มณีรัตน์ผลักร่างของแพรแก้วจนหงายหลังก่อนจะวิ่งไปหาพยัคฆ์ที่ยืนรออยู่อีกด้าน
“เป็นยังไงบ้าง”
เขาเอ่ยถามคนในอ้อมแขนอย่างห่วงใย
“หนูณีไม่ได้เป็นอะไรค่ะเฮีย”
เธอกอดเขาแน่น มองแพรแก้วตาไม่กะพริบ
“นายหัวยิงแพรทำไม”
“ยังจะมาถามอีก เธอก็สารภาพออกมาหมดแล้วไม่ใช่เหรอ”
“นายหัวรวมหัวกับมันเหรอ”
แพรแก้วถามอย่างตกใจ ใช้มืออีกข้างกุมมือด้านที่เลือดไหลนองเอาไว้ด้วยความเจ็บ แต่ไม่มีใครคