ชอบพอหรือรักกันเลยสักนิด ที่เป็นอย่างทุกวันนี้มันก็แค่เซ็กส์ที่เราต่างต้องการซึ่งกันและกัน ผมถึงได้บอกไงว่าเวลานี้คือเครื่องพิสูจน์ผมน่ะไม่คิดจะมีใครอยู่แล้ว แต่กับมิลาน ผู้หญิงคลั่งเซ็กส์อย่างหล่อนสุดท้ายเธอจะเหมาะสมกับผมหรือเปล่า ในฐานะทางสังคม หน้าตาเธอมีพร้อมที่เหลือก็คือเราสองคนเท่านั้นจะสามารถฝ่าฝันมันไปได้ไหม? นี่แหละคือเครื่องตอกย้ำความสัมพันธ์ในอนาคต
ณ สนามบิน
“ร้อนชะมัด” เมื่อสองเท้าแตะลงบนแผ่นดินบ้านเกิด อาการหงุดหงิดก็เทเข้ามาในทันทีผมถอดเสื้อโค้ดสีดำออกส่งให้ธนินเลขาส่วนตัวของพ่อที่รับหน้าที่ดูแลผมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
“ผมบอกคุณพายแล้วว่าเมืองไทยตอนนี้เข้าสู่ฤดูร้อนครับ?”
“โอเค ผมผิดครับ” หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาซึ่งเป็นไปตามอายุที่มากขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้ธนินดูแก่ลงแม้แต่นิด “ว่าแต่หน้าเต่งตึงขึ้น ไปฉีดโบฯ มาเหรอครับ?”
“แหมคุณพาย ทักผมแบบนี้ผมควรตอบยังไงดีครับเนี่ย”
“ตอบความจริงไง” ธนินเดินนำผมไปยังรถหรูสีดำซึ่งเป็นรถของบริษัท การมาของผมทำให้ทุกคนที่บริษัทรับรู้และผมก็ต้องเข้าที่ประชุมในอีกสองวันเพื่อรับตำแหน่งที่พ่อเลื่อนให้ สำคัญคือผมต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าสามารถเป็นผู้บริหารได้หรือไม่? ถ้าได้ผมก็จะผ่านโปรการเป็นประธานบริษัทหลังจากนี้ก็จะสบายหน่อย ช่วงนี้คงหนักแน่นอนว่ามันคือการท้าทายไปอีกแบบนะ
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ไม่คิดจะฉีดหรือทำศัลฯ”
“ก็แค่นี้” ยักไหล่ขณะขึ้นมานั่งบนรถและพับแขนเสื้อเชิ้ตสีดำจนถึงข้อศอก ปลดกระดุมเสื้อออกไปสามเม็ดเพราะร้อนจนแทบจะละลายอยู่แล้ว ฝรั่งเศสหนาวจนมือสั่นมาถึงเมืองไทยร้อนจนหูดับตับไหม้เลย ให้ตายเหอะ!
“ต้องเดินทางไปหาคุณหญิงเดือนก่อนนะครับ” ธนินหันมามองผมที่กำลังใช้สายตาสาดส่องมองไปทั่วเมืองที่รถเคลื่อนขับผ่าน
“ครับ แล้วที่พักผมล่ะครับ” ถามกลับไปด้วยความไม่รู้ เพราะตอนนี้ผมเหมือนหนูหลงกรุงมากทั้งที่ที่นี่คือแผ่นดินบ้านเกิดของผม แต่ผมกลับไม่รู้เลยว่าควรไปที่ไหนหรือทำอะไรก่อนดี? เหมือนเด็กเลยแหะ
“คุณท่านบอกว่าพอคุณหญิงเดือนรู้ว่าคุณพายจะมาทำงานที่นี่ก็รีบให้ไปหาเลยครับ ในส่วนของที่พักคุณท่านให้ผมจัดการซื้อบ้านหลังหนึ่งไว้ครับ”
“บ้าน? ถามจริง... พ่อคิดว่าผมจะพาผู้หญิงมาอยู่ด้วยเป็นสิบหรือไง” ถามออกไปด้วยความหงุดหงิด ทำไมจะต้องซื้อบ้านด้วยแค่คอนโดผมก็อยู่ได้แล้วหรือเปล่า
“ไม่หรอกครับ คุณท่านคงอยากให้คุณพายสะดวกมากกว่ามั้งครับ”
“ยังไง ผมไม่เข้าใจ” ถอนหายใจออกมาอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่
“เป็นบ้านก็จริงครับ แต่เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่รอบบ้านมีพื้นที่กว้างขวางมาก คุณพายน่าจะชอบครับไม่ได้ใหญ่โตอย่างที่คุณพายคิดแน่นอน” ธนินส่งยิ้มให้กับผมก่อนจะก้มหน้าลงมองแท็บในมือรู้สึกจะเป็นการดูเส้นทางเพื่อเรียนรู้แน่นอน เพราะธนินต้องเรียนรู้และบอกผมอีกที เพราะผมคงไม่พึ่งพาให้คนขับรถพาไปไหนมาไหนแน่ ผมชอบที่จะขับรถเองมากกว่า
“ขอให้จริงอย่างที่พูดเถอะครับ กลัวว่าถ้าแม่รู้จะไม่ได้แค่บ้านหลังเดี่ยวอย่างที่ธนินพูดน่ะสิ” หมอนั่นหัวเราะออกมาส่วนผมก็เอาแต่มองข้างทางเพื่อซึมซับสิ่งรอบข้าง นานแค่ไหนนะที่ไม่ได้เห็นบ้านของตัวเอง
รถเลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังหนึ่งที่ผมคุ้นตาดีตั้งแต่ยังเด็ก ทุกคนในบ้านหลังนี้รักผมมากโดยเฉพาะป้าเดือนพี่สาวของพ่อที่ท่านไม่มีลูก มีสามีก็เสียชีวิตลงไปจึงอยู่คนเดียวกับบรรดาคนรับใช้และคนดูแล ออกงานสังคมบ้างเพราะป้าเดือนเป็นมนุษย์เครื่องเพชร ชอบสะสมเก็บไว้จนล้นบ้าน
“พาย! พายหลานป้า” เสียงดังทรงพลังเรียกชื่อผม พร้อมกับร่างสวยระหงที่ถึงแม้จะอยู่ในวัยเลขห้าแล้วแต่ป้าเดือนก็ยังคงสวยอยู่เพราะ... ฉีดโบฯ มาเยอะ หน้าตึงแบบนั้นไม่ต้องถาม ไม่ต้องบอกผมก็รู้
“สวัสดีครับป้าเดือน” อ้าแขนกอดรัดป้าเดือนที่ดีใจจนเผลอน้ำตาคลอออกมา “อะไรกันครับ ร้องไห้เลยเหรอ?”
“ป้าคิดถึงหลานชายของป้า ดูสิ โตเป็นหนุ่มแล้วยายนวล”
“ค่ะคุณท่าน คุณพายโตเป็นหนุ่มหล่อมากเลยค่ะ”
“ขอบคุณครับยายนวล” ยายนวลคือคนเก่าคนแก่ของบ้านหลังนี้ ท่านเองก็เคยเลี้ยงดูผมตอนที่เกิดจนโตและผมก็ต้องย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ที่ฝรั่งเศสจึงห่างหายกันมานานแสนนานเลย “สบายดีนะครับ”
“จ้ะ มาๆ นั่งก่อนนะ” ป้าเดือนดึงผมให้นั่งลงบนโซฟา ก่อนที่ยายนวลจะเดินเข้าครัวเพื่อเอาน้ำมาเสิร์ฟให้กับผม “บ้านที่พ่อเขาซื้อให้ ป้าไปดูความเรียบร้อยมาแล้วนะ พายอยู่ได้แน่นอน”
“ครับ หวังว่าคงจะไม่ใหญ่เวอร์นะครับ ไม่ค่อยจะไว้ใจพ่อกับแม่สักเท่าไหร่”
“ไม่ต้องห่วง ป้าจัดการให้ตามที่หลานต้องการเลยจ้ะ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะมองยายนวลที่เดินออกมาพร้อมกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุน่าจะประมาณ 15-16 ปีได้ เด็กคนนี้หน้าตาจิ้มลิ้ม ขาวผิวสวย ร่างบอบบางคลานเข่าเอาน้ำมาวางให้ผมก่อนจะถอยหลังออกไปยืนเคียงข้างยายนวลที่สะกิดเธอให้ยกมือไหว้ผม
“เด็กที่ไหนครับเนี่ย? รับคนมาใหม่เหรอ”
“เฮ้อ ยายนวลน่ะไปรับมา เห็นว่าถูกพ่อกับแม่ทิ้งไว้ที่บ้านนอก ยายนวลแกสงสารเพราะหลานแกรับเลี้ยงไม่ไหวก็เลยมาขอให้ป้ารับมาเป็นคนใช้ที่บ้านน่ะ” ดูเหมือนป้าเดือนจะไม่ค่อยชอบเด็กคนนี้สักเท่าไหร่ คงจะเกรงใจยายนวลด้วยส่วนหนึ่ง
“ยังเด็กอยู่เลยนะครับ ได้เรียนหรือเปล่า?”
“โหย ให้เรียนจบแค่ม.6 ก็พอ จะส่งเสียทำไมลูกหลานก็ไม่ใช่! เปลืองเงิน” เด็กคนนั้นก้มหน้างุดจนยายนวลฉีกยิ้มให้กับผม เพราะคงจะเห็นว่าเอาแต่มองเธออยู่แบบนั้น เสื้อผ้าที่ใส่ก็ดูซีดไปหมดแถมยังขาดด้วย โตแล้วควรได้สวมใส่เสื้อผ้าดีๆ หรือเปล่านะ
“ยัยหนูเรียนเก่งค่ะคุณพาย” ยายนวลพูดขึ้นและแตะมือเด็กคนนั้นให้เงยหน้ามองผม “สอบได้เกรดดีมาตลอด เป็นเด็กกิจกรรมด้วย”
“เหรอครับ ถ้างั้นป้าเดือนน่าจะส่งเสียเด็กคนนี้นะครับ เพราะการเรียนสำคัญ...”
“ไม่เอาหรอกหลาน!” ป้าเดือนรีบตัดคำพูดผมทันที “เปลืองเงินเปลืองทอง สุดท้ายเรียนจบมันก็ต้องมารับใช้ป้าอยู่ดี ส่งเสียให้เรียนกลัวจะใจแตกเหมือนกับแม่มันน่ะสิ”
ผมถอนหายใจมองป้าเดือนที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบใจเด็กคนนี้สักเท่าไหร่ แต่ไหนแต่ไรป้าเดือนแกก็ไม่สนใจเด็กอยู่แล้ว นอกซะจากคนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ผมผละสายตาจากป้าเดือนและมองเด็กคนนั้นที่จับจ้องผมอยู่เช่นกัน
“ชื่ออะไร?” ถามออกไป เธอก็เอาแต่เงียบและไม่ยอมตอบ
“เป็นใบ้หรือไง! หลานชายฉันถามก็ตอบไปสิ” ป้าเดือนตะคอกใส่เด็กคนนั้นจนเธอกุมมือตัวเองบีบเข้าหากันแน่น
“พะ เพ้นท์ค่ะ”
“ชื่อ ‘เพ้นท์’ เหรอ... ชื่อน่ารักดี” พูดออกไปด้วยความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เธอสบตากับผมและก้มหน้าลงต่ำอีกครั้ง ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเรื่องของตัวเอง “ผมต้องไปอยู่บ้านหลังใหม่ แต่ที่เป็นปัญหาคือใครจะมาดูแลบ้านนี่สิครับ”
“จริงด้วย ป้าลืมเรื่องนี้ไปเลย” ป้าเดือนแตะแขนผมพลางเอามือทาบอก
“ธนินอยู่คอนโดเพราะอยากให้ผมเป็นส่วนตัว อีกอย่างผมทำงานบ้านไม่ได้ด้วย ป้าเดือนพอจะแนะนำแม่บ้านให้ผมได้ไหมครับ?”
“ไอ้ได้น่ะมันได้หลาน แต่สมัยนี้มิจฉาชีพมันเยอะ ป้าไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่คนกันเองไปดูแลหลาน”
“โธ่ ไม่เป็นไรครับ แค่คนดูแลบ้านดูแลผมเรื่องอาหารการกิน... คงไม่โชคร้ายเจอมิจฉาชีพมั้งครับ” ป้าเดือนดูเหมือนจะคิดหนักแต่สำหรับผมแค่คนมาเป็นแม่บ้านแบบไปกลับก็ได้นี่นาไม่เห็นต้องคิดมาก ก็เพราะว่าเป็นป้าไงท่านรักผม ห่วงผมมากจึงได้เห็นแม้แต่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้มันสำคัญ
“เอางี้ งั้นให้นังเพ้นท์ไปอยู่กับพายแล้วกัน” ผมขมวดคิ้วทันที มองร่างเล็กตรงหน้าที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ “คนอื่นในบ้านป้าก็มีแต่อายุเยอะๆ กันหมดแล้ว นังเพ้นท์ยังเด็ก ช่วยทำงานบ้านที่บ้านหลานได้แน่”
“จะดีเหรอครับ เพ้นท์เป็นคนของป้าเดือนนะ”