"อีถ้วยมึงมั่นใจนะว่าแผนนี้จะเวิร์ก" เสียงที่เอ่ยถามออกมาด้วยความไม่มั่นใจของมะนาวเพื่อนรักสุดที่เลิฟของฉัน ถามซ้ำเป็นรอบที่สิบแล้วที่ฉันนับได้
"เออสิ ถ้ามึงกลัวนะมึงออกจากแก๊งเราไปเลย" ฉันชี้หน้ามะนาวอย่างเอาจริงว่ามันไม่ใช่แค่คำขู่
"กูออกจากแก๊งมึงก็ตัวคนเดียวแล้วอีถ้วยพูดอย่างกับเราสองคนมีใครคบงั้นแหละ" มะนาวมองฉันด้วยสายตาเอือมระอา
ก็จริงของมัน คนบนโลกนี้มีเป็นล้านมีแค่เราสองคนนี่แหละที่ทนคบกันมาได้จนถึงตอนนี้ เน้นย้ำว่าทนนะ ถ้าไม่ทนมาจนป่านนี้ก็หัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว..หมายถึงฉันอ่ะนะ
"มึงก็เว่อร์ไป เราสองคนไม่คบใครต่างหาก"
"เอาที่มึงสบายใจ"
"ตกลงมึงว่าไง มึงจะซิ่งกับกูไหมกูเหยียบมิดตีนเลยขอบอก" ฉันเชิ่ดหน้าถามเพราะตอนนี้เราสองคนจอดรอเพื่อที่จะเร่งออกตัวด้วยความเร็วแสง เพราะมะนาวมันนั่งซ้อนท้ายฉันอยู่
"มึงเอาให้มิดเลยอีถ้วย กูอยากจะรู้ว่ารถมึงนี่จะแรงสักแค่ไหน"
"จัดไป! เกาะกูดีๆตกลงไปคอหักตายอย่ามาโทษกูแล้วกัน" ฉันจดจ้องไปยังเส้นทางด้านหน้าหันมองซ้ายมองขวาเผื่อว่ามีคนอยากจะแจม
ฉันเสยผมไปด้านหลังแล้วโก่งตัวเตรียมจะเร่งสปีด เมื่อรถคันข้างๆออกตัวเท่านั้นแหละ ฉันก็ใส่สุดตีนเกือบจะแซงคันด้านหน้าได้แล้ว
กริ๊งงง กริ๊งงงง~
ฉันดีดกระดิ่งตะโกนด่าตามหลังเมื่อรถคันด้านหน้าดันพ่นควันออกมาราวกับพ่นควันไล่ยุ่ง เล่นเอาฉันสำลักหน้าดำหน้าแดง
"ควันดำขนาดนี้เพิ่งออกจากเมรุมาหรือไง!"
