บทที่4 ทุ่มเท
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องนอนตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ไม่ได้ทำให้ร่างบางที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงตื่นขึ้นมาเลยสักนิด
"คุณนิค่ะตื่นได้แล้วค่ะ เดียวไปมหาลัยสายนะคะ" ป้าไก่เธอมักจะทำหน้าที่ของตัวเองทุกเช้าเฉกเช่นการปลุกนิรันดร์ที่ช่วงนี้นอนหลับได้สบายกว่าทุก ๆ ปีที่ก้าวผ่านมา
"ค่ะ" นิรันดร์ดีดตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนตัวสภาพผมเผ้ารุงรังมือข้างหนึ่งเกาหัว ก่อนจะบิดขี้เกียจและขานรับคนที่ขึ้นมาปลุกเธอก่อนจะทำการก้าวเท้าลงจากเตียงเหยียบพื้นเย็นภายในห้องแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำทันที
"ป้าไก่ครับนิรันดร์ตื่นหรือยังครับ" พีทเดินลงมาจากชั้นบนก็เอ่ยปากถามถึงอีกคนในทันที
"ป้าปลุกเธอตื่นแล้วค่ะเดียวอาบน้ำเสร็จก็คงจะเดินลงมา" ป้าไก่ ตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันตัวเองมุ่งไปยังห้องครัวเพื่อจัดเตรียมอาหาร
"ครับ"
นิรันดร์เดินลงมาจากชั้นบนของบ้านก็มุ่งตัวไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารก่อนแล้ว
"กระโปรงสั้นไปหรือเปล่า"
"ก็ไม่นะคะปกติดีนิคิดมากน่า"
"ทรงเอรัดรูปยาวคืบครึ่งคือปกติหรอ"
"แล้วมันผิดปกติยังไงคะ"
"ถามไม่คิด"
"ห๊ะ!"
ทั้งสองคนโต้เถียงกันไปมาจนสุดท้ายหญิงสาวจำต้องยอมศิราโรจน์ยอมกลับขึ้นไปเปลี่ยนเป็นกระโปรงยาวแหวกข้างถึงต้นขาอ่อน
"นี่!" พีทปรายตามองถึงกลับสมทบออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก
"ก็เปลี่ยนแล้วนี่ไงยาวปิดตาตุ่มเชียวนะคะ"
"แล้วอีกข้างที่แหวกขึ้นจนจะเห็นกางเกงซับในนี้คือยาวหรอ"
"ก็ยาวอยู่นะคะ" นิรันดร์คลี่ริมฝีปากบางของตัวเองยิ้มออกมาอย่างอ่อนซ้อยโดยไม่สะทกสะท้านต่อใบหน้าเรียบตึงของอีกคน
"มันแหวกเกินไป หรือจะไม่ใส่อะไรแล้ววันนี้ก็หยุดเรียนไปชะเลือกมาจะเอายังไงระหว่างกลับขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงแล้วไปเรียน หรือจะแก้ผ้าอยู่บ้าน" พีทพูดออกมาอย่างช้าๆให้ซึมซับเข้าสู่สมองของนิรันดร์ได้ทำงานและประมวลผลไปด้วย
"ต..แต่มันจะสายแล้วนะ" นิรันดร์ยังคงหาข้อโต้แย้งให้กับคนเอาแต่ใจอย่าพีท
"ระหว่างสายกับหยุดเรีย...." พีทยังไม่ทันพูดจบนิรันดร์ก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
"ป..ไปเปลี่ยนกระโปรงก่อนนะสายนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก" นิรันดร์พูดจบจากการสนทนาก็รีบหมุนตัววิ่งขึ้นบันไดอย่างกลับจรวดติดเทอร์โบ
"ระวัง!" พีทตะโกนเสียงดังอย่างตกใจทันทีเมื่อเห็นว่านิรันดร์วิ่งจนเกือบหน้าคว่ำฟาดกลับบันไดบ้านแต่ก็ยังโชคดีที่เธอจับราวบันไดไว้ได้ทัน
"แหะๆ ไม่เป็นไร" หญิงสาวหัวเราะขำแห้งให้ความซุ่มซ่ามของตัวเองเบา ๆ หันกลับไปบอกชายหนุ่มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปเปลี่ยนกระโปรงตัวเดิม!
บนรถ
"ถามจริงนี้เธอไม่มีที่มันยาวกว่านี้แล้วจริงๆหรอ" พีทยังคงขัดใจกับกระโปรงของนิรันดร์
"จริงสิไม่มีแล้วมีแต่แบบนี้แหละ"
"วันนี้เลิกกี่โมง"
"บ่ายค่ะ"
"หลังเลิกรอหน้าคณะนะ"
"ค่ะ ขอบคุณที่มาส่ง"
"เธอลืมอะไรไปหรือเปล่า"
"ก็ไม่มีนิค่ะ"
"ข้อตกลงของการเป็นแฟนฉันอีกข้อหนึ่ง คือห้ามลืมฉัน!"
"แต่ในใบนั้นไม่เห็นมีเลย"
"แล้วไง"
"คนเอาแต่ใจ!" หญิงสาวว่าให้ชายหนุ่มก่อนจะเปิดประตูรถด้วยความหงุดหงิด
"ตั้งใจเรียนล่ะ"
ปัง! เสียงประตูรถถูกปิดด้วยการระบายอารมณ์ของนิรันดร์อย่างจัง
"อารมณ์ร้ายจริงแม่คุณ" พีท พึมพำอยู่ในรถก็พุ่งตัวรถออกไปทันที
"น่าโมโหจริง ๆ คนเอาแต่ใจบ้าไปแล้วบ้าที่สุดโคตรจะนิสัยไม่ดีเลยเอาแต่ใจสุด ๆ เหอะ" นิรันดร์เดินไปพร้อมกับบ่นออกมาเพื่อระบายอารมณ์ของตนเองอยู่นานสองนานกว่าจะกลับมาทำให้จิตใจสงบสุขได้ก็มายืนอยู่หน้าคลาสเรียนแล้วหญิงสาวมองเข้าไปในห้องอาจารย์ยังไม่มาก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเธอ
"อ้าวนิรันดร์ทำไมวันนี้มาสายจัง ทำงานหรอเมื่อคืนแต่เมื่อวานเราไปที่ร้านไม่เห็นเธอขึ้นร้องเพลงเลยนะ" ต้นไผ่เพื่อนชายคณะเดียวกันเอ่ยถามออกมาพร้อมความสงสัย
"เราไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้วอ่ะ ตื่นสายไปหน่อยวันนี้เลยมาสาย" นิรันดร์ตอบ ต้นไผ่พร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ
"อ้าวหรอ เอ๊ะเหมือนอาจารย์จะยกคลาสนะวันนี้" ต้นไผ่ที่กำลังจะถามออกมาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเข้าไลน์กลุ่มของวิชาที่ต้องเรียนวันนี้ก็เอ่ยออกมา
"งันหรอก็ดีเลยเราอยากไปเปิดหมวกร้องเพลงอีก ตอนนั้นคือสนุกมากแถมได้ช่วยบริจาคเงินช่วยน้อง ๆ อีกด้วยอ่ะรู้สึกเป็นคนดีฮ่าๆๆ" นิรันดร์พูดพร้อมกลับนึกถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาสองสามปีนี้
"งั้นไปกันเดี๋ยวลองทักไปถามพวกเพื่อน ๆ ก่อนนะเผื่อมีคนสนใจจะไปด้วย" ต้นไผ่ก็ทำการทักไลน์กลุ่มใหญ่ของคลาสวิชานี้เข้าไปก็มีคนสนใจอยู่พอสมควร
"โอเค งั้นเราลงไปรอพวกมันที่รถของนายกันเถอะเราไม่มีรถ" นิรันดร์เก็บของเสร็จก็พูดขึ้นมาก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้
"ได้สิว่าแต่นิรันดร์ว่างทั้งวันหรอถึงอยากไปเปิดหมวก อ่ะ" ต้นไผ่ ถามออกมาเหมือนทุกครั้งอย่างไม่ใส่ใจ
"แค่ช่วงเช้าช่วงบ่ายต้องกลับบ้าน อ่ะ" นิรันดร์ตอบออกมาเพราะแฟนหนุ่มได้บอกเอาไว้แล้วว่าจะมารับเธอในช่วงบ่าย
"อ้าว เหรองั้นไปกันเถอะเดี๋ยวจะเสียเวลาไปมากกว่านี้พวกมันคงรออยู่ที่รถอ่ะเพราะมัน สแตนด์บายกันอยู่ข้างล่างตึกไม่คิดจะเข้าเรียนฮ่าๆๆ" ต้นไผ่นึกขำ กับเหล่าเพื่อนร่วมคลาสที่มาเรียนแต่ไม่อยากเรียนจึงไม่คิดจะขึ้นตึกสุดท้ายก็กลายเป็นโชคดีของเหล่าจำเลยที่อาจารย์ดันยกคลาสกะทันหัน
"โอเคไปกันเลยดีกว่าเนาะอย่างว่าแหละเดี๋ยวจะเสียเวลา" ทั้งสองคนเดินไปยังลิฟต์ของตัวตึกเพื่อลงไปชั้นล่างที่มีเหล่าเพื่อน ๆ ยืนรออยู่ก่อนแล้วหน้านานแล้วหลังจากที่ได้รับข้อความจากต้นไผ่