ทุ่มเท >< ห้าม

1138 Words
บทที่4 ทุ่มเท ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องนอนตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ไม่ได้ทำให้ร่างบางที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงตื่นขึ้นมาเลยสักนิด "คุณนิค่ะตื่นได้แล้วค่ะ เดียวไปมหาลัยสายนะคะ" ป้าไก่เธอมักจะทำหน้าที่ของตัวเองทุกเช้าเฉกเช่นการปลุกนิรันดร์ที่ช่วงนี้นอนหลับได้สบายกว่าทุก ๆ ปีที่ก้าวผ่านมา "ค่ะ" นิรันดร์ดีดตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนตัวสภาพผมเผ้ารุงรังมือข้างหนึ่งเกาหัว ก่อนจะบิดขี้เกียจและขานรับคนที่ขึ้นมาปลุกเธอก่อนจะทำการก้าวเท้าลงจากเตียงเหยียบพื้นเย็นภายในห้องแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำทันที "ป้าไก่ครับนิรันดร์ตื่นหรือยังครับ" พีทเดินลงมาจากชั้นบนก็เอ่ยปากถามถึงอีกคนในทันที "ป้าปลุกเธอตื่นแล้วค่ะเดียวอาบน้ำเสร็จก็คงจะเดินลงมา" ป้าไก่ ตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันตัวเองมุ่งไปยังห้องครัวเพื่อจัดเตรียมอาหาร "ครับ" นิรันดร์เดินลงมาจากชั้นบนของบ้านก็มุ่งตัวไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารก่อนแล้ว "กระโปรงสั้นไปหรือเปล่า" "ก็ไม่นะคะปกติดีนิคิดมากน่า" "ทรงเอรัดรูปยาวคืบครึ่งคือปกติหรอ" "แล้วมันผิดปกติยังไงคะ" "ถามไม่คิด" "ห๊ะ!" ทั้งสองคนโต้เถียงกันไปมาจนสุดท้ายหญิงสาวจำต้องยอมศิราโรจน์ยอมกลับขึ้นไปเปลี่ยนเป็นกระโปรงยาวแหวกข้างถึงต้นขาอ่อน "นี่!" พีทปรายตามองถึงกลับสมทบออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก "ก็เปลี่ยนแล้วนี่ไงยาวปิดตาตุ่มเชียวนะคะ" "แล้วอีกข้างที่แหวกขึ้นจนจะเห็นกางเกงซับในนี้คือยาวหรอ" "ก็ยาวอยู่นะคะ" นิรันดร์คลี่ริมฝีปากบางของตัวเองยิ้มออกมาอย่างอ่อนซ้อยโดยไม่สะทกสะท้านต่อใบหน้าเรียบตึงของอีกคน "มันแหวกเกินไป หรือจะไม่ใส่อะไรแล้ววันนี้ก็หยุดเรียนไปชะเลือกมาจะเอายังไงระหว่างกลับขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงแล้วไปเรียน หรือจะแก้ผ้าอยู่บ้าน" พีทพูดออกมาอย่างช้าๆให้ซึมซับเข้าสู่สมองของนิรันดร์ได้ทำงานและประมวลผลไปด้วย "ต..แต่มันจะสายแล้วนะ" นิรันดร์ยังคงหาข้อโต้แย้งให้กับคนเอาแต่ใจอย่าพีท "ระหว่างสายกับหยุดเรีย...." พีทยังไม่ทันพูดจบนิรันดร์ก็พูดแทรกขึ้นมาทันที "ป..ไปเปลี่ยนกระโปรงก่อนนะสายนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก" นิรันดร์พูดจบจากการสนทนาก็รีบหมุนตัววิ่งขึ้นบันไดอย่างกลับจรวดติดเทอร์โบ "ระวัง!" พีทตะโกนเสียงดังอย่างตกใจทันทีเมื่อเห็นว่านิรันดร์วิ่งจนเกือบหน้าคว่ำฟาดกลับบันไดบ้านแต่ก็ยังโชคดีที่เธอจับราวบันไดไว้ได้ทัน "แหะๆ ไม่เป็นไร" หญิงสาวหัวเราะขำแห้งให้ความซุ่มซ่ามของตัวเองเบา ๆ หันกลับไปบอกชายหนุ่มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงตัวเดิม! บนรถ "ถามจริงนี้เธอไม่มีที่มันยาวกว่านี้แล้วจริงๆหรอ" พีทยังคงขัดใจกับกระโปรงของนิรันดร์ "จริงสิไม่มีแล้วมีแต่แบบนี้แหละ" "วันนี้เลิกกี่โมง" "บ่ายค่ะ" "หลังเลิกรอหน้าคณะนะ" "ค่ะ ขอบคุณที่มาส่ง" "เธอลืมอะไรไปหรือเปล่า" "ก็ไม่มีนิค่ะ" "ข้อตกลงของการเป็นแฟนฉันอีกข้อหนึ่ง คือห้ามลืมฉัน!" "แต่ในใบนั้นไม่เห็นมีเลย" "แล้วไง" "คนเอาแต่ใจ!" หญิงสาวว่าให้ชายหนุ่มก่อนจะเปิดประตูรถด้วยความหงุดหงิด "ตั้งใจเรียนล่ะ" ปัง! เสียงประตูรถถูกปิดด้วยการระบายอารมณ์ของนิรันดร์อย่างจัง "อารมณ์ร้ายจริงแม่คุณ" พีท พึมพำอยู่ในรถก็พุ่งตัวรถออกไปทันที "น่าโมโหจริง ๆ คนเอาแต่ใจบ้าไปแล้วบ้าที่สุดโคตรจะนิสัยไม่ดีเลยเอาแต่ใจสุด ๆ เหอะ" นิรันดร์เดินไปพร้อมกับบ่นออกมาเพื่อระบายอารมณ์ของตนเองอยู่นานสองนานกว่าจะกลับมาทำให้จิตใจสงบสุขได้ก็มายืนอยู่หน้าคลาสเรียนแล้วหญิงสาวมองเข้าไปในห้องอาจารย์ยังไม่มาก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเธอ "อ้าวนิรันดร์ทำไมวันนี้มาสายจัง ทำงานหรอเมื่อคืนแต่เมื่อวานเราไปที่ร้านไม่เห็นเธอขึ้นร้องเพลงเลยนะ" ต้นไผ่เพื่อนชายคณะเดียวกันเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัย "เราไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้วอ่ะ ตื่นสายไปหน่อยวันนี้เลยมาสาย" นิรันดร์ตอบ ต้นไผ่พร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ "อ้าวหรอ เอ๊ะเหมือนอาจารย์จะยกคลาสนะวันนี้" ต้นไผ่ที่กำลังจะถามออกมาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเข้าไลน์กลุ่มของวิชาที่ต้องเรียนวันนี้ก็เอ่ยออกมา "งันหรอก็ดีเลยเราอยากไปเปิดหมวกร้องเพลงอีก ตอนนั้นคือสนุกมากแถมได้ช่วยบริจาคเงินช่วยน้อง ๆ อีกด้วยอ่ะรู้สึกเป็นคนดีฮ่าๆๆ" นิรันดร์พูดพร้อมกลับนึกถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาสองสามปีนี้ "งั้นไปกันเดี๋ยวลองทักไปถามพวกเพื่อน ๆ ก่อนนะเผื่อมีคนสนใจจะไปด้วย" ต้นไผ่ก็ทำการทักไลน์กลุ่มใหญ่ของคลาสวิชานี้เข้าไปก็มีคนสนใจอยู่พอสมควร "โอเค งั้นเราลงไปรอพวกมันที่รถของนายกันเถอะเราไม่มีรถ" นิรันดร์เก็บของเสร็จก็พูดขึ้นมาก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ "ได้สิว่าแต่นิรันดร์ว่างทั้งวันหรอถึงอยากไปเปิดหมวก อ่ะ" ต้นไผ่ ถามออกมาเหมือนทุกครั้งอย่างไม่ใส่ใจ "แค่ช่วงเช้าช่วงบ่ายต้องกลับบ้าน อ่ะ" นิรันดร์ตอบออกมาเพราะแฟนหนุ่มได้บอกเอาไว้แล้วว่าจะมารับเธอในช่วงบ่าย "อ้าว เหรองั้นไปกันเถอะเดี๋ยวจะเสียเวลาไปมากกว่านี้พวกมันคงรออยู่ที่รถอ่ะเพราะมัน สแตนด์บายกันอยู่ข้างล่างตึกไม่คิดจะเข้าเรียนฮ่าๆๆ" ต้นไผ่นึกขำ กับเหล่าเพื่อนร่วมคลาสที่มาเรียนแต่ไม่อยากเรียนจึงไม่คิดจะขึ้นตึกสุดท้ายก็กลายเป็นโชคดีของเหล่าจำเลยที่อาจารย์ดันยกคลาสกะทันหัน "โอเคไปกันเลยดีกว่าเนาะอย่างว่าแหละเดี๋ยวจะเสียเวลา" ทั้งสองคนเดินไปยังลิฟต์ของตัวตึกเพื่อลงไปชั้นล่างที่มีเหล่าเพื่อน ๆ ยืนรออยู่ก่อนแล้วหน้านานแล้วหลังจากที่ได้รับข้อความจากต้นไผ่

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD