พนิดาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีครีมออกอย่างไม่เร่งรีบเพราะคิดว่าที่นี่ไม่มีใครนั่นเอง เธอได้สั่งลูกน้องไม่ให้มาแถวนี้ หญิงสาวค่อยๆ ถอดชุดออกจากเรือนร่างนวลเนียน
แทนคุณมองพนิดากำลังเปลื้องผ้า เขากลืนน้ำลายลงคอติดกันหลายครั้ง
หญิงสาวถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัวจนเหลือแต่ชั้นในสีหวานที่ตัดกับผิวเนียนอมน้ำผึ้งน่าสัมผัสเรียกเลือดในกายของเขาให้รุ่มร้อนเป็นที่สุด ความแข็งชันกำลังดุนดันเป้ากางเกงอย่างช่วยไม่ได้
เขาแทบหยุดหายใจเมื่อหญิงสาวปลดตะขอเสื้อในออกพร้อมกับปทุมถันอวบอิ่มเด้งลงมาจากการรัดรึง เขาจ้องร่างเปลือยเขม็งแทบไม่กะพริบตา
หญิงสาวรีบปลดกางเกงออกจากตัว ชายหนุ่มมองเห็นขาเนียนกระจ่างชัดในสายตา เรือนร่างเย้ายวนส่วนล่างถูกปิดทับด้วยซับในสีหวานชวนให้ค้นหา
เขาแทบอยากเข้าไปกระชากผ้าชิ้นน้อยนั้นทิ้ง เพื่อเปิดเผยนวลเนื้อนางของกายสาวให้เขาได้ยลโฉมและสัมผัสกลืนกิน แทนคุณใช้มือกำไปที่ต้นไม้แน่นอย่างสะกดกั้นอารมณ์
โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย
แทนคุณสบถกับตัวเองในใจ มองเห็นหญิงสาวคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันพร้อมกับเช็ดผมอย่างลวกๆ เขาถึงกับถอนหายใจอย่างเสียดาย
ขาแกร่งอยากจะก้าวเข้าไปหาหญิงสาวเพื่อกระชากเธอมาจูบให้หนำใจ พร้อมทั้งจุมพิตไปทั่วเรือนร่างเปลือยนั้นให้สาสม
พนิดาสะบัดผมไปมาเพื่อให้น้ำกระเด็นออกจากเส้นผมที่ยาวสลวยทั่วแผ่นหลังจนถึงเอวคอด มันเป็นภาพที่เย้ายวนจนเขาร้อนรุ่มแทบคลั่ง
ความเป็นชายชาตรีองอาจแทบระเบิด ความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นจนเกินควบคุมได้
แทนคุณตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายว่าเอาไงเอากัน เธอดันมายั่วเขาเสียขนาดนี้ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนสักหน่อย แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขา ก็ต้องชะงักเพราะเสียงของคนหญิงสาวที่ติดตามพนิดาตะโกนถามมาแต่ไกล
“คุณหนูคะ เปลี่ยนชุดแล้วเหรอคะ” ปิ่นปักตะโกนถามหญิงสาว
“จ้ะ ปิ่นก็เปลี่ยนได้แล้วนะ” พนิดาตะโกนพูดกับปิ่นปัก
“ค่ะคุณหนู”
ปิ่นปักขานรับคว้าเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวไปอีกฟากหนึ่งของลำธารเพื่อเปลี่ยนชุด ปิ่นปักใช้เวลาอย่างรวดเร็วในการสวมใส่เสื้อผ้าเพราะเธอรู้สึกปวดท้องฉี่ขึ้นมากะทันหัน
“คุณหนูเสร็จหรือยังคะ ปิ่นขอตัวก่อนนะคะปวดฉี่จังค่ะ”
ปิ่นปักบอกหญิงสาวพร้อมทั้งวิ่งขึ้นไปยังทางเดินที่มาตอนแรก
“จ้ะปิ่น เดี๋ยวฉันตามไป” พนิดายกเสื้อชั้นในขึ้นสวม
แทนคุณมองเห็นปิ่นปักกำลังวิ่งขึ้นไปตามทางที่ลงมายังลำธาร คิดในใจว่าเข้าทางเขาพอดี เขากำลังหน้ามืดที่มาเห็นหญิงสาวที่เขาพึงใจมาแก้ผ้ากลางป่าเช่นนี้
ขาแกร่งค่อยๆ ย่องเข้าไปทางด้านหลังของพนิดาก่อนที่จะสวมกอดเข้าไปอย่างแนบแน่น
“อุ๊บ... อื้อ...”
พนิดาตกใจทำท่าจะร้องแต่แทนคุณเอามือปิดปากเอาไว้ หญิงสาวดิ้นรนกระทุ้งข้อศอกเข้าใส่ชายหนุ่มเต็มแรงตามวิชาที่ได้ฝึกฝนมากับพี่ชายทั้งสามเพื่อป้องกันตัว แทนคุณปล่อยหญิงสาวเพราะรู้สึกจุกไปทั่วท้อง
พนิดาตกใจเมื่อหันมาเห็นคนที่สวมกอดเธอเอาไว้ หญิงสาวก้าวขาวิ่งหนี แต่ช้ากว่าแทนคุณที่กระชากร่างบอบบางอรชรเข้ามาหาเต็มแรง จนปะทะเข้ากับหน้าอกแกร่ง
“ชะ...ช่วย”
หญิงสาวร้องให้คนช่วยแต่เขาไวกว่า กดจุมพิตลงมาอย่างหนักหน่วงเพื่อปิดเรียวปากจิ้มลิ้มแสนหวานไม่ให้เปล่งเสียงออกมาได้
แทนคุณผลักร่างพนิดาไปติดกับโขดหินพร้อมทั้งบดจุมพิตซ้ำลงไปอย่างเร่าร้อนรุนแรงไม่ให้หญิงสาวได้ทันตั้งตัว
พนิดาดิ้นรนผลักไสทุบอกกว้างของเขาอย่างตกใจ แต่ร่างสูงหาได้สะทกสะท้านไม่
เธอครางเพราะจุมพิตที่ไม่เปิดโอกาสให้ได้หายใจหายคอเลย แถมมือหนายังขยำไปที่ปทุมถันอวบอิ่มไม่หยุดหย่อน
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ปล่อยนะไอ้คนเลว”
พนิดาร้องอย่างตกใจพยายามดิ้นรน ลมหายใจหอบพร่า เขายอมถอดถอนจุมพิตที่ยาวนานเหมือนจะสูบเอาลมหายใจของเธอไปจนหมดสิ้น
“เจอกันอีกแล้วนะพริกหวานของพี่”
แทนคุณพูดด้วยเสียงทุ่มหวาน
“ใครอยากเจอกับนาย คนฉวยโอกาส”
พนิดาสวนกลับด้วยความถือดี
“พริกหวานอยากมาแก้ผ้ายั่วพี่เอง พี่เป็นผู้ชายมีเลือดมีเนื้อไม่ใช่พระอิฐพระปูนใครจะทนได้”
แทนคุณพูดยั่วหญิงสาว เขารู้ว่าเธอเกลียดขี้หน้าเขานักหนาตั้งแต่เด็กๆ แต่เขากลับสัญญากับตัวเองว่ายิ่งเธอเกลียด เขายิ่งอยากครอบครองเธอ
“ใครมายั่วนาย นายมันโรคจิต คิดแต่เรื่องทุเรศ”
หญิงสาวดิ้นรนอย่างเจ็บใจ ไม่ใช่ความผิดของเธอเสียหน่อย เขามาแอบดูเธอไม่พอยังมาลวนลามเธออีก ที่ร้ายไปมากกว่านั้นมาหาว่าเธอยั่วเสียนี่
“ไม่รู้ว่าใครยั่วด้วยการแก้ผ้าให้พี่ดู จนเลือดกำเดาเกือบไหล”
แทนคุณพูดพร้อมทั้งลากไล้สายตาโลมเลียไปทั่วเรือนร่างเปลือย
พนิดาพยายามดิ้นรนอีกรอบแต่ไม่สามารถหลุดจากอ้อมแขนของเขาได้ แถมเขายังรัดเสียจนแทบหายใจไม่ออก
แทนคุณเริ่มมองริมฝีปากสีชมพูสดที่บวมช้ำเพราะฤทธิ์จุมพิตอย่างกระหายอีกครั้ง
“ปล่อย”
พนิดาหลบใบหน้าคมเข้มที่ฉกลงมา จนปากร้อนพลาดไปสัมผัสกับแก้มนวลแทน ขนในกายลุกชันไปทั่วเมื่อหนวดเคราสากระคายของเขาสัมผัสกับใบหน้านวล
“อี้... ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
พนิดาดิ้นรนอย่างรังเกียจแต่แทนคุณหาได้ใส่ใจไม่
“หอมไปหมดเลย น้องพริกหวานคนสวยของพี่”
แทนคุณหอบหายใจแรง เมื่อได้สูดกลิ่นสาบสาวในอ้อมแขน เขาเอามือหนาทั้งสองข้างรั้งใบหน้าหญิงสาวเอาไว้เพื่อให้รับจุมพิตของเขาอีกครั้ง
หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น แทนคุณใช้ขาแกร่งรัดขาเพรียวแน่นไม่ให้เธอขยับเขยื้อนหนีไปไหนได้
พนิดาทำท่าจะอ้าปากประท้วงเขา เป็นจังหวะให้เขากดจุมพิตลงไปอย่างถนัดถนี่อีกครั้ง
ลิ้นหนาแทรกเข้าไปในโพรงปากหอมหวานจนสำเร็จ แทนคุณจุมพิตหญิงสาวจนสาแก่ใจ ก่อนถอนใบหน้าออกอีกครั้งอย่างเหนื่อยหอบไม่แพ้เธอ
พนิดาฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าคมเข้มที่อยู่เหนือร่างเธออย่างแรงด้วยความโมโห เลือดหนุ่มในกายร้อนรุ่ม คุกรุ่นปะทุขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เขาลูบใบหน้าไปมาดวงตาเป็นประกาย
“ชอบความรุนแรงก็ไม่บอก เป็นของพี่เถอะนะพริกหวาน”
แทนคุณพูดหอบหายใจแรงขึ้น ผลักร่างบอบบางให้นอนราบไปบนแผ่นหินที่เขากับเธอเหยียบยืนอยู่ ถ้ามีคนเดินมา จะไม่มีใครเห็นเพราะมีหินก้อนใหญ่บังร่างเขาและเธอจนมิด
หญิงสาวผลักไสทำท่าจะประท้วงอีกรอบ แต่ช้ากว่าริมฝีปากหยักหนาของเขาที่ทาบทับลงมาปิดกลีบปากสีดสดเอาไว้
เขากระชากผ้าเช็ดตัวเธอออกอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มเปิดเผยชูชันอย่างล่อตาล่อใจ
“ว้าย!” พนิดาตกใจในการกระทำนั้น
แทนคุณใช้ฝ่ามือเคล้นคลึงอย่างหยามใจ เธอกำลังจะหมดแรงต้านทานเพราะพละกำลังของเขาที่เหนือกว่าหลายเท่า
พยายามรวบรวมสติโอนอ่อนผ่อนตามเขาไปให้เขาได้ใจ เพื่อหาทางเอาตัวรอด สมองของเธอสับสนจนแทบคิดอันใดไม่ออก เมื่อความเสียวซ่านกระสันกำลังแล่นมาโจมตีไปทั่วเรือนร่าง
แทนคุณละใบหน้าหล่อเข้มคมคายจุมพิตซอกคอหอมกรุ่นของวัยสาว ลากไล้ริมฝีปากร้อนรุ่มก้มลงมางับทรวงอกอวบอิ่มที่เขาหมายตาเอาไว้ตั้งแต่แรกเห็น
พนิดาสะดุ้งครางอย่างตกใจ ใจหนึ่งรู้สึกวาบหวาม อีกใจพยายามหาทางเอาตัวรอด
หญิงสาวรวบรวมพละกำลังที่มีอยู่อันน้อยนิด พยายามจะผลักศีรษะของเขาออกไป แต่ว่าพอสอดมือเรียวสวยเข้าไปในผมดกหนาของเขา กลับเป็นกดศีรษะของเขาลงหามาทรวงอกอวบอิ่มแทนที่
“ปล่อย”
หญิงสาวพูดเสียงหอบสะท้านพร่า ควบคุมอารมณ์ที่กำลังต่อต้านกันอย่างรุนแรง
ร่างอรชรสะดุ้งอุทานอีกครั้งเมื่อคนวางอำนาจเอาแต่ใจแกล้งงับไปที่ยอดอกเล่น