ธีร์วัฒน์มาถึงสตูดิโอสักพัก เขาพูดคุยกับลูกน้องที่ด้านหน้าสตูดิโอ สีหน้าเขาเคร่งขรึมก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ
‘..ให้ตายเถอะ เขาไม่คิดว่าเหตุการณ์มันจะเป็นแบบนี้ ไอ้หมอนี่มันบ้ากว่าที่เขาคิด ยังดีที่เธอไม่เป็นอะไรมาก..’
“หาตัวมันเจอไหม?”
“ยังเลยครับ มันไม่กลับไปที่โรงแรม ถามพนักงานที่มาสัมมนาก็ไม่มีใครเห็น แต่ผมว่าน่าจะยังอยู่ในหัวหิน”
“อืม.. หาตัวมันให้เจอ แล้วอย่าเพิ่งรีบส่งมันให้ตำรวจ เอ่อ..ที่ฉันบอกให้เอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านมาด้วยได้เอามาไหม? ”
“เอามาครับ”
“ขอบใจมาก พวกนายแยกย้ายกันไปทำตามที่ฉันสั่ง ถ้าได้เรื่องยังไงให้โทรมาบอกฉันด่วน”
“ได้ครับ”
“ให้ผมอยู่ที่นี่กับคุณธีร์ด้วยไหมครับ ผมจะช่วยดูแลความปลอดภัยให้ ..ให้พวกผมไปกันหมดแบบนี้เดี๋ยวถ้าไอ้นั่นมันเกิดโผล่มาที่นี่มันจะไม่ปลอดภัย”
“อืม.. ก็ดีเหมือนกัน ..เดี๋ยวฉันจะคุยโทรศัพท์หน่อย”
เขาหยิบโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะขึ้นมากดโทรออก สักพักปลายสายถึงรับโทรศัพท์
“คุณสุชาติ.. ผมธีร์วัฒน์เองนะครับ ผมอยากให้คุณช่วยปลดพนักงานที่บริษัทคุณให้หน่อย เลขาผมโทรบอกคุณแล้วใช่ไหม? ขอบคุณครับ”
ธีร์วัฒน์นั่งสูบบุหรี่สักพักก่อนจะเดินกลับเข้าไปในสตูดิโอ เขาเดินเข้าไปหาเมลดาที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง จ้องมองดูพวงแก้มที่ยังเป็นรอยบวมแดง ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ เมลดาหลับตาลงขณะที่ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้บนใบหน้าของเธอ เขาขบสันกรามแน่นด้วยความโกรธ
“ยังเจ็บอยู่ไหม ผมไม่น่าชะล่าใจปล่อยให้คุณอยู่ลำพังคนเดียวเลย”
“ก็ยังเจ็บอยู่บ้างนิดหน่อยค่ะ แต่ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว”
“หามันเจอหรือยังคะ”
“ยัง ตอนนี้ลูกน้องผมกำลังหามันอยู่ คุณไม่ต้องกลัวนะ ผมสัญญาว่าจะไม่ให้มันมาทำร้ายคุณอีก มันจะต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าคุณร้อยเท่าพันเท่าและมันจะต้องรับผลของการกระทำอย่างสาสมกับสิ่งที่มันทำกับคุณ”
“คุณธีร์คะ ถึงดาจะโกรธจะเกลียดมันมากแค่ไหนแต่ดาก็ไม่อยากให้คุณทำอะไรที่ผิดกฎหมาย สัญญากับดาได้ไหมว่าคุณจะไม่ทำ”
“ผมไม่รับปากคุณ ไอ้บ้านั่นมันจิตไม่ปกติ ถ้าขืนปล่อยมันไปคนที่จะไม่ปลอดภัยมันคือคุณนะดา ผมมีวิธีจัดการในแบบของผมก็แล้วกัน”
“คุณธีร์คะ”
“ผมแค่จะทำให้มันเข้าใกล้คุณไม่ได้อีก คุณสบายใจเถอะ”
“ท่าทางคุณดูเหนื่อยๆ เพลียๆ ไปนอนพักหน่อยไหม เดี๋ยวผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง”
“เอ่อ.. ดาพูดจริงๆ นะคะ ดาไม่เป็นไรค่ะ”
“คุณอย่าดื้อได้ไหม มานี่สิ”
เมลดายังนั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ไม่มีทีท่าว่าจะทำตามที่เขาบอกเธอ ธีร์วัฒน์ถอนหายใจออกมาเบาๆ กับความดื้อเงียบของเธอ ฝ่ามือของเขาช้อนอุ้มตัวเธอขึ้นมา เขาไม่ได้ฟังเสียงร้องห้ามของเธอ ก่อนจะอุ้มเธอเดินเข้าไปในห้องพักของเขา เขาวางร่างบางของเธอลงบนที่นอนก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ เธอ
“คุณฟังผมบ้างได้ไหม นอนพักเถอะ”
“แต่.. ดาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเพลียอะไรเลยนะคะ คุณอย่าบังคับดาจะได้ไหม”
“โอเคๆ งั้นนอนพักเป็นเพื่อนผมก็แล้วกัน คุณชอบกลิ่นเทียนหอมไหม?”
“ชอบค่ะ กลิ่นเทียนหอมที่คุณจุดบ่อยๆ ดาชอบมาก หอมอ่อนๆ สดชื่นแบบเหมือนนอนอยู่ในทุ่งดอกไม้ กลิ่นมันทำให้รู้สึกผ่อนคลายดีด้วย”
ธีร์วัฒน์ยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาลุกออกจากเตียงไปหยิบเทียนหอมที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจุด ก่อนจะเอามาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง
“นี่กลิ่นโปรดผมเลยนะ นอกจากมันช่วยให้ผ่อนคลายแล้วกลิ่นของมันยังทำให้หลับสบายด้วย ผมเป็นคนหลับยากบางทีก็ต้องพึ่งของพวกนี้”
“เวลาอยู่กับคุณ ดารู้สึกดี รู้สึกสบายใจ รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
“หึ.. ผมดีใจที่ได้ยินคุณพูดแบบนี้ เวลาเรารู้สึกดีๆ กับใครสักคนมันมีเหตุผลไม่มากหรอก เป็นเพราะคุณชอบผมไง แต่ผมเป็นคนโลภมากนะ ผมอยากได้มากกว่าคำว่าชอบ”
เมลดามองสบสายตากับเขานิ่ง ตอนนี้ใบหน้าของเขาห่างเธอแค่คืบ ธีร์วัฒน์โน้มใบหน้าเข้าหาเธอ ริมฝีปากเขาสัมผัสบนริมฝีปากเธอ และค่อยๆ เม้มบดริมฝีปากบางเบาๆ ก่อนที่ธีร์วัฒนจะเป็นฝ่ายขยับตัวออกห่างจากเธอ เขาถอนหายใจออกมาและเบือนหน้าไปทางอื่น เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ เขาเห็นเธอเงียบไปถึงหันหน้ากลับมามองดูเธอ ตอนนี้เธอนอนหลับสนิทไปแล้วสายตาเขามองสำรวจใบหน้าและแก้มที่เป็นรอยแดงๆ ของเธอ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งก่อนจะขยับตัวลุกออกจากเตียงและยืนมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องไป