บทนำ

938 Words
"อีถ้วยมึงมั่นใจนะว่าแผนนี้จะเวิร์ก​" เสียงที่เอ่ยถามออกมาด้วยความไม่มั่นใจของมะนาวเพื่อนรักสุดที่เลิฟของฉัน​ ถามซ้ำเป็นรอบที่สิบแล้วที่ฉันนับได้ "เออสิ​ ถ้ามึงกลัวนะมึงออกจากแก๊งเราไปเลย" ฉันชี้หน้ามะนาวอย่างเอาจริงว่ามันไม่ใช่แค่คำขู่ "กูออกจากแก๊งมึงก็ตัวคนเดียวแล้วอีถ้วยพูดอย่างกับเราสองคนมีใครคบงั้นแหละ" มะนาวมองฉันด้วยสายตาเอือมระอา ก็จริงของมัน​ คนบนโลกนี้มีเป็นล้านมีแค่เราสองคนนี่แหละที่ทนคบกันมาได้จนถึงตอนนี้​ เน้นย้ำว่าทนนะ​ ถ้าไม่ทนมาจนป่านนี้ก็หัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว​..หมายถึงฉันอ่ะนะ "มึงก็เว่อร์ไป​ เราสองคนไม่คบใครต่างหาก​" "เอาที่มึงสบายใจ" "ตกลงมึงว่าไง​ มึงจะซิ่งกับกูไหมกูเหยียบมิดตีนเลยขอบอก" ฉันเชิ่ดหน้าถามเพราะตอนนี้เราสองคนจอดรอเพื่อที่จะเร่งออกตัวด้วยความเร็วแสง เพราะมะนาวมันนั่งซ้อนท้ายฉันอยู่ "มึงเอาให้มิดเลยอีถ้วย​ กูอยากจะรู้ว่ารถมึงนี่จะแรงสักแค่ไหน" "จัดไป!​ เกาะกูดีๆตกลงไปคอหักตายอย่ามาโทษกูแล้วกัน" ฉันจดจ้องไปยังเส้นทางด้านหน้าหันมองซ้ายมองขวาเผื่อว่ามีคนอยากจะแจม ฉันเสยผมไปด้านหลังแล้วโก่งตัวเตรียมจะเร่งสปีด​ เมื่อรถคันข้างๆออกตัวเท่านั้นแหละ​ ฉันก็ใส่สุดตีนเกือบจะแซงคันด้านหน้าได้แล้ว กริ๊งงง​ กริ๊งงงง~ ฉันดีดกระดิ่งตะโกนด่าตามหลังเมื่อรถคันด้านหน้าดันพ่นควันออกมาราวกับพ่นควันไล่ยุ่ง​ เล่นเอาฉันสำลักหน้าดำหน้าแดง "ควันดำขนาดนี้เพิ่งออกจากเมรุมาหรือไง!" "ไม่เห็นใจรถเล็กเศษเหล็กของเพื่อนกูเลยหรือไง" อีมะนาวช่วยเสริมแต่นั่นกลับทำให้ฉันรีบเบรกตัวโก่งล้อลากจนแทบไฟลุก "มึงจะด่ามันกูไม่ว่า​ แต่อย่ามาพาดพิงถึงอแมนด้า​ ราเชล อลิซาเบธ​ ลูกกูเด็ดขาด​ เห็นอย่างนี้กูก็ผ่อนมาหลายงวดนะ" ฉันบอกเพื่อนตัวดีด้วยความสะเทือนใจ​ แล้วใช้มือบางไปลูบจักรยาน​สีม่วงแสบตาล้อติดไฟของตัวเองเพื่อปลอบโยน วันนี้ไม่เห็นค่าวันหน้ามึงไม่ได้ขี่แล้วนะ "มัวแต่บ่นอยู่นั่นมึงจะไปไหม​ แหกตาดูโน่น" อีมะนาวชี้ไปยังคลับที่อยู่ถัดไปอีกซอยในย่านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีได้ดีทีเดียว ฉันปรายตามองแล้วกระตุกยิ้มออกมา​ จากนั้นก็เร่งฝ่าเท้าปั่นไปข้างหน้าก่อนจะจอดรถจักรยาน​สุดรักสุดหวงเอาไว้ในซอยข้างๆ "กูสวยยัง" ฉันหันไปถามมะนาวเมื่อเราสองคนยืนอยู่หน้าคลับ​ วันนี้ฉันกับมันอยากมาเที่ยวที่คลับที่เขาว่ากันว่าดังนักดังหนา​ "สวย.. แต่น้อยกว่ากูนิด" "มั่นมาก~" ฉันลากเสียงยาวหมั่นไส้เพื่อนตัวเอง​ นี่ถ้ามันไม่ใช่เพื่อนฉันตบคว่ำไปแล้วเพราะในปฐพีนี้ไม่มีผู้ใดงามเกินฉันแล้ว ฉันไล่สำรวจตัวเองในชุดเสื้อครอปรัดรูปสีดำกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเอวสูง​ ไม่ต่างจากมะนาวนัก เราสองคนเดินเข้าไปอย่างมั่นอกมั่นใจ​ ทว่าการ์ดในร้านกลับเรียกเราสองคนเอาไว้ด้วยท่าทางน่ากลัว "ขอตรวจบัตรด้วยครับ" "บะ บัตรเหรอคะ​ นี่พวกเราสองคนอายุ20แล้วนะทำไมจะเข้าไปไม่ได้​ ยังต้องตรวจบัตรอีกเหรอ" ซวยแล้วไงตอนที่ได้ยินพวกนักเรียนชายในโรงเรียน​เล่าบอกว่าเข้าง่ายไง​ไม่ต้องตรวจบัตรด้วยซ้ำ "ขอตรวจบัตรด้วยครับ" "คนกันเองทั้งนั้น​ ถึงหน้าฉันจะดูเด็กไปหน่อยแต่อายุเราผ่านแล้วนะ" "ขอตรวจบัตร" การ์ดพูดย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดุดัน​เล่นเอาฉันขนแขนลุกพรึ่บ "....." "ไม่ให้ตรวจบัตรก็จับโยนออกไป" "ไม่ได้นะ!​ ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร" เออนั่นสิกูเป็นใครเนี่ย!​ จะบอกว่าเป็นลูกพ่อค้าร้านขนมหวานเหรอดูมีสง่าราศีมากเลย ให้ตายสิเรื่องปากไวนี่ฉันได้พันธุกรรม​มาจากใครกันเนี่ย​ บทมีให้พูดตั้งเยอะจะจำเอาบทตัวร้ายในละครมาพูดทำไมกันห้ะ "เป็นใครไม่สน​ จับโยนออกไป" การ์ดอีกสองคนตรงดิ่งมาที่เราสองคน​ หน้าตาเหี้ยมดุกับร่างบึกบึนอย่างกับนักมวยปล้ำมีเหรอที่ฉันจะกลัว "ฉันเป็นเมียเจ้าของคลับ​ พวกนายกล้าแตะต้องฉันก็ลองดู" ฉันเชิ่ดหน้าเถียง​อย่างมั่นอกมั่นใจ​ แม้ว่าขาทั้งสองข้างจะสั่นพับๆ​ แล้วก็ตามที พวกการ์ดต่างหันหน้ามองกันแล้วเบียนสายตามามองฉันอีกที​ การกระทำที่ไม่มีแม้แต่คำพูดทำเอาใจฉันเต้นตุ้มๆต่อมๆ​ ว่าแผนจะแตก​ แต่เพราะเคยได้ยินมาว่าเจ้าของคลับไม่ค่อยมาดูแลเท่าไหร่นานทีปีหนถึงจะเข้ามา​ ฉันก็เลยนึกขึ้นมายกเป็นข้ออ้างได้ "เป็นเมียฉันงั้นเหรอ​ ทำไมไม่ไปนอนรอในห้องล่ะ?" บอกได้คำเดียวว่า... ฉิบหายแล้วอีหนูถ้วยฟูเอ้ย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD