ชนาธิปพาหญิงสาวมาหยุดยืนที่หลังร้านตรงบริเวณที่เคยพบกันเมื่อวาน ต้องรักเงยหน้ามองเขาแล้วยกมือไหว้พลางกล่าวขอบคุณเบาๆ อยู่ในลำคอ แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ส่องกระทบด้านหลังของเขา เกิดเงาดำทาบทับลงมาที่ตัวของเธอ ทว่าชั่วขณะหนึ่งหญิงสาวกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากการปกป้องคุ้มครองของคนตรงหน้า
“ชื่ออะไร”
น้ำเสียงราบเรียบของเขาไม่ได้ทำให้ต้องรักรู้สึกหวาดหวั่น แต่ที่ทำให้เธอหนักใจขึ้นมาก็คือสถานะของเขาที่เพิ่งประกาศออกมาโต้งๆ ว่าเป็นเจ้าของที่นี่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนต่างหาก
“ตะ...ต้องรักค่ะ”
เธอตอบโดยไม่มองหน้าเขา นัยน์ตาคู่สวยหลุบมองแต่มือตัวเองที่ประสานกันอยู่อย่างเรียบร้อย อีกทั้งเขาเองก็ตัวสูงมาก ถ้าเงยหน้าขึ้นมอง สายตาก็คงไม่พ้นกระดุมเสื้อของเขา
“อืม...ไปทำงานต่อเถอะ ต้องรัก” พูดจบ ร่างสูงสง่าของเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้หญิงสาวมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นจนกระทั่งเขาหายลับเข้าไปในตัวอาคาร
หญิงสาวยกมือขึ้นจับต้นแขนของตัวเองพลางทำหน้านิ่ว แรงกระชากของเขาเมื่อครู่ทำให้เธอเจ็บแปลบ
“แรงเยอะจัง”
เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นจับตัวเธอเอาไว้ทั้งสองมือ เธอเองยังดิ้นรนแทบแย่เพื่อให้หลุดจากพันธนาการนั้น แต่เขากลับใช้เพียงมือเดียวก็ดึงเธอออกมาได้
ต้องรักทอดสายตามองไปยังอาคารส่วนบริหารอีกครั้ง ความรู้สึกอ่อนหวานบางอย่างค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในใจอย่างเงียบเชียบจนริมฝีปากอิ่มเผยรอยยิ้มบางเบา
ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยยิ้มไม่ค่อยพูด แต่ต้องรักกลับสัมผัสได้ว่าเจ้านายของเธอที่ชื่อชนาธิปนั้นเป็นคนใจดีไม่น้อยเลยทีเดียว...และต้องรักก็แอบมอบตำแหน่ง ‘ฮีโร’ ให้เขาอยู่ในใจ
เมื่อถึงเวลาผับเลิก ต้องรักแอบมายืนพิงกำแพงนับเงินค่าทิปที่ได้ประจำวันและซุกซ่อนเงินบางส่วนไว้ในช่องลับของกระเป๋าสะพายเช่นเคย แล้วจึงเดินออกจากอาคาร วันนี้เป็นวันหยุดของอนุวัฒน์ จึงไม่เห็นเขามาดักรอพาเธอไปส่งบ้านอย่างเช่นทุกวัน หญิงสาวจึงต้องเดินรวมกลุ่มกับเพื่อนพนักงานคนอื่นๆ ไปยังป้ายรถประจำทางที่อยู่ไม่ไกลจากผับเท่าไรนัก
ระหว่างยืนรอรถ เพื่อนร่วมงานคนอื่นทยอยเดินทางกลับไปแล้วบางส่วน บริเวณนั้นจึงเหลือเพียงต้องรักกับเพื่อนร่วมงานและพนักงานจากผับใกล้เคียงประมาณสิบกว่าคนเท่านั้น จู่ๆ ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาอย่างเร็วแล้วจอดเทียบริมบาทวิถีที่หน้าป้ายรถประจำทางจนเสียงเบรกดังลั่น พร้อมกับที่ประตูรถด้านหลังกับด้านข้างคนขับเปิดออกอย่างรวดเร็ว
ต้องรักตาเบิกโพลงเพราะจำได้ดีว่าชายหนุ่มสองคนนี้เป็นใคร ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาออกวิ่ง ผู้ชายสองคนนั้นก็ตรงเข้าชาร์ตหญิงสาวพลางลากถูลู่ถูกังไปยังรถท่ามกลางเสียงหวีดร้องโวยวายของต้องรัก
“อย่าเสือกนะเว้ย! ถ้าไม่อยากตาย”
หนึ่งในชายหนุ่มสองคนนั้นชักปืนขึ้นมาขู่คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ และทำท่าว่าจะเข้าช่วยเหลือ ทว่าพอเห็นวัตถุในมือของคนขู่จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง
“ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
ต้องรักร้องเรียกให้คนช่วยเสียงดังลั่น หนึ่งในสองคนนั้นเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าจะมีตำรวจผ่านมาจึงตัดสินใจชกท้องของหญิงสาวจนต้องรักทรุดฮวบลง ตัวงองุ้มด้วยความจุก ชายหนุ่มคนนั้นเลยอุ้มเธอไปที่รถได้อย่างง่ายดาย
“ไปเว้ย!”