"ไม่เห็นใจรถเล็กเศษเหล็กของเพื่อนกูเลยหรือไง" อีมะนาวช่วยเสริมแต่นั่นกลับทำให้ฉันรีบเบรกตัวโก่งล้อลากจนแทบไฟลุก
"มึงจะด่ามันกูไม่ว่า แต่อย่ามาพาดพิงถึงอแมนด้า ราเชล อลิซาเบธ ลูกกูเด็ดขาด เห็นอย่างนี้กูก็ผ่อนมาหลายงวดนะ" ฉันบอกเพื่อนตัวดีด้วยความสะเทือนใจ แล้วใช้มือบางไปลูบจักรยานสีม่วงแสบตาล้อติดไฟของตัวเองเพื่อปลอบโยน
วันนี้ไม่เห็นค่าวันหน้ามึงไม่ได้ขี่แล้วนะ
"มัวแต่บ่นอยู่นั่นมึงจะไปไหม แหกตาดูโน่น" อีมะนาวชี้ไปยังคลับที่อยู่ถัดไปอีกซอยในย่านนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีได้ดีทีเดียว
ฉันปรายตามองแล้วกระตุกยิ้มออกมา จากนั้นก็เร่งฝ่าเท้าปั่นไปข้างหน้าก่อนจะจอดรถจักรยานสุดรักสุดหวงเอาไว้ในซอยข้างๆ
"กูสวยยัง" ฉันหันไปถามมะนาวเมื่อเราสองคนยืนอยู่หน้าคลับ วันนี้ฉันกับมันอยากมาเที่ยวที่คลับที่เขาว่ากันว่าดังนักดังหนา
"สวย.. แต่น้อยกว่ากูนิด"
"มั่นมาก~" ฉันลากเสียงยาวหมั่นไส้เพื่อนตัวเอง นี่ถ้ามันไม่ใช่เพื่อนฉันตบคว่ำไปแล้วเพราะในปฐพีนี้ไม่มีผู้ใดงามเกินฉันแล้ว
ฉันไล่สำรวจตัวเองในชุดเสื้อครอปรัดรูปสีดำกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเอวสูง ไม่ต่างจากมะนาวนัก
เราสองคนเดินเข้าไปอย่างมั่นอกมั่นใจ ทว่าการ์ดในร้านกลับเรียกเราสองคนเอาไว้ด้วยท่าทางน่ากลัว
"ขอตรวจบัตรด้วยครับ"
"บะ บัตรเหรอคะ นี่พวกเราสองคนอายุ20แล้วนะทำไมจะเข้าไปไม่ได้ ยังต้องตรวจบัตรอีกเหรอ" ซวยแล้วไงตอนที่ได้ยินพวกนักเรียนชายในโรงเรียนเล่าบอกว่าเข้าง่ายไงไม่ต้องตรวจบัตรด้วยซ้ำ
"ขอตรวจบัตรด้วยครับ"
"คนกันเองทั้งนั้น ถึงหน้าฉันจะดูเด็กไปหน่อยแต่อายุเราผ่านแล้วนะ"
"ขอตรวจบัตร" การ์ดพูดย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดุดันเล่นเอาฉันขนแขนลุกพรึ่บ
"....."
"ไม่ให้ตรวจบัตรก็จับโยนออกไป"
"ไม่ได้นะ! ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร" เออนั่นสิกูเป็นใครเนี่ย! จะบอกว่าเป็นลูกพ่อค้าร้านขนมหวานเหรอดูมีสง่าราศีมากเลย
ให้ตายสิเรื่องปากไวนี่ฉันได้พันธุกรรมมาจากใครกันเนี่ย บทมีให้พูดตั้งเยอะจะจำเอาบทตัวร้ายในละครมาพูดทำไมกันห้ะ
"เป็นใครไม่สน จับโยนออกไป" การ์ดอีกสองคนตรงดิ่งมาที่เราสองคน หน้าตาเหี้ยมดุกับร่างบึกบึนอย่างกับนักมวยปล้ำมีเหรอที่ฉันจะกลัว
"ฉันเป็นเมียเจ้าของคลับ พวกนายกล้าแตะต้องฉันก็ลองดู" ฉันเชิ่ดหน้าเถียงอย่างมั่นอกมั่นใจ แม้ว่าขาทั้งสองข้างจะสั่นพับๆ แล้วก็ตามที
พวกการ์ดต่างหันหน้ามองกันแล้วเบียนสายตามามองฉันอีกที การกระทำที่ไม่มีแม้แต่คำพูดทำเอาใจฉันเต้นตุ้มๆต่อมๆ ว่าแผนจะแตก แต่เพราะเคยได้ยินมาว่าเจ้าของคลับไม่ค่อยมาดูแลเท่าไหร่นานทีปีหนถึงจะเข้ามา ฉันก็เลยนึกขึ้นมายกเป็นข้ออ้างได้
"เป็นเมียฉันงั้นเหรอ ทำไมไม่ไปนอนรอในห้องล่ะ?"
บอกได้คำเดียวว่า... ฉิบหายแล้วอีหนูถ้วยฟูเอ้ย