" หนูคะ อาหารแมวอยู่ไหน " เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางเขย่ามือบางของคนที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียงเบาๆเพื่อปลุกอีกคน
" อือ ปันเหนื่อย อย่ากวน " เสียงงัวเงียเอ่ยติดรำคาญอย่างไม่รู้สึกตัวก่อนจะถกมือตัวเองกลับเข้าไปในผ้าห่มหนาอีกครั้งเพื่อหลับไหลต่อในเช้าวันนี้ ไม่ได้ทำให้คนปลุกละความพยายามลงไปเลย ไมค์อมยิ้มบางๆก่อนจะเริ่มปลุกร่างบางอีกครั้ง
" ไม่กวนค่ะ แต่ตอบผมก่อน " ไมค์พูดเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นไปลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างห้ามไม่อยู่
" หึ้ย ไมค์เคิล แจ๊คสัน !!! ปันง่วง " เสียงเล็กพูดออกมาดังกว่าเดิมด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดจากการถูกรบกวนเวลานอน
" โอเครค่ะๆผมยอม เดี๋ยวผมลงไปซื้อเซเว่นข้างล่างไปก่อน " ไมค์เห็นแบบนั้นเลยถอยทัพทันที ไม่ได้โกรธอะไรเพราะคนน้องคงจะเหนื่อย เวลาถูกกวนจากการพักผ่อนถึงหงุดหงิดมากพิเศษ มือหนาจับผ้าห่มคลุมตัวปันให้ได้รับความอุ่นอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเพื่อออกจากห้องไป
// พรืบ // ผ้าหุ่มหนาที่คลุมร่างบนเตียงไว้ทั้งคืนถูกแหว่งออกจากตัวอย่างรวดเร็วทันทีที่ปันรวบรวมสติทบทวนคำพูดของตัวเองได้ รีบลุกไปคว้ามือหนาที่กำลังจะเดินออกจากห้องไว้โดยไม่ได้ห่วงร่างกายตัวเองเลยว่าตอนนี้ร่างกายของตัวเองมีเพียงชั้นในจิ๋วตัวเดียวก็ตาม
" ไมค์ อ๊ะ " ทันทีที่ก้าวถึงตัวอีกคน แรงที่มีน้อยนิดก็พาลให้แข้งขาอ่อนแรงไปหมด รู้สึกเหมือนกำลังจะเท้าพลิกทันทีที่เท้าแตะพื้น ยังดีที่เป้าหมายไหวพริบดีคว้าเอวเขาไว้ทัน
" วิ่งทำไมครับ" เอ่ยติดเสียงดุเล็กน้อยเพราะอีกคนดูไม่ระวังตัวเองเลย ถ้าเขาหันมาคว้าไว้ไม่ทันจะเป็นยังไง
" ขอโทษ "
" หืม "
" เมื่อกี๊ ขอโทษที่ตะคอกใส่ คือ " มือเล็กจับแขนคนตรงหน้าไว้แน่น เผลอเขย่าเบาๆระหว่างที่คิดคำพูดอยู่
" ไม่เป็นไรค่ะ ไปนอนต่อเถอะ " ไมค์มองร่างบางที่ส่งสายตารู้สึกผิดมาถึงเขา มือหน้ายกขึ้นลูบผมเบาๆเป็นการรับคำขอโทษส่งคืนกลับไป เผลอขยี้ผมเบาๆเมื่อเห็นคนทำหน้าเศร้าเมื่อกี๊ยิ้มออกมาจนปากจะถึงหู
" ไม่เอา ปันตื่นแล้ว เดี๋ยวไปเปิดตู้ใส่อาหารให้ "
" มาวัดไข้ก่อนมา " ไมค์เอ่ยเรียกอีกคนที่กำลังเดินออกไปให้กลับมา เพราะตอนคนน้องจับแขนเขาเขารู้สึกว่ายังได้รับไอร้อนอยู่ และใบหน้าน่ารักๆนี้ยังแดงระเรื่อจนเขารู้สึกเป็นห่วง
ร่างบางเดินเตาะแตะไปหาอีกคนที่ยกมือขึ้นมารอก่อนแล้ว หน้าผากใสแนบลงกับฝ่ามือหนาเหมือนเด็กจนเจ้าของเครื่องวัดไข้จำเป็นต้องยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ อยากรังแกคนป่วย
" ฟอด "
" อื้อ ยังไม่ล้างหน้า "
" หอม " เอ่ยบอกหน้าตาเฉยก่อนจะกดจมูกลงไปอีกครั้ง
" อื้อพอแล้ว เราจะไปอาบน้ำ " ไมค์มองมือเล็กที่ดันอกเขาอยู่เพื่อให้หยุดก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป และเขายังคงมองไปที่ประตูห้องน้ำที่พึ่งปิดไปไม่วางตา เพราะอีกคนหน่ะยังไม่เปิดตู้อาหารแมวให้เขาเลย
" หึ้ย "
" ฮ่าฮ่าฮ่า " ร่างสูงระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นห้องอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่เมื่อเห็นเจ้าของห้องที่พึ่งวิ่งเข้าห้องน้ำไปวิ่งกลับออกมา
" ทำไมไม่เตือนว่าลืมเปิดตู้อาหารแมวให้ "
" น่ารัก ฟอด " ไมค์เดินยิ้มไปซ้อนหลังอีกคนที่ไขกุญแจเปิดตู้อยู่ก่อนจะแอบกดจมูกใส่แก้มนุ่มอีกครั้ง
" อื้อคุณ ไปจริงแล้ว ขอเวลา20นาที " ปันผลักอีกคนออกก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป
" 10 นาทีพอครับ พึ่งดีขึ้น "
" ไม่ได้ยินๆๆๆ " เสียงอีกคนดังออกมาจากห้องน้ำอย่างยียวนจนเขาเผลอหัวเราะกับความดื้อที่เจ้าของห้องพึ่งแสดงออกมาให้เห็น
" ตัวแสบ " เอ่ยกับตัวเองเบาๆก่อนจะจัดการเทอาหารแมวให้แมวขนปุยกิน ก็เล่นมาอ้อนเขาจนตื่นขนาดนี้ คงอยากให้ป๊าเทอาหารให้แหละ
" ปัน ถึงแล้วครับ " ไมค์เอ่ยเรียกคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆเมื่อรถหรูดับลงที่หน้าโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง
" อื้อ หนูปวดหัวอะหม่าม้า " เสียงงอแงดังขึ้นก่อนจะดึงเสื้อสูทที่เขาเป็นคนห่มให้มาปิดหน้าไว้แล้วพลิกตัวไปอีกฝั่ง
" ปวดมากมั้ย ผมบอกแล้วว่าอย่าอาบน้ำนาน " มือหนายื่นไปแนบหน้าผากที่ชื้นเหงื่อเล็กน้อยเพื่อวัดอุณหภูมิดู ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยฝั่งตัวเองแล้วเปิดประตูออกไปเพื่อพาคนไข้ไปหาหมอ
" ฮื่อ หม่าม้าอย่าดุ " ทันทีที่เขาปลดเข็มขัดนิรภัยอีกคนออกพร้อมหยิบเสื้อออกจากตัว ร่างบางก็บ่นงุบงิบขึ้นทันที ไมค์ยิ้มมุมปากก่อนจะช้อนตัวอีกคนในท่าเจ้าสาวขึ้นแนบอกและเดินไปยังจุดที่มีพยาบาลรออยู่โดยมีรปภ.ของที่นี่ช่วยอีกแรง
" อืม หม่าม้า หนูง่วง "
" ผัวครับ ไม่ใช่ม๊า "
" คุณพ่อเชิญทางนี้เลยค่ะ รบกวนขอบัตรประชาชนน้องด้วยนะคะ " เสียงพยาบาลสาวดังมาแต่ไกลพร้อมทั้งขบวนเตียงและบุรุษพยาบาลคงเพราะเห็นเขาอุ้มร่างบางอยู่เลยนึกว่าน้องป่วยหนัก
" เอ่อ ครับ " ไม่ได้สนใจสรรพนามที่โดนเรียกเพราะเวลานี้มันไม่ได้สำคัญเท่าร่างบางบนเตียง ถึงจะไม่ได้ตัวร้อนมากแต่เขาก็เป็นห่วงอยู่ดี เมื่อกรอกประวัติเสร็จร่างสูงก็รีบสาวเท้าก้าวตามพยาบาลคนหนึ่งไปยังห้องพักวีไอพีที่มีคนป่วยของเขาอยู่ ด้วยเพราะโรงพยาบาลนี้มัมเป็นหุ้นส่วนจึงไม่ยุ่งยากเท่าไหร่นัก ส่วนประวัติส่วนตัวเขาก็ให้เลขาจัดการให้ เพียงไม่นานประวัติส่วนตัวพนักงานบริษัทคนนี้ก็ส่งมายังโรงพยาบาลโดยตรง
" คุณ นึกว่าทิ้งกันแล้ว ฮึก ไปไหนมา " ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงสะอื้นมาก่อน เขารู้ทันทีว่าเป็นเสียงใครเพราะเขาจำได้ เสียงเหมือนตอนนั้น
" จัดการเรื่องเอกสารนิดหน่อย ป่วยแล้วชอบร้องไห้หรอ หืม " แทรกกลางระหว่างขาทั้งสองข้างก่อนจะโอนแขนเล็กโอบรอบเอวพร้อมมุดหน้าลงกับไหล่ ความร้อนจากตัวแผ่มาถึงเขานิดหน่อยให้พอโล่งใจว่าอีกคนจะไม่ป่วยหนัก และขอให้เป็นแบบนั้น
" ปันปวดหัวหนิ " หน้าหวานมุดเข้ากับไหล่อีกคนมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะผละออกเมื่อได้ยินเสียงรองเท้ากระทบพื้นดังใกล้เข้ามา
" คุณหมอกำลังมาแล้วนะคะ " เสียงพยาบาลคนเดิมดังมาก่อนจะเห็นเจ้าของเสียง เธอเอ่ยยิ้มๆก่อนจะจัดเตรียมอุปกรณ์ซึ่งคงเป็นพวกไว้ตรวจคนบนเตียง ก่อนจะได้ยินเสียงเดินของคนมาใหม่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
" ขออนุญาตครับ อ้าวเพื่อนเหี้ย " คำทักทายแรกทำเอาปันที่นั่งตัวแดงอยู่งงเพราะไม่รู้คุณหมอคนนี้พูดกับใคร จนเห็นว่าคุณไมค์หันไปมองแล้วโดนคุณหมอยักคิ้วใส่ก็เข้าใจว่าทั้งสองคงรู้จักกัน
" สัส มึงหรอตรวจ " ไมค์พูดเสียงเรียบใส่คนที่ยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่
'หน้าส้นตีน '
" ใช่ครับผมเพื่อนรัก ขออนุญาตนะครับน้องปัณณัฐ "
" ครับ " ร่างบางบนเตียงพยักหน้าเบาๆก่อนจะขยับตัวให้สะดวกต่อคุณหมอ
" ถอยครับสัสเพื่อน "
" กูไม่ถอย "
" กูจะตรวจครับ "
" แม่ง " ถบสใส่เพื่อนตัวดีอย่างหงุดหงิดก่อนจะยอมถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อให้พื้นที่มันยืน
" ก่อนหน้านั้นทำอะไรครับน้องปันถึงป่วย " คุณหมอถามขณะที่กำลังฟังเสียงหัวใจคนไข้ตัวเล็กอยู่ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของหัวใจที่ทำหน้าตาเลิ่กลักอยู่ก่อนตาเขาจะกระตุกเบาๆ เซนต์เขาไม่เคยพลาด
" เอ่อ น่าจะนอนน้อยครับ "
" ทำอะไรอยู่ถึงนอนน้อยครับ บอกหมอหน่อย ลืมตาครับ " หมอยังคงถามคำถามถึงที่มาของการป่วยพร้อมใช้ไฟฉายส่องที่ตาเขา
" คือ เอ่อ "
" เกี่ยวกับไอ้ข้างหลังรึปล่าว "
" คือ "
" เออไอ้เหี้ย กูเป็นคนทำเอง " คนที่ยืนมองอยู่ข้างหลังอดไม่ได้ที่จะตวาดเพื่อนตัวเองเสียงดังอย่างนึกรำคาญ
" ฮ่าฮ่าฮ่า " เสียงหัวเราะของคุณหมอดังลั่นเพราะเซนต์ตัวเองถูก จากทีแรกที่พยาบาลบอกคนไข้มากับคุณพ่อเขาก็ตากระตุกแล้ว ยิ่งมาเจอก็มีเขวบ้างเพราะอีกคนตัวเล็กจริงๆ ถ้าไม่ดูในประวัติว่าอายุเลยเลข 2 มาแล้วเขาจะนึกว่าอยู่ม.หกด้วยซ้ำ กลัวมันจะเอามาเลี้ยงเป็นลูกจริงๆ
" ฮื่อ " เป็นเสียงคนไข้บนเตียงที่นั่งหน้าแดงแจ๋กว่าเดิมเพราะความเขินอาย
" ไม่แกล้งแล้วครับๆ ไหนอ้าปากหน่อย "
ไมค์เห็นเพื่อนเริ่มตรวจจริงจังก็ค่อยๆถอยออกมาเพื่อไม่ให้แกะกะการทำงาน ยืนอยู่ข้างๆพยาบาลสาวที่หันมายิ้มบางๆให้เขา
" มีไข้นิดหน่อยนะครับ คอแดงนิดหน่อย ตาไม่ลอย หมอจะให้ยากลับไปกินนะครับ "
" ครับ "
" แล้วตรงนั้นยังเจ็บมั้ยครับ "
" เอ่อ เจ็บครับ "
" งั้นถอดกางเกงหันหน้าเข้าผนังเลยครับ "
" มึงจะทำอะไร "
" กูจะตรวจดูตรงนั้น เพราะน้องเจ็บ "
" ไม่ได้ "
" กูดูแค่ข้างหน้ามั้ยไอ้สัส ไม่ได้สอดเข้าไป "
" กูดูแล้วเมื่อเช้าถามกูก็ได้ "
" ไม่ได้ไอ้สัสนี่ กูต้องให้พยาบาลจับมึงมัดมั้ย "
" เอาหมอผู้หญิงมา "
" ไม่เอา หมอผู้หญิงปันก็อายสิ " เป็นเสียงปันที่เอ่ยแทรกสงครามขึ้นมา ทำเขาร่างสูงหน้านิ่งมากกว่าเดิม จะมีก็แต่คุณหมอที่ดูยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่ตลอดเวลา
" แต่แด๊ด แม่งเอ้ย มึงก็ได้ "
" ฮ่าฮ่า สันดานขี้หวงนี่แก้ไม่หายจริงๆ "
" หุบปาก รีบๆตรวจ "
" ได้ครับๆ หันตัวเข้าผนังเลยครับ ถอดกางเกงให้หมอด้วยนะ "
" ถอดหรอครับ "
" ไม่ครับๆ ดึงแค่ออกจากก้นก็พอครับ " บอกคนไข้คนสำคัญของเพื่อนรักก่อนจะหันมาใส่ถุงมือยางเพื่อตรวจช่องทางภายนอก ก่อนจะเริ่มตรวจเมื่ออีกคนบนเตียงถอดกางเกงออกเรียบร้อยแล้ว หางตาเหลือบไปเห็นเพื่อนที่นั่งหน้าดุอยู่บนโซฟาก็แอบขำในใจ หวงตายไปเถอะมึง
" ขออนุญาตนะครับ " เอ่ยบอกก่อนคุณหมอจะจับแก้มก้นแยกออกเพื่อให้เห็นช่องทาง นิ้วมือถูวนรอบๆเพื่อสำรวจความเสียหายและสำรวจเผื่อมีบาดแผลเกิดขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
" อื้อ "
" เจ็บใช่มั้ย " กดย้ำตรงบริเวณรอบๆ อีกครั้ง
" นิดหน่อยครับ " เพื่อได้คำตอบแบบนั้นก็เบาใจได้ เพราะเป็นความเจ็บจากการระบมไม่ใช่แผล อย่างน้อยเพื่อนเขาก็ยังรู้จักถนอมอยู่บ้าง ไม่ใช่จ้องจะฟาดหลังคู่นอนอย่างเดียว
" ภายนอกดีเลยนะ ไม่เป็นแผล แต่มีบวมอยู่หมอจะให้ยากินและยาทากลับบ้านนะครับ เรียบร้อยครับใส่กางเกงได้ "
" ขอบคุณครับ " ปันเอ่ยบอกก่อนจะใส่กางเกง คนพามาอยู่ดีๆก็รีบลุกจากโซฟามาบังเขาตอนใส่กางเกงไว้ทั้งที่ก็แค่ดึงกางเกงขึ้น ปันเกือบหัวเราะออกมาเมื่อเห็นคุณหมอมองบนใส่
" งั้นน้องปันนั่งเลยค่ะ พี่จะพาไปรับยา "
" ครับ " ปันเดินไปนั่งรถเข็นอย่างดีพร้อมมีพี่พยาบาลเข็นพาเขาออกมา หันกลับไปมองว่าร่างสูงกับคุณหมอยังไม่ตามมาคงจะคุยกันอยู่เขาก็ไม่ได้อะไร
" หายหน้าหายตาเลยนะมึง ซุกเด็กหรอถึงไม่ค่อยออก " ทันทีที่พยาบาลสาวพาคนไข้ออกไปคุณหมอก็เปิดบทสนาทนาทันทีพร้อมแกะกระดุมเสื้อออก
" กูพึ่งรับตำแหน่งมึงก็รู้ ต้องเตรียมตัวฟาดกับพวกคนแก่จนไม่มีอารมณ์จะออก " ไมค์ตอบเพื่อนด้วยเสียงราบเรียบพลางทำหน้าเบื่อหน่ายเมื่อพูดถึงคนพวกนั้น
" แล้วคนนี้ล่ะ ไปฉุดลูกเต้าเหล่าใครมา "
" เจอในทวิต เขาน่ารักดีเลยนัด พึ่งรู้เมื่อวานว่าเป็นคนในบริษัท " ตอบออกไปอย่างสบายๆ ไม่ได้เป็นความลับอะไร
" ชอบหรอ ปกติไม่หวงคู่นอนหนิหรือเทคแคร์ดีขนาดนี้หนิ "
" ก็ชอบ แต่ยังไม่ขนาดนั้น อยู่ด้วยรู้สึกว่าเขาเหมือนมัม "
" วันไหนมั่นใจก็พาไปหาคุณมัมสิ "
" ยังก่อน พึ่งเจอกัน อะไรๆมันยังไม่ชัดหรอก กูไม่อยากรีบ "
" เออๆ แต่ขออย่างเดียวมึงอย่าเอาเรื่องนับดาวมาปนกับคนใหม่พอ อย่าคิดว่าคนนี้จะเป็นแบบนั้นแบบนี้เพราะแฟนเก่ามึงเป็น ขอแค่นี้ครับ "
" เออๆ ไปแล้ว เจอกัน "
" เจอกันไอ้สัส ว่างๆไปเจอพวกกูบ้างครับ พาน้องไปด้วย คิดถึง "
" ไปตายไอ้สัส " เอ่ยบอกเสียงแข็งก่อนยกเท้าขึ้นทำท่าจะเตะคุณหมอแล้วรีบเดินออกไปเพราะกลัวอีกคนรอนาน
" ฮ่าฮ่าฮ่า "
" ขอโทษที่ให้รอนานครับ " ไมค์เอ่ยขอโทษคนป่วยที่ยืนรออยู่ก่อนกับพยาบาลคนเดิม ก่อนจะยื่นมือไปดึงถุงยาจากมือเล็กมาถือไปแล้วเอามืออีกข้างสอดเข้าไปแทนก่อนจะเดินนำอีกคนไปยังรถที่พนักงานขับมาจอดไว้ให้
" ไม่เป็นไรครับ ผมคุยกับเพื่อนนานกว่านี้อีกหลายเท่า " ปันเอ่ยบอกยิ้มๆพลางก้าวขาตามอีกคนให้ทัน คงเพราะเขาตัวเล็กกว่าทำให้ก้าวขาตามไม่ค่อยทัน สายตาจับจ้องไปที่มือของตัวเองที่ถูกอีกคนจูงอยู่ ดีจัง
" คุยเก่งหรอเรา " ร่างสูงถามก่อนจะเปิดประตูให้คนป่วยเข้าไปนั่ง
" มีบ้างครับ หิวอะ " ปันนั่งลงก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างอ้อนๆ เพราะเมื่อคืนเราก็ทำกันไป ตอนเช้าก็กินแค่แซนวิซบนรถเอง
" ซื้อไปกินห้องหรือกินที่ร้านครับ " เสียงประตูฝั่งคนขับปิดลงพร้อมคำถาม เสียงสตาร์จรถดังขึ้นก่อนตัวรถจะค่อยๆเคลื่อนออก ไม่วายหันกลับมารับคำตอบจากอีกคนที่กำลังหยิบเสื้อตัวเดิมมาห่มพร้อมปรับเบาะเตรียมนอน
" กินห้องก็ได้ครับ ไปร้านอาหารเกาหลีตรงถนน 14 นะครับ ปันอยากกิน " เอ่ยบอกก่อนจะยกมือถือขึ้นมาเล่นรอ ไม่นานรถก็เคลื่อนสู่ถนนเส้นหลัก ไมค์ปล่อยให้อีกคนนอนเล่นมือถือไปโดยไม่มีการสนทนาอะไร ปล่อยให้มีความเงียบบ้าง เขาอยากให้เวลาส่วนตัวกับอีกคนมากๆเพราะไม่อยากให้ร่างบางอึดอัดเกินไป
สปอย
ปัน เปิดประตูให้เจ้หน่อยลูก เจ้มาเยี่ยมไข้
#กิ้ดดด มาแล้วค่า หายไปเป็นเดือนเลย มหาลัยไรท์พึ่งปิดไรท์พึ่งสอบเสร็จค่ะทุกคน ขอโทษที่มาช้าและก็ขอบคุณสำหรับคนที่รอน้า
*ยังไม่ตรวจคำผิดค่ะ