เมื่อจัดการยัดร่างของต้องรักเข้าไปในรถได้แล้ว รถคันดังกล่าวก็พุ่งทะยานออกไปจากตรงนั้นทันที เพราะขืนอยู่นานกว่านี้คงได้เดือดร้อนกันหมดเป็นแน่ เนื่องจากปืนที่ใช้ขู่ก็เป็นปืนปลอม แถมยังกระทำการอุกอาจดักฉุดหญิงสาวในที่สาธารณะอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทว่าศักดิ์ศรีที่ค้ำคอทำให้ยอมไม่ได้ที่โดนหักหน้าอย่างนั้น
“เป็นไงล่ะ นังตัวดี กูบอกให้มากับกูดีๆ ก็ไม่เชื่อ ชอบให้ใช้กำลังดีนัก อย่าคิดนะว่ากูจะปล่อยให้มึงลอยนวลน่ะ มึงกับเจ้านายมึงทำกูขายขี้หน้าเขาไปทั่ว เพราะฉะนั้นมึงต้องชดใช้ ฮ่าๆ”
เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ติดกับต้องรักแผดเสียงหัวเราะพร้อมกับใช้มือลูบคลำเรียวขาและแผ่นหลังของหญิงสาวโดยไม่นำพาอาการขัดขืนอันน้อยนิดของเจ้าของร่าง
เพราะความจุกเจ็บที่ช่องท้อง อีกทั้งความคับแคบของเบาะหลัง ต้องรักจึงไม่อาจขยับตัวหนีได้ตามใจนัก อยากกรีดร้องก็ร้องไม่ออก แค่จะอ้าปากหายใจยังรู้สึกยากลำบาก กระบอกตาเริ่มร้อนผ่าว หยาดน้ำเอ่อขึ้นมาคลอจนกระทั่งไหลรินลงอาบแก้ม รู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจเมื่อได้ยินผู้ชายสามสี่คนในรถพูดจาหยาบโลนอย่างคะนองปาก
คนพวกนี้กำลังจะพาเธอไปรุมโทรม เคยแต่ดูข่าวยังรู้สึกว่าผู้ถูกกระทำนั้นช่างโชคร้ายนัก ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าตนเองกำลังจะประสบเคราะห์กรรม กลายเป็นเหยื่อเหมือนผู้หญิงเหล่านั้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
“โอ๋ๆ อย่าร้องไห้สิจ๊ะคนสวย พี่กำลังพาไปเล่นอะไรสนุกๆ นะจ๊ะ ขี้คร้านจะติดใจแล้วร้องบอกพี่จ๋าขออีกยกเพราะหนูชอบ ฮ่าๆ”
พูดพร้อมกับเอาฝ่ามือฟาดไปที่ก้นของหญิงสาวเต็มแรง พลางดึงตัวหญิงสาวให้นั่งหลังตรงเพราะเริ่มทนไม่ไหว จากที่คิดจะหาความสนุกกับร่างแน่งน้อยนี้ในโรงแรมจึงเปลี่ยนมาเป็นขอสนุกกันในรถนี้ก่อน
ต้องรักสะอื้นฮัก ใช้แขนโอบกอดท่อนขาของตัวเองแน่นไม่ยอมปล่อย ด้วยรู้ดีว่าเป้าหมายต่อไปของชายกลัดมันคือหน้าอกของเธอ ชั่ววูบนั้นคิดกระหวัดไปถึงชายหนุ่มที่เธอแอบยกตำแหน่งฮีโรให้เขา เขาจะรู้บ้างหรือไม่ว่าเธอกำลังจะถูกคนเลวพวกนี้กระทำย่ำยี เธออยากเห็นเขาในเวลานี้ อยากให้เขามาช่วยเหลือเกิน ความคิดฟุ้งซ่านนั้นเลยเถิดไปไกลถึงขนาดว่าถ้าหากเขามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่ว่าเขาต้องการอะไรเธอก็ยินยอมพร้อมใจให้เขาทุกอย่าง...ทุกอย่างจริงๆ
“เฮ้ย! ฉิบหายแล้ว มึงหักหลบสิวะ เฮ้ย!”
เสียงร้องโวยวายของชายหนุ่มที่กำลังหาทางลวนลามต้องรักดังขึ้นพร้อมกับเสียงโหวกเหวกลั่นรถของคนที่เหลือ หญิงสาวพยายามเงยหน้าขึ้นมองเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไม่ทันที่จะเห็นอะไร รถที่นั่งอยู่ก็ดูเหมือนจะเสียหลักพุ่งไปข้างหน้าอย่างแรงจนไปกระแทกกับอะไรบางอย่างเข้า
โครม!
แรงกระแทกจากด้านหน้ารถส่งผลให้ร่างของหญิงสาวโดนอัดเข้ากับเบาะหน้าจนจุกร้าวไปทั้งตัว สมองมึนงงราวกับสิ่งต่างๆ รอบกายกำลังหมุนคว้าง เธอไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนกายไปไหนได้ กำลังกายเริ่มแผ่วลงทุกขณะ รับรู้แต่เพียงว่ากระจกประตูด้านที่ตนนั่งอยู่นั้นถูกทุบจนแตก และใครคนนั้นก็สอดมือเข้ามาปลดล็อกรถแล้วเปิดประตูออกกว้าง ได้ยินเสียงชายหนุ่มที่นั่งประกบเธออีกฝั่งลนลานร้องขอชีวิตก่อนจะถูกกระชากจนร่วงจากรถไป