ตอนที่ 7 กวินทร์?

1447 Words
ตอนที่ 7 กวินทร์? “อ้าว นี่เราไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” เสียงของมิลินดังขึ้นมาให้ได้ยินแทรกผ่านเสียงดนตรีที่ยังคงถูกเปิดคลอเอาไว้ มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้ำส้มในแก้วถูกส่งเข้าปากไปเป็นหยดสุดท้ายพอดี “ก็เห็นบาร์เทนเดอร์คนนั้นบอกว่า...” “อ๋อ ใช่เราบอกเอาไว้เองล่ะว่าถ้าไม่มา ให้เธอกลับก่อนได้เลย” ถึงจะว่าแบบนั้นแต่คำว่า เธอก็กลับไปเสียสิ ก็ยังไม่หลุดออกจากปากของมิลินแต่อย่างใด ซ้ำเจ้าตัวยังจงใจทรุดกายลงนั่งข้างกันกับคนเพื่อนไปอีกต่างหาก เล่นเอาเฟยทำหน้าไม่ถูกขึ้นมา เมื่อตัวเองคิดว่ากำลังจะได้กลับบ้านแล้วแท้ๆ แต่มิลินมานั่งขนาบข้างแถมยังทำท่าทีเฉยชาไม่พูดเรื่องการกลับหรืออยู่ของเธออีก มันทำให้เจ้าตัวอดไม่ไหวต้องเอ่ยถามออกไปในที่สุด “นี่ลิน คือเธอบอกว่าถ้าฉันดื่มน้ำส้มแก้วนี้หมดจะให้กลับไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ฉันก็...” “จะรีบไปไหนล่ะ เราไม่รั้งเธอเอาไว้นานหรอกน่า เดี๋ยวให้กลับนั่งอยู่ต่อเป็นเพื่อนเราดื่มแก้วนี้หมดก่อนสิ" มิลินยังคงว่าอย่างใจเย็น พร้อมกับค่อย ๆ จิบเครื่องดื่มที่บาร์เทนเดอร์คนเดิมส่งมาให้ในจังหวะที่ดูตาเดียวยังรู้เลยว่าไม่ได้เจ้าตัวไม่ได้อยากจะเร่งรีบให้คนที่เรียกว่าเพื่อนกลับบ้านดั่งตั้งใจเอาไว้สักนิด “เอ่อ...นี่มันก็ดึกแล้วนะ” เฟยว่าขึ้นอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปพอสมควรในความรู้สึก มือเล็กลูบไล้ไปยังท่อนแขนของตัวเองไปมา ในขณะที่สองขาเองก็บดเบียดเข้าหากันด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มันกำลังเล่นงานในตอนนี้ ความรู้สึกร้อนผ่าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “อื้ม ใกล้หมดแล้วนี่ไง เดี๋ยวกลับพร้อมกันเลย เราเองก็อยากกลับแล้วเหมือนกัน” แม้จะพูดแบบนั้น แต่เจ้าตัวก็ยังคงเชื้องช้าเหมือนเคย จนเฟยนึกขัดใจอยากจับแก้วที่มีของเหลวเหลือเพียงแค่อมเดียวช่วยอีกฝ่ายอัดเข้าปากให้มันหมดๆ ไป แต่ก็ไม่อาจทำได้ดังใจคิด ด้วยว่าเวลานี้ความรู้สึกร้อนผ่าวในกายมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว จนเริ่มรับรู้ได้ถึงความชื้นที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง ไม่ต่างจากกรอบใบหน้าสวยก็เช่นกัน “เป็นอะไรไปนะ ทำไมถึงได้ร้อนขนาดนี้ ที่นี่เขาไม่คิดแอร์กันรึไง” เฟยเริ่มถามตัวเองในใจกับความรู้สึกร้อนที่มากกว่าเดิม ดวงตาสวยเริ่มพร่ามัวขึ้นมาจนเห็นภาพรอบตัวมันเบลอไปหมดจนเจ้าตัวต้องพยายามสลัดความมึนงงนั้นทิ้งไป พร้อมกับความคิดที่ว่าต้องรีบพาตัวเองกลับบ้านไปให้ไวที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเลวร้ายและเกินกว่าจะควบคุมได้ "ฉันกลับก่อนนะ" เฟยพยายามบังคับเสียงตัวเองให้เปล่งคำพูดออกไปได้จนหมด ทั้งยังไม่อยู่รอเอาคำตอบอะไรเหมือนอย่างเคย แต่กลับพาตัวเองออกไปจากโต๊ะที่นั่งอยู่ทันที แม้ว่าจะทุลักทุเลพอสมควรเพราะอาการสั่นและร้อนผ่าวแปลกๆ ในร่างกายก็ตาม โดยที่เจ้าตัวคงไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าเวลานี้นั้นสายตาของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนกำลังจับจ้องมาตลอด ด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวหาความจริงใจไม่มีสักนิด "ขอให้ความคันในตัวแกมันทำงานให้เต็มที่นะ จะได้เจียมตัวเองไม่มายุ่งกับของคนอื่นสักที" เสียงหยันดังขึ้นมาพอให้ตัวเองได้ยิน พร้อมกับเครื่องดื่มที่ถูกสาดลงคออย่างไม่มีแววว่าอ้อยอิ่งเหมือนอย่างเมื่อครู่ เช่นเดียวกับร่างกายของเธอที่ขยับเขยื้อนไปยังแสงสีตรงหน้าเหมือนเคย ไม่มีแววหรือท่าทีว่าจะตามคนเพื่อนที่ตนชวนมาไปดั่งคำพูดเลยแม้แต่นิด ทางด้านของเฟย "อื้อ ร้อน ร้อนจัง" เสียงทรมานดังขึ้นในทำนองประโยคเดิมมาเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจจำ แต่ที่รู้ก็คือไม่ว่าเธอจะพยายามฝืนร่างกายเดินมาเท่าไหร่แต่ก็เหมือนว่าท้องถนนที่ตนหมายจะเรียกรถพากลับบ้านนั้นก็ยังไม่ถึงสักที ทั้งในเวลานี้สองขามันคล้ายว่ากำลังสั่นเทาจนยากจะฝืนเดินไปต่อก็ว่าได้ ไม่ต่างจากตรงจุดนั้นที่เหมือนว่ามันจะทั้งร้อนผ่าวและวูบวาบแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะยามที่เนื้อผ้าสามเหลี่ยมที่ห่อหุ้มมันขยับเสียดสีกับร่องแคบจนมันเริ่มชื้นแฉะอย่างรู้สึกได้ "อ่าส์ เกิดอะไรขึ้นนะ ตรงนี้ทำไมมันร้อนแบบนี้" ความร้อนวูบและเสียวซ่านที่เกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัวนั่นทำเอาคนที่พยายามฝืนพาตัวเองกลับบ้านนั้นไม่อาจทนเดินต่อไปอีก ดวงตาพร่ามัวเป็นช่วงๆ มองเห็นเป็นภาพตรงหน้าพร่ามัวขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว สองขาที่พยายามเดินต่อไปเมื่อครู่หยุดชะงักลงอัตโนมัติเมื่อรู้สึกว่ามันไร้เรี่ยวแรงจะเดินต่อไป แผ่นหลังพิงอิงแอบเข้ากับผนังทางเดินที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็เวลานี้เฟยกลับไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าความร้อนที่อยู่ในกายตัวเองเลยสักนิด และไม่สนว่าตอนนี้เธออยู่ในที่ค่อนข้างเปิดเท่าไหร่ซึ่งแน่นอนมันไม่เหมาะแก่การทำเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ เพราะที่สาวเจ้ารู้มีเพียงแค่ว่าให้ตัวเองหลุดพ้นจากความทรมานนี่ก็พอ "ไม่ไหว อื้อ ไม่ไหวแล้ว" เฟยยังคงบอกกับตัวเองแบบนั้นพร้อมกับนำพามือร้อนลูบไล้ไปกับเนื้อกายส่วนต่างๆ ของตัวเองหวังจะไล่ความร้อนในกาย แต่ก็เหมือนว่านั่นมันจะไม่ช่วยอะไรเลย เพราะยิ่งฝ่ามือนุ่มของเจ้าตัวมันลากผ่านส่วนต่าง ๆ มากเพียงใด สติสัมปชัญญะของเฟยก็เหมือนจะยิ่งเลือนรางลงไปทุกที แล้วถูกแทนที่ด้วยไฟร้อนในกายที่มันมากขึ้นเกินจะควบคุมเอาไว้ได้อีก "อึก ตรงนี้ อื้อ ร้อนจัง" มือเล็กเคลื่อนไปยังเนื้อเนินสามเหลี่ยมของตนภายใต้กระโปรงยามคลุมเข่า และแม้ว่ามันจะเป็นการสัมผัสผ่านจากส่วนหน้าและมือเนื้อผ้ากั้น แต่นั่นมันก็ทำให้เฟยยิ่งถลำลึกสู่อารมณ์ที่ยากจะรับมือมากขึ้นไปอีก จังหวะการลูบไล้ในตอนแรกเปลี่ยนเป็นคลึงเคล้นไปมารับแรงบดร่อนเบาๆ ของสะโพกสวย ในขณะที่มืออีกข้างนั้นถูกยกขึ้นมาคลึงเคล้นก้อนเนื้อหน้าอกจนเนื้อผ้ามันยับย่นไปหมด น่าสงสารที่เวลานี้เฟยหญิงสาวผู้เรียบร้อยอ่อนหวานได้จางหายไปจนหมดแล้วเหลือเพียงแค่สาวร้อนรักเท่านั้น และเหมือนมันจะแย่ลงไปอีก เมื่อจังหวะหนึ่งเสียงใครบางคนก็ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบก่อนหน้า "เฮ้ยคุณ ทำอะไรอ่ะ" เสียงร้องทักที่อยู่ในอารามตกใจดึงให้เฟยที่มัวเมาในกามอารมณ์ของตัวเองหันมามองอย่างช่วยไม่ได้ นั่นมันยิ่งทำให้ผู้มาใหม่ตกใจมากกว่าเดิมไปอีกเท่าตัว "อ้าวคุณ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่.." เสียงร้องถามถูกกลืนหายไปในลำคอ เมื่อสาวคนที่ตนร้องทักนั่นเปลี่ยนเป้าหมายจากการเล่นสนุกกับตัวเอง แล้วพุ่งตรงเข้ามากอดรัดเขาแทน พร้อมกับพยายามเบียดเสียดร่างกายให้แนบแน่นกว่าเก่า สื่อความหมายเป็นนัยสิ่งที่ต้องการได้เป็นอย่างดี และใช่ ในความรู้สึกของเฟยที่ถูกอารมณ์กามครอบงำยิ่งร้อนแรงมากขึ้นไปอีกเมื่อถูกฟีโรโมนของเพศตรงข้ามกระตุ้น ปลายจมูกเล็กซุกไซ้ดอมดมกลิ่นน้ำหอมบนกายชายตรงหน้าอย่างหลงใหล พร้อมกับเสียงแหบพร่าที่เอ่ยกระซิบตรงไปยังข้างกกหู "กวินทร์ ช่วยเราที เราร้อนไปหมดแล้ว โดยเฉพาะตรงนี้" พูดอย่างเดียวเสียที่ไหน แต่แม่สาวใจกล้ายังจงใจเบียดส่วนร่างไปกับท่อนขาของอีกคนเพิ่มไปอีก แล้วแบบนี้คนถูกยั่วมีหรือจะทนได้อีก ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD