาเพราะอยากจะแกล้งผม เพราะคิดว่าผมจะไม่ชอบเหมือนคุณใช่ไหม” ริชาร์ดแสร้งพูดทั้งที่ก็รู้เจตนาของเธออยู่แล้ว “อย่ามามั่ว ฉันจะไปแกล้งคุณทำไม ไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรสักอย่าง” เธอพยายามไม่แสดงอาการประหม่า ท่ามกลางสายตาจับผิดของเพื่อนร่วมโต๊ะทั้งสองคน “งั้นก็ดี ถ้าอย่างนั้นก็ทานด้วยกันสิครับ” ริชาร์ดตักอาหารอีกอย่างใส่ในจานของจัสมินอีกครั้ง ทำให้เธอต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่พยายามจะฝืนและทานสิ่งนั้นเข้าไป แต่แล้วในที่สุด เธอก็ทำไม่ได้ “ไม่กงไม่กินมันแล้ว ใช่ ที่ฉันทำไปเพราะฉันอยากจะแกล้งคุณ รู้แบบนี้แล้วก็เลิกยุ่งกับฉันสักที เชิญคุณกินอาหารพวกนี้ให้อร่อยไปเลย” จัสมินว่าแล้วก็ลุกเดินออกไปทันที ใครจะหาว่าเธอแพ้แล้วพาลก็ไม่สนแล้ว ก็ตอนนี้เธอพาลจริงๆ นั่นแหละ “เดี๋ยวก่อนมิน อย่าเพิ่งไปสิ” แคทเทอรีนหน้าตื่น พยายามจะลุกขึ้นไปตามเพื่อน แต่ก็ถูกริชาร์ดห้ามเอาไว้ซะก่อน “แคท ไม่ต้อง เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่เอง พี่จะพาเขากลับมาเอง แคทรอนี่แหละ” ว่าแล้วริชาร์ดก็ลุกขึ้นเดินออกไปอีกคน ทิ้งให้แคทเทอรีนมองตามออกไปด้วยความเป็นห่วง ส่วนทางจัสมินที่หุนหันพลันแล่นเดินออกมาตามลำพังเพราะอารมณ์ล้วนๆ ตอนนี้กำลังรอให้บริกรเรียกรถแท็กซี่ให้อยู่ที่หน้าร้าน เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านที่อยู่ลึกเข้ามาในซอย ไม่มีรถประจำทางผ่านไปมา เธอจึงยังต้องรออยู่อย่างนั้น “น้องคะ ไม่ทราบว่าอีกนานไหมคะกว่าแท็กซี่จะมา” จัสมินหันไปถามบริกรที่ยืนอยู่ข้างๆ “ก็น่าจะประมาณยี่สิบนาทีครับ ตอนนี้รถติดส่งลูกค้าซะส่วนใหญ่ครับ” บริกรบอกอย่างนอบน้อม “อืม! งั้นเดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนละกัน ถ้ารถมาก่อนที่พี่จะออกมา บอกให้รอเดี๋ยวนะ” ว่าแล้วจัสมินก็เดินออกไป “เฮ้! ยูสวยจัง สนใจจะไปนั่งดื่มกับไอไหม” ในขณะที่จัสมินกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ ก็มีฝรั่งขี้เมาเดินออกมาจากห้องน้ำอีกทางซะก่อน และเสียงอ้อแอ้บวกกับกลิ่นเหล้าคละคลุ้งทำให้เธอคิดได้ว่า ควรอยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้ซะ แต่มันก็ช้าไป เมื่อคนเมาจับแขนเธอเอาไว้แล้ว “ปล่อยนะ อย่ามายุ่งกับฉัน” เธอพยายามสะบัดแขน แต่อีกฝ่ายก็จับแน่นเกินไป ยิ่งสะบัดก็ยิ่งเจ็บ แต่จะให้อยู่เฉยๆ ให้มันลวนลาม เธอยอมสู้ตายดีกว่า “ยูสวย สวยมากๆๆ ขอหอมทีนะ” ฝรั่งขี้เมาโน้มใบหน้าลงมาหา “ถอยไป อย่ามายุ่งกับฉันนะ” เธอผลักหน้าอีกฝ่ายออกสุดแรง จนกระทั่งรู้สึกว่าฝ่ายนั้นโดนกระชากแรงๆ ออกไปจากทางด้านหลัง ทำเอาเธอถึงกับน้ำตาไหล ด้วยความรู้สึกหลากหลายในเวลานี้ “เจ็บตรงไหนรึเปล่า” เป็นริชาร์ดนั่นเองที่เข้ามาได้ทันเวลา และตอนนี้ก็กำลังตกใจไม่น้อยที่เห็นจัสมินยืนร้องไห้อยู่แบบนั้น “ฮือๆๆ ฉัน ฉัน ฮือ...!” ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะปนกันทำให้เธอถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่เข้าไปกอดอีกฝ่ายไว้แน่น ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในตอนที่เธอตกอยู่ในอันตราย เธอกลับคิดถึงผู้ชายคนนี้เป็นคนแรก และรู้สึกปลอดภัยในขณะที่อยู่ในอ้อมกอดเขาแบบนี้ “มันทำอะไรคุณรึเปล่า เจ็บตรงไหนบอกผมซิ” ริชาร์ดกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ ถ้าอีกฝ่ายไม่สลบเหมือดไปซะก่อน เขาจะขอซัดมันอีกรอบตอนนี้เลย “ฮือๆๆ ฉัน ฉัน” เธออยากจะตอบคำถามเขา แต่ติดที่มันพูดไม่ออก จึงได้แต่ส่ายหน้าบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่เป็นอะไร และร้องอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด “เอาล่ะ! ตอนนี้คุณปลอดภัยแล้วนะ ไม่มีใครทำอันตรายคุณได้อีกแล้วนะ” เขาพยายามปลอบ แต่เธอก็ยังร้องไห้อยู่อย่างนั้น เขาจึงต้องใช้วิธีอื่นแทน “อื้อ!” ในขณะที่เธอยังร้องไห้ไม่หยุด จู่ๆ เขาก็โน้มใบหน้าลงมาประกบปากตัวเองลงไปหาคนขี้แย ที่ถึงกับอึ้งเพราะไม่ทันตั้งตัว แต่เชื่อไหมว่ามันได้ผล เพราะตอนนี้เธอหยุดร้องไปแล้ว (ก็จะร้องได้ยังไงล่ะ ในเมื่อปากเธอไม่ว่างซะแล้วนี่นา) ที่สำคัญมันแปลกตรงที่ เธอไม่รู้สึกรังเกียจสัมผัสนี้ของเขาเลยแม้แต่น้อย ต่างกับสัมผัสกักขระจากไอ้ขี้เมานั่น ที่ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอ๊วกออกมา ยิ่งไปกว่านั้นเธอกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังจูบเขากลับไปด้วยนี่สิ “ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” หลังจากถอนจูบจากเธออย่างแสนเสียดายแล้ว ริชาร์ดจึงมายืนจ้องหน้าเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า เพราะจากเหตุการณ์นี้ พอจะพิสูจน์ได้ว่าเธอไม่รังเกียจเขาเลยแม้แต่น้อย “บ้า!” เธอพูดได้แค่นี้จริงๆ ไม่รู้สิก็ตอนนี้มันเขินจนพูดไม่ออกแล้วนี่นา ยิ่งถูกเขาจ้องเอาๆ แบบนี้ก็ยิ่งไปไม่เป็น “เอ๊ะ! ผู้หญิงที่เคยปากร้าย ชอบจิกกัดคนนั้นหายไปไหนแล้วนะ” ริชาร์ดแกล้งแหย่อีก เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของเธอในตอนนี้ หรือว่าต่อไปเขาจะต้องใช้วิธีนี้กับเธอ ก็ดูแล้วมันน่ารักดีนี่นาเวลาที่เธอเขินจนไม่กล้ามองหน้าเขาแบบนี้ “อยากโดนด่าอีกใช่ไหม เดี๋ยวแม่จัดให้” พูดถึงนางมารร้าย นางมารร้ายก็สิงร่างทันที แต่มีเหรอที่เขาจะกลัว ก็เขามีวิธีกำจัดนางมารร้ายออกจากร่างของเธอแล้วนี่นา “ก็เอาสิ ถ้าคุณด่า ผมจูบ คุณดื้อ ผมก็จูบ คุณร้าย ก็โดนจูบ หรือถ้าคุณงี่เง่า ผมก็จะจูบให้คุณขาดใจไปเลย สรุปก็คือ ถ้าคุณทำอะไรไม่ถูกใจผม คุณโดนจูบ” นี่เป็นการคาดโทษที่ทำเอาเธอถึงกับอ้าปากค้าง “บ้าเหรอ เอาเปรียบกันแบบนั้นใครจะยอม” เธอแหวทันทีที่ตั้งสติได้ “ผมก็ไม่ได้ถามความเห็นคุณนี่ เพราะนี่ไม่ใช่ข้อตกลงที่ต้องการความเห็น แต่เป็นการแจ้งกฎของผมให้คุณรู้ เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ต่อไป จูบคุณเป็นของผม” ริชาร์ดบอกอย่างเอาแต่ใจ ทำเอาคนถูกยัดเยียดกฎถึงกับงง ว่ามันเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง แล้วเธอยอมเขาทำไม และที่แน่ๆ เขาเป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD