ประธานคนใหม่

2148 Words
          เสียงเพลงเบาๆออกมาจากโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางคว่ำอยู่บนอ่างล้างหน้าทำให้เจ้าของมือถือโยกหัวตามจังหวะเบาๆ ห้องน้ำที่กว้างแสนกว้างพอๆกับห้องน้ำโรงแรมสำหรับ 20 คนได้ แต่เจ้าของห้องเพียงแค่ใช้พื้นที่ตรงฝักบัวเพียงเท่านั้น งานเขายุ่งเกินกว่าจะมีเวลามานอนแช่อ่างอะไรพวกนี้            เสียงสายน้ำจากฝักบัวที่กำลงไหลอาบร่างกายสูงใหญ่ มัดกล้ามที่ผ่านการดูแลมาอย่างสม่ำเสมอ ลอนกล้ามหน้าท้องสวยได้รูปเช่นกัน ยามที่น้ำไหลรดผิวเนื้อตัวแล้วยิ่งเพิ่มให้รู้สึกอยากสัมผัส แหงนหน้าขึ้นเพื่อให้สายน้ำชะล้างแชมพูจากเส้นผม จมูกโด่งรับกับปากหยักได้รูปยิ่งส่งให้คนคนนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น            " ซี้ด " ความแสบเมื่อสายน้ำไหลผ่านแผ่นหลังบ่งบอกได้ดีเลยว่าอีกคนซนแค่ไหน แผ่นหลังเขาที่น่าจะเต็มไปด้วยรอยเล็บเหมือนแมวข่วนระหว่างที่สร้างบทรักกันตลอดทั้งคืน           " อื้อ นายท่าน ฟาดหนูแรงๆ "            "  อืมม เบบี้ ตัวแสบ "  เสียงครางหวานหูยังคงลอยวนอยู่ในหัว แก่นกายใหญ่เริ่มขยายขึ้นเมื่ออารมณ์จุดติด ภาพค่ำคืนที่เร่าร้อน เนื้อตัวที่แสนหวานยิ่งทำให้มือหนาค่อยๆเลื่อนลงไปกอบกุมส่วนกลางลำตัวก่อนจะค่อยๆขยับ ไม่เคยมีใครทำให้เขาติดภาพจำในหัวได้ขนาดนี้            " อืม "            " อ๊ะ อ๊ะ แรงๆ ทำหนูแรงๆ " เสียงหวานๆกับใบหน้าน่ารังแกฉายเข้ามาให้เห็นอีกครั้งและอีกครั้งไม่รู้จบ อยากจะสลัดออกจากสมองแต่ทำไม่ได้ รูที่ตอดรัดยังทำให้เขาจดจำความรู้สึกนั้นได้ว่าทำเขาแทบบ้าขนาดไหน            " ซี้ด เบบี้ " สายน้ำที่ไหลอาบตัวไม่ได้ทำให้ความร้อนในกายเบาลงแม้แต่น้อย กลับยิ่งทำให้รู้สึกมากกว่าเดิมยามที่สัมผัสลงบนผิวแก่นกายที่มีความต้องการล้นเอ่อแทบจะความคุมตัวเองไม่อยู่ เข็มนาฬิกาข้างกระจกชี้ที่เลขเก้าหากแต่ใครจะสน           มือหนาชักรูดแก่นกายที่บวมเป่งจากช้าๆแปรเปลี่ยนเป็นเร็วแรงพลางในหัวก็มีภาพร่างกายเปลือยเปล่า เอวคอดกิ่ว ผิวขาวเนียนที่พอมีอะไรสัมผัสเข้าก็แดงช้ำได้ง่าย ยิ่งยามที่แส้เส้นโปรดฟาดลงไปบนแผ่นหลังเนียนโดยฝีมือเขา ร่างกายสั่นระริก หยาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มหากแต่ยังคอยเรียกร้องให้เขาทำแบบเดิมซ้ำๆ            " ซี้ด " จินตนาการว่าได้ทำแบบนั้นกับคนนี้อีกครั้งก็ยิ่งทำให้อารมณ์พุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม ในเมื่อห้ามไม่ได้ก็เอาให้สุดเลยละกัน            " นายท่าน หนูจะแตกแล้ว อ๊ะอ๊ะ "            " อืมม พร้อมกันเบบี้ อ่าาา " กำแพงหินอ่อนราคาแพงบัดนี้ถูกเคลือบไปด้วยน้ำกามสีขุ่นที่พุ่งออกมามากมาย ทั้งๆที่เมื่อคืนก็ปลดปล่อยออกไปตั้งหลายน้ำจนแทบหมดตัว หากแต่สำหรับคนสุขภาพดีแบบเขาแล้วก็ไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะฟื้นตัวไวขนาดนี้             ไมค์ปัดความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่ออกจากหัวจนหมดแล้วรีบจัดการตัวเองให้ไวที่สุดเมื่อนึกได้ว่าเขามีงานรออยู่ ใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก่อนจะออกมาด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวพันรอบเอวปกปิดส่วนนั้นเอาไว้ หยิบเสื้อผ้ามาใส่ก่อนจะฉีดน้ำหอมจนทั่ว กลิ่นหอมราคาแพงพุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ น้ำหอมที่ต้องใช้มันเข้าสังคม เขาไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่แต่ก็เลี่ยงไม่ได้            " นายครับ " จะรับอาหารเช้าก่อนมั้ยครับ เสียงลูกน้องเอ่ยถามทันทีที่ผู้เป็นนายเดินออกมาจากห้องแต่งตัว            " ไม่ต้อง ผมกลัวสาย ไปกันเลย "  มือหนาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดจนสุดก่อนจะหยิบสูทตัวแพงแล้วรีบเดินออกจากห้องไปโดยมีลูกน้องคนสนิทถือกระเป๋าตามติดๆ                        แสงแดดในเวลาที่เข็มนาฬิกาชี้ที่เลขเก้านั้นไม่เหมาะกับการเดินทางเอาเสียเลย แล้วยิ่งเป็นร่างบางที่พึ่งผ่านค่ำคืนอันแสนสาหัสมานั้นยิ่งใจร้ายเพิ่มเป็นเท่าตัว ความร้อนจากดวงอาทิตย์กำลังแผดเผาปันที่ภายในร่างกายก็อุณหภูมิสูงอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอแดดประเทศไทยในตอนสายยิ่งขับเหงื่อหนักกว่าเดิม เนื้อตัวเปียกชุ่มสองเท่าของวันปกติ แข้งขาที่แทบจะไม่มีแรงแม้แต่จะก้าวลงรถแท็กซี่แอร์ไม่เย็นแต่คิดราคาสูงลิบลิ่วที่จอดหน้าบริษัทในเวลา 9 : 10            " เฮ้อ ใกล้แล้ว " พยายามก้าวขาให้ไวขึ้นแต่ก็ยังช้าเกินไปอยู่ดี ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน ช่องทางก็เจ็บๆแสบๆ ตัวก็ปวด หัวก็ปวด ยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อก่อนจะค่อยๆเดินไปให้ได้เข้าบริษัทไวที่สุดเพื่อพ้นจากแสงนรกนี่สักที            " ว้าย ปัน ทำไมหน้าซีดแบบนี้ " ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในบริษัทก็ได้ยินเสียงแหลมๆมาก่อนจะเจอตัวเจ้าของ เจ้และคณะเดินมาหาเขาอย่างรวดเร็ว ปันมองทั้งกลุ่มก่อนจะมองรอบๆ พบว่าทุกคนลงมากันแทบจะหมดแล้ว แต่ยังอยู่กันเป็นกลุ่มๆยังไม่ได้ตั้งแถว ถือว่ามาทันละกัน           " เจ้ ปันเหมือนจะตายเลยตอนนี้ " เอ่ยบอกเสียงเหนื่อยติดแหบก่อนจะฟุบหน้าลงกับไหล่คุณแม่สมมติอย่างหมดแรง พอร้อนๆแล้วเข้ามาห้องเย็นๆทันทีเหมือนจะทำให้อาการปวดหัวเขามากขึ้นกว่าเดิม           " งั้นไปห้องพยาบาลเลย ไปพักก่อน ถ้าดีขึ้นค่อยทำงาน "            " แต่ปันมาต้อนรับประธานนะเจ้ " คนป่วยเริ่มงอแงเสียงสองเสียงสาม แต่คนฟังหาได้ใจอ่อนไม่            " ลูกแม่ หนูดูตัวเองด้วย หน้าที่ส่องผู้ชายปล่อยให้เป็นหน้าที่เจ้ พี่ก้องพาน้องไปหน่อย อุ้มเลย "            " มานี่เลยตัวแสบ "            " ฮื่อ เจ้อะ " ร้องงอแงเหมือนเด็กถูกขัดใจโดยมีคุณพ่อสมมติอุ้มท่าเจ้าสาวขึ้นลิฟต์มา ก่อนจะเอาเขามาปล่อยไว้ในห้องพยาบาล ให้พี่หมอวัดไข้ก่อนจะจัดข้าวต้มและยาวางไว้ให้แล้วคุยหยอกล้อกันลงไปต้อนรับท่านประธาน ทิ้งให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแบบผมนั่งมองตาละห้อย           ตัดพ้อไปกินข้าวต้มไปจนหมดก่อนจะเอายามากินทันที ไม่นานตาบนกับตาล่างก็เลื่อนมาจูบกันจนได้ทั้งที่ตั้งใจว่าจะแอบส่องท่านประธานเวลาเดินผ่านก่อนก็ตาม หลับไหลไปพร้อมกับอาการปวดหัวที่ไม่น่าจะทุเลาลงง่ายๆแน่ๆ                           // กึก กึก กึก //           เสียงรองเท้าหนังกระทบย่ำกับพื้นท่ามกลางความเงียบสงัด ร่างสูงเดินอย่างสง่าสมกับตำแหน่งประธานบริษัทที่กำลังจะได้รับมาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า หยุดเดินเมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้วก่อนจะกวาดสายตามองพนักงานทุกคนในบริษัทที่มารอต้อนรับเขาอยู่ พิธีรีตองกันจริงๆ            " ไม่เห็นต้องมาต้อนรับผมขนาดนี้ "  เสียงเข้มเอ่ยออกมาด้วยท่าทางสุขุมต่อผู้อาวุโสกว่า แต่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและความเย่อหยิ่งสมกับเป็นผู้อยู่จุดที่สูงที่สุด            " ครั้งหนึ่งครับท่านประธาน พวกเราทุกคนเต็มใจที่จะต้อนรับท่านประธานครับ ผมรับหน้าที่ในการกล่าวต้อนรับ มีความยินดียิ่งที่จะมีผู้บริหารคนใหม่เข้ามาดูแลพวกเราทุกๆคน หากท่านประธานมีความเห็นว่าสิ่งใดควรแก้ไขและปรับปรุงเราทุกคนพร้อมจะแก้ไขทันทีครับ ยินดีต้อนรับสู่  KM ครับ "            ข้อความกล่าวต้อนรับยังคงถูกพูดออกมาเรื่อยๆ แม้จะรู้สึกเสียเวลาแต่เขาก็ต้องไม่ให้หลุดสิ่งที่ผู้ปกครองคนพึงมี คือการรับฟังความตั้งใจของลูกน้องพยักหน้าตามคำยินยอสรรเสริญมากมายพลางสำรวจคนในบริษัทตนเองอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขอบคุณพนักงานอีกคนที่ถือไมค์มาตั้งไว้ตรงหน้าเขาเพื่อให้กล่าวอะไรสักอย่างกับทุกคนที่นี่            " ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ดี ทำให้ผมได้เห็นพนักงานที่ขับเคลื่อนความเจริญก้าวหน้าของบริษัทก่อนจะเริ่มงานอีกด้วย ผมสัญญาว่าจะปกครองทุกคนอย่างครอบครัว แลกใจผมกับทุกคนที่นี่ งานที่ใช้ใจทำย่อมออกมาดีเสมอ ผมขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคน ขอบคุณครับ "            เสียงปรบมือดังสนั่นในจังหวะที่ขาก้าวเดินมุ่งหน้าไป พนักงานทุกคนส่งประธานคนใหม่ขึ้นไปยังตำแหน่งสูงสุดด้วยรอยยิ้มและเสียงสรรเสริญที่แอบได้ยิน ว่าที่ประธานเดินเข้าไปในลิฟต์ผู้บริหารก่อนจะปิดลง เป็นอันว่าเสร็จสิ้นภารกิจ เสียงสาวเล็กสาวใหญ่หวีดร้องกันอย่างไม่เต็มเสียงจนคุณผู้ชายหัวเราะเบาๆให้ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน            " ลูกเจ้พลาดแล้ว ประธานหล่อมาก พ่อของปันหล่อมาก เจ้อยากเป็นหมาบ้านเค้า "  เจ่เจ้ของแผนกเริ่มบทสนทนาเป็นคนแรกพลางยิ้มน้อยย้อมใหญ่โดยไม่ลืมจะหยอดมุขต่อท้ายไปด้วยตามคาแรคเตอร์ประจำตัว           " ฮ่าฮ่าฮ่า  โอ้ย กูขำ " เสียงพี่ก้องหัวเราะดังกว่าใครเขาจนคนอื่นต้องหันมามอง           " ชั้นรีบขึ้นไปหาลูกดีกว่า ลูกต้องได้ฟังว่าพ่อหล่อแค่ไหน " เอ่ยบอกก่อนจะนำทีมสาวเท้าเพื่อไปยังลิฟต์ทันที ผู้คนทุกแผนกต่างออกันเพื่อขึ้นลิฟต์กันหมด จนคิดว่ากว่าจะถึงห้องพยาบาลคนเลิกงานก่อนแน่ๆ                        // ติ๊ง ~ //           " วันนี้มีอะไรที่ผมต้องทำบ้าง "  เสียงเข้มเอ่ยถามตารางงานตัวเองในขณะที่ขายาวก้าวเดินออกจากลิฟต์มา ปลายทางคือห้องทำงานที่มีตำแหน่งรอเขาอยู่           " วันนี้มีดูเอกสารย้อนหลังของเดือนที่แล้วครับ เพราะนายศึกษามาก่อนแล้วถึงมีไม่มากครับ แล้วก็มีประชุมผู้ถือหุ้นเรื่องแต่งตั้งประธานคนใหม่ช่วงบ่ายครับ "            " อืม เตรียมกาแฟให้- "            " อ้วกกก  ! "            " เฮ้ยยยยย !! "  เลขาและมือซ้ายตะโกนลั่นก่อนจะรีบไปลากผู้มาใหม่ออกมา ผู้มาใหม่ที่พุ่งเข้าใส่ท่านประธานเต็มๆ หน้าทั้งสองซีดเป็นไก่ต้มเมื่อเห็นสีหน้าตึงของผู้เป็นนาย           " ขอ ขอโทษครับ ฮึก ผมปวดหัวจนอ้วก "  เสียงเล็กเอ่ยออกมาอย่างสั่นเทาปนกับเสียงสะอื้นในขณะที่ถูกหิ้วปลีกอยู่โดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมองผู้เคราะห์ร้ายเพราะความหนักอึ้งของเปลือกตา ร่างสูงจดจ้องไปที่ใบหน้าแดงก่ำอย่างไม่ละสายตา ไม่ได้สนใจเสื้อผ้าที่เปื้อนของตัวเองแม้แต่น้อย           " นายครับ "            " อืม ฉันเห็น พาเขาไปล้างตัวแล้วพาไปพบผม "            " เอ่อ ครับนาย "            " ว้าย ท่านประธานคะ เกิดอะไรขึ้นคะ "   เสียงเลขาประจำตำแหน่งกรีดร้องเสียงแหลมเข้ามายังที่เกิดเหตุ ก่อนจะรีบไปรับเสื้อเปื้อนๆจากท่านประธาน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อท่านประธานคนใหม่ชี้ไปที่ถุงพลาสติกบอกเป็นนัยว่าให้เอาถุงนั้นมาใส่เสื้อเขา            " เอ่อ แต่เสื้อท่านแพงนะคะ "            " ผมรวย เร็วๆ "            " ค่ะๆ " รับคว้าถุงพลาสติกมากางให้เจ้านายยัดเสื้อเปื้อนใส่ลงไปก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังห้องตัวเองพร้อมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ดไปด้วย            " หาชุดมาเปลี่ยนให้ผมด้วย ห้องยังไม่มีเสื้อผ้า "            " รับทราบค่ะท่านประธาน "            ประโยคนี้ทำให้ร่างร่อแร่ที่แทบจะตายเอาให้ได้ตะดุ้ง เพราะอาการป่วยของตัวเองที่แทบจะกัดกินพลังทั้งหมดอยู่แล้ว ปวดหัวจนอยากอาเจียนแต่เพราะพี่หมอลงไปต้อนรับท่านประธานข้างล่างเขาถึงต้องลากสังขารออกมาเองแบบนี้ แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจะไม่ทัน สภาพเขาตอนนี้คิดอะไรออกด้วยหรอ ดวงตาที่ปิดสนิทใช้เพียงความเคยชินในการนำทางเพื่อไปยังห้องน้ำหากแต่ประสาทหูยังคงทำงานได้ดี ได้ยินเต็มๆ สองหู เต็มสองหูตั้งแต่ ว้าย ท่านประธาน แล้ว            ชิบหาย            อ้วกแตกใส่ท่านประธาน            สติแทบจะเลือนลางจนต้องปล่อยให้ใครไม่รู้ลากเขาไปที่ไหนก็ไม่รู้อีก อนาคตค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน ถูกลากออกไปอย่างจำยอม น้ำตาที่ไหลจากการป่วยอยู่แล้วยิ่งไหลลงมาซ้ำสองเมื่อนึกถึงความผิดพลาดที่สุดในชีวิตของตัวเอง             แต่ขอโทษนะ            ไอ้เหี้ย กูอ้วกใส่ประธานจริงๆหรอเนี่ย                                    #เอ็นจอยยยยยยยยย ขอบคุณสำหรับอาหารน้องแมวค่า    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD