30

1313 Words
“บอกได้ไหมวะว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร” ถามไปแล้วริคาโด้ก็อดที่จะกลัวคำตอบไม่ได้ “เธอเป็นพนักงานที่เพิ่งเข้ามาใหม่ พี่ไม่รู้จักหรอก” ‘ทำไมจะไม่รู้จัก ฉันรู้จักดีเชียวล่ะ’ ริคาโด้ตอบอีกฝ่ายในใจทันควัน “รู้สึกเหมือนสมภารกินไก่วัดยังไงก็ไม่รู้ แต่ความจริงผมรู้จักเธอก่อนที่จะพาเธอเข้ามาทำงานที่นี่ซะอีกนะ ก็อย่างที่บอกว่าผมถูกชะตาเธอตั้งแต่แรกพบ ผมก็เลยวางแผนให้เธอมาทำงานกับเราที่บริษัท แต่รู้ไหมครับว่าเธอไม่ถนัดทำงานที่ผมให้ทำสักนิด มันเป็นความตั้งใจของผมเองแหละที่จะให้มันเป็นแบบนั้น หึๆ พี่ว่าผมอาการหนักไหมล่ะ” ริชาร์ดเล่าไปอมยิ้มไป ต่างกับริคาโด้ที่ปักใจเชื่อความคิดของตัวเองในยามนี้แล้ว “อืม! งั้นแกก็รีบคว้าทั้งโอกาสแล้วก็เธอคนนั้นไว้ให้ได้โดยเร็วแล้วกัน ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนคิดเหมือนแกแล้วก็ชิงตัดหน้าคว้าไป” นี่คงเป็นการเตือนตัวเองมากกว่า ว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผ้หญิงของน้อง “ใครจะยอมล่ะครับพี่” ริชาร์ดพูดติดตลก แต่คนฟังอดที่จะกลัวใจตัวเองด้วยไม่ได้ “นั่นสินะ ใครจะยอม” เขาหลับตาแน่น พยายามไม่นึกถึงเรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องฟุ้งซ่าน จากนั้นต่างฝ่ายจึงออกไปทำงานด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน “คุณนาตาลี แล้วจัสมินล่ะ” ริชาร์ดตรงเข้ามาถามเลขาหน้าห้อง อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้พูดคุยกับเธอ รู้สึกราวกับตัวเองเป็นวัยรุ่นแรกรักยังไงก็ไม่รู้ “เธอเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้เองค่ะ ว่าขอลาเพิ่มอีกอาทิตย์นึง” ริชาร์ดทำหน้าตกใจก่อนจะถามกลับโดยพลัน “แล้วคุณตอบไปว่าไง อนุมัติคำขอเธอไปรึเปล่า” อารมณ์ตอนนี้ของเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า ไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้ต่อไปยังไง รู้สึกมืดแปดด้านยังไงก็ไม่รู้ หรือว่าโอกาสของเขาจะหมดไปแล้วจริงๆ “ก็มันเป็นสิทธิ์ของพนักงานนี่คะ ไม่ทราบว่าท่านรองมีเรื่องอะไรกับเธอรึเปล่าคะ” ริชาร์ดรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ไม่มีอะไร คุณทำงานต่อเถอะ” เขาบอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับความผิดหวัง ในขณะที่น้องชายกำลังผิดหวังและสับสนอยู่กับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง คนเป็นพี่ชายก็มีอาการไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่มาถึงที่ทำงานริคาโด้ก็เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ด้วยกลัวว่าถ้าตัวเองได้ยินเสียงหรือเห็นหน้าเธอตอนนี้ ความคิดด้านมืดอาจทำให้เขาทำอะไรที่ไม่ดีลงไป ดังนั้นสิ่งที่เขาควรทำตอนนี้ก็คือารไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่อยู่ให้ห่างจากเธอ เพื่อไม่ให้ตัวเองทำผิดกับน้องชาย “พี่คะ ท่านประธานเรียกพบฉันบ้างรึเปล่าคะ” ชมพูแพรถามคำถามนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเธอเองก็จำไม่ได้ คงเป็นเพราะวันนี้เธอมีเรื่องอยากขอให้เขาช่วย เธอจึงอยากให้เขาเรียกพบเธอมากที่สุด ซึ่งต่างกับทุกวันที่เธอพยายามบ่ายเบี่ยงและหลบหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเป็นเขาต่างห่างที่พยายามหลบหน้าเธอ “เอ๊ะ! นี่ยังไงนะ เธอถามฉันแบบนี้มากี่รอบแล้วชมพูแพร คิดจะทำอะไร ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าอย่าหวังสูงเกินตัว ถ้าคิดจะไต่เต้าโดยใช้เต้าไต่ล่ะก็มันไม่ง่ายหรอกนะ (เพราะฉันเคยลองมาแล้ว) อย่าไฝ่สูง” “แล้วพี่รู้ได้ไงว่ามันไม่ง่าย เคยลองแล้วเหรอ” ด้วยความลืมตัวบวกกับกำลังอารมณ์ไม่ดี ทำให้ชมพูแพรตอกกลับไปแบบนั้น “ชมพูแพร” เมเบลลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้มีเรื่องกันเสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น “เมเบลเอาเอกสารการสั่งซื้อเข้ามาให้ผมที” ชมพูแพรรู้สึกผิดหวังเล็กๆ เมื่อชื่อที่อีกฝ่ายเรียกไม่ใช่ไม่เธอ แต่... ‘ในเมื่อเขาไม่เรียก เธอก็แค่เข้าไปหาเขาเอง’ คิดได้ดังนั้น เธอก็รีบคว้าเอาแฟ้มเอกสารในมือของเมเบลมาไว้ในมือ “ทำบ้าอะไรของเธอน่ะ เอาคืนมานะ” เมเบลพยายามแย่งกลับมาแต่ก็ช้าไป เมื่อชมพูแพรถือแฟ้มนั่นเดินเร็วๆ เข้าไปในห้องท่านประธานโดยไม่ฟังอะไรอีก ทำเอาเลขารุ่นพี่ได้แต่มองตามด้วยความโมโห “ขอโทษค่ะ” ด้วยความรีบ เธอจึงลืมเคาะประตูก่อนเข้ามา ทำให้ต้องรีบขอโทษเจ้าของห้อง “ผมจำได้ว่าผมไม้ได้เรียกคุณ” เขาถามขณะพยายามก้มหน้าก้มตาสนใจเอกสารของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการมองหน้าเธอโดยไม่จำเป็น “คือ ฉันมีเรื่องขอร้องให้คุณช่วยค่ะ” เธอวางเอกสารพร้อมกับพูดออกมาตรงๆ “ทำไมถึงคิดว่าผมจะช่วยคุณ” เขาย้อนถามกลับไป ทำให้คนฟังถึงกับหน้าสลด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เขาเงยหน้าขึ้นมามองพอดี และทันทีที่เขาเห็นหน้าเศร้าๆ ของเธอก็ทำให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าเธอคงกำลังมีปัญหาคาใจกับน้องชายเขาแน่ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ควรให้พวกเขาสองคนเคลียร์กันเองน่าจะดีกว่า คนนอกอย่างเขาควรถอยออกมาเป็นดีที่สุด “ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอก เชิญคุณออกไปเถอะ ผมจะทำงาน” เขาบอกเสียงขรึมก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง ทำให้ชมพูแพรต้องเดินคอตกออกไปด้วยความผิดหวัง หลังจากที่เธอออกไปแล้ว เขาก็นั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว “แกไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ให้เจ็บตัวอีกริค ปล่อยให้เขาสองคนเคลียร์กันเองน่ะดีแล้ว แต่นั่นมันน้องแกนะเว้ย ถ้าแกไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย โธ่เว้ย! นี่กูกำลังคุยคนเดียวอยู่นะเนี่ย ฮึ่ย! ยุ่งก็ยุ่งวะ” ว่าแล้วเขาก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้องชายทันที “เรื่องของแกเป็นไงบ้าง ตกลงกันได้รึยัง” ทันทีที่ริชาร์ดรับสาย ริคาโด้ก็คุยเรื่องนั้นทันที “ไม่ครับ เธอหลบหน้าผม เธอไม่อยากเจอหน้าผมครับพี่” ริคาโด้ทำหน้าแปลกใจ “แกแน่ใจนะว่าเขาพยายามหลบหน้าแก ไม่ใช่ว่าแกกลัวจนคิดไปเองหรอกนะ” ริคาโด้พยายามถามให้แน่ใจ เพราะเท่าที่เจอกันเมื่อกี้ เขาคิดไม่ออกว่าเธอจะหลบหน้าน้องชายเขายังไง ในเมื่อเธอเพิ่งมาขอให้เขาช่วยอยู่เมื่อกี้ “จะให้ผมคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไงในเมื่อวันนี้เขาไม่มาทำงาน เขาตั้งใจจะหลบหน้าผมหรือไม่ก็เป็นเพราะเขาเกลียดผมจนไม่อยากเจอหน้า โอกาสของผมมันคงหลุดลอยไปแล้วจริงๆ” ริคาโด้งงหนักขึ้นอีก “จะไม่มาได้ยังไง ในเมื่อฉันยังเจอเขาอยู่เมื่อกี้” “พี่เจอเขา เจอที่ไหน เจอได้ยังไงครับ” ริชาร์ดถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทำเอาพี่ชายยิ่งงงขึ้นอีก “ก็เจอในห้องทำงานฉันนี่ไง แกนี่ก็ถามแปลกๆ” ก็ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนส่งเธอมาทำงานกับเขาที่นี่ แล้วทำไมยังถามอะไรแบบนั้น นี่เป็นสิ่งที่ริคาโด้ยังคิดไม่ตก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD