และไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน ญาดาใบหน้าบึ้งบูดเดินนำหน้าเฮียอาร์ตไปอย่างเซ็งๆ ชีวิตที่ไม่มีโทรศัพท์นี่มันน่าเบื่อชะมัดเลย ชายหนุ่มดึงมือหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะพาเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้าน
“หนูเดินเองเป็นค่ะ”
“เดินกลับมั้ยล่ะ”
เขาเหลือบสายตามองหญิงสาวอย่างขำขันแต่เธอไม่แสดงสีหน้าความรู้สึกใดๆนั่นแสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีอารมณ์สนุกร่วมกับเขา เฮียอาร์ตยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะพาหญิงสาวไปขึ้นรถกอล์ฟจากนั้นก็พากลับบ้าน และเมื่อเข้ามาข้างในตัวบ้านหญิงสาวก็เดินขึ้นบันไดเพื่อจะกลับห้องทันทีก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
“เมี๊ยว… เมี๊ยว”
ญาดาหยุดเดินแล้วหันไปมองตามเสียง ลูกแมวสองตัวค่อยๆเดินออกมาจากใต้บันไดมองหญิงสาวตาใสแป๋ว ญาดามองน้องแมวสองตัวตาลุกวาวมันน่ารักมากสีก็สวยงามสุดๆ
“น้องแมว… มานี่ๆ”
หญิงสาวนั่งยองๆก่อนจะตะโกนเรียกแมวน้อยให้เข้ามาหา และเจ้าสองตัวแสนรู้รีบวิ่งเข้าไปให้ญาดาอุ้มทั้งสองตัวและนี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาที่นี่เฮียอาร์ตได้เห็นรอยยิ้มของเธออย่างเต็มตา เขามองเธอที่เล่นกับน้องแมวอย่างเอ็นดู เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักสดใสมาก เขาไม่ชอบเลยที่เธอทำหน้าบึ้งตึงแบบนั้น
“น่ารักจังเลยค่ะหนูๆชื่ออะไรคะ”
ญาดาเอ่ยเสียงสองออกมาพร้อมกับลูบผมเจ้าตัวเล็กอย่างถูกใจ เธอชอบแมวมากแต่ว่าไม่ได้เลี้ยงเพราะไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่มากพอเพราะต้องเรียนหนังสือ แต่ว่าตอนนี้ใกล้เรียนจบแล้วอาจจะซื้อมาเลี้ยงก็ได้
“สีขาวชื่อมานี สีบลูชื่อมานะ”
ญาดาเงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างแปลกใจกับชื่อเรียกแมวของเขา และดูท่าทางจะเป็นเบบี๋อยู่ด้วยไม่คิดว่าผู้ชายอย่างเขาจะเลี้ยงสัตว์น่ารักแบบนี้ด้วย
“ตัวผู้กับตัวเมียเหรอคะ”
“อืม ใช่ พี่น้องพ่อแม่เดียวกันนะ”
“ไม่คิดว่าคุณจะเลี้ยงแมวด้วย เมื่อเช้าไม่เห็นจะเจอเลย”
เธอแปลกใจอยู่ไม่น้อยเดินอยู่ในบ้านไม่เห็นเลยก็อดสงสัยไม่ได้ เฮียอาร์ตเดินมานั่งลงตรงหน้าหญิงสาวก่อนจะอุ้มเจ้ามานะขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
“ที่นี่มีฟาร์มสัตว์หายากนะลืมไปแล้วเหรอไง”
“จริงด้วย… ลืมไปเลย”
เธอลืมคิดไปว่าที่นี่เพาะพันธุ์สัตว์หายากและคงรวมถึงน้องแมวสายพันธุ์นำเข้าด้วย ยิ่งพันธุ์นี้สีบลูหายากมากและราคาค่อนข้างสูง
“มานีหนูกินข้าวหรือยังคะ”
“ปกติแม่บ้านให้ทุกสี่ชั่วโมง สองตัวนี้กินอาหารบ่อยก็เลยปล่อยเลยตามเลย”
“แล้วทำไมคุณถึงไม่ขายคะดูท่าทางยังเด็กอยู่เลยน่าจะเพิ่งคลอดได้ไม่นาน”
เธออุ้มเจ้ามานีเกาท้องเล่นอย่างสนุกและดูเหมือนเจ้าแมวจะชอบใจมากหลับตาเคลิ้มอย่างเพลิดเพลินเธอจึงแกล้งอีกเรื่อยๆ
“ตอนแรกมีคนซื้อไปแล้วจองเรียบร้อย แต่อยู่ๆต้องเดินทางไปต่างประเทศกะทันหัน ไปอยู่แบบยาวๆเลยก็เลยยกเลิกการซื้อขาย เห็นแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ก็เลยเอามาเลี้ยงที่บ้าน พวกแม่บ้านก็ช่วยกันเลี้ยงเพราะฉันไม่มีเวลาหรอก”
เขายิ้มออกมาก่อนจะปล่อยให้เจ้ามานะขึ้นไปนอนในอ้อมกอดของญาดา ท่าทางจะหลงเด็กสองตัวนี้เสียแล้วล่ะมั่งแต่ก็ดีนะเธอจะได้อารมณ์ดี
“งั้นหนูเอาไปนอนด้วยได้มั้ยคะ”
“ได้สิ… ว่าแต่จะมีเวลาให้มานีมานะเหรอ มันต้องการการเอาใจใส่นะ”
“มีสิคะ สัญญาว่าจะดูแลและเลี้ยงให้อย่างดีที่สุด”
ญาดาลืมทุกอย่างที่ผ่านมาเพียงเพราะเจอน้องแมวสองตัวนี้ และดูเหมือนว่าเธอจะชอบมากจนทำให้หญิงสาวอยากจะเอาไปเลี้ยง
“ตกลงตามนี้…”
“ขอบคุณค่ะ”
ญาดายิ้มกว้างออกมาก่อนจะอุ้มมานีมานะขึ้นชั้นบนไปยังห้องนอน เฮียอาร์ตยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองตามหญิงสาวไปจนลับสายตา จากนั้นก็เดินเข้ามาในครัวสั่งให้แม่บ้านทำของอร่อยให้หญิงสาวและเอากระบะทรายของน้องแมวพร้อมอาหารและน้ำไปให้ที่ห้องนอนด้วย
“เดี๋ยวเอาอุปกรณ์ของมานีมานะไปส่งให้ที่ห้องนอนของคุณญาดานะ”
“ได้ค่ะเฮียอาร์ต”
“อาหารถ้าตั้งโต๊ะเสร็จก็เตรียมได้เลย สองที่นะของคุณญาดาด้วยอีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวผมลงมา”
เขาจัดการธุระเรียบร้อยก็เดินขึ้นไปชั้นบนอาบน้ำแต่งตัวในชุดลำลองสบายตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่หยิบไอแพดมาดูเมลทั่วไปเกี่ยวกับรายละเอียดงานในแต่ละวัน จริงๆที่นี่อาชีพหลักของเขาคือทำไร่และผลิตผลทุกอย่างก็ส่งออกจากไร่ของเขาแทบทุกอย่าง ส่วนฟาร์มเขาทำเพราะว่าชอบเลี้ยงสัตว์ มันน่ารักยิ่งเป็นสัตว์หายากเขาวิ่งชอบก็เลยเปิดเพาะพันธุ์ไปเลย
และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่เขาก็เดินออกมาจากห้องนอนไปหาญาดาที่ห้องเพราะดูเธอเงียบผิดปกติ เขาเคาะประตูหน้าห้องอยู่นานกว่าเธอจะยอมเปิดและภาพที่เห็นคือมานีมานะผูกโบว์สีสวยโดยที่ไม่ดูเพศสัตว์เลี้ยงเลยว่าเป็นเพศผู้ตัวหนึ่ง
“เดี๋ยวนะติดโบว์ให้มานะเนี่ยนะ”
“ทำไมคะสวยออก หนูเสียสละของตัวเองให้เลยนะเป็นไงคะน่ารักมั้ย”
เฮียอาร์ตเงียบไปไม่กล้าพูดอะไรเพราะกลัวว่าจะไปขัดใจอะไรเธออีก เดี๋ยวพาลโกรธหาเรื่องเขาอีกขี้เกียจทะเลาะด้วยแล้ว
“อืม… ก็น่ารักดี จะชวนไปกินข้าวข้างล่าง”
“ไม่อยากกินค่ะกินไม่ลง”
เธอเอ่ยออกมาเสียงติดงอนชายหนุ่มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วปิดประตูใส่เขาทันที ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆนึกว่าเธอจะหายโกรธแล้วลืมเรื่องที่ผ่านมาซะอีก แมวก็ไม่ช่วยให้เธอลืมเรื่องราวไปพักหนึ่งสินะ
“ไม่กินจริงเหรอ คืนนี้หิวปวดท้องไม่รู้ด้วยนะ”
“ไม่กิน!”
“เออ ตามใจแล้วกันปวดท้องมาไม่รู้ด้วยแล้ว”
เขาเดินลงไปหาอะไรกินคนเดียวชั้นล่างและไม่ยอมเหลืออะไรให้เธอเลยสักอย่างเพราะว่าจะสั่งสอนเด็กดื้อที่กล้าท้าทายคนอย่างเขา หิวตายไปเลยเขาไม่สนใจหรอก
ช่วงดึกญาดานั่งเฝ้ามานีมานะนอนหลับอยู่บนเตียงของเธอ และตอนนี้เธอเริ่มปวดท้องเพราะว่าหิวจัด เมื่อช่วงเย็นนึกขึ้นได้ว่ากำลังโกรธชายหนุ่มอยู่ก็เลยปวกเก่งบอกไปว่าไม่กินและตอนนี้ก็มาปวดท้องหิวอยู่คนเดียว
“เอาไงดีเนี่ย หรือว่าจะแอบลงไปหาของกินที่ห้องครัว”
เธอคิดได้ดังนั้นก็ค่อยๆย่องออกมาจากที่นอนมองซ้ายขวาทางสะดวกก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่างและตรงไปยังห้องครัว เธอเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกินปรากฎว่ามีแต่ของสดและถ้าจะกินก็ต้องทำเองซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นมันเสียเวลาไม่ทันการแน่
“กินไรดีเนี่ย”
“อ่าวคุณญาดาหาของกินเหรอคะ…”
แม่บ้านที่กำลังเดินเข้ามาจะล้างจานก็เอ่ยถามหญิงสาวทันทีที่เจอ เธอหันไปมองตามเสียงก่อนจะยิ้มแห้งออกมาทันที
“หนูหิวค่ะ”
“ไม่มีอะไรกินด้วยสิคะ ถ้ารอได้พี่จะทำให้กินค่ะแต่ถ้าหิวมากงั้นกินมาม่าไปก่อนมั้ยคะเร็วนะ”
“กินค่ะ เอามาม่าเลยใส่ไข่สองฟองด้วยค่ะ”
ญาดาพยักหน้ายิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจที่พี่แม่บ้านจะต้มมาม่าให้กิน เธอเพิ่งเคยมาที่นี่ก็เลยไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนหาไม่เจอเลย
“งั้นนั่งที่โต๊ะตรงนี้ค่ะ พี่ทำแป๊บเดียว”
“ได้ค่ะ”
ญาดามองพี่แม่บ้านตั้งใจต้มมาม่าให้เธอและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็มาวางให้เธอตรงหน้า ญาดายกมือไหว้ขอบคุณหยิบตะเกียบมาคีบกินอย่างหิวโหย พี่แม่บ้านอมยิ้มแอบถ่ายรูปหญิงสาวตอนกำลังกินมาม่าและส่งไปให้เจ้านายที่กำลังทำงานอยู่ในห้องนอน เฮียอาร์ตหยิบโทรศัพท์มาดูข้อความที่แม่บ้านส่งมาก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพของญาดากำลังกินมาม่าอย่างเอร็ดอร่อย
“นึกว่าจะแน่ยัยเด็กดื้อ…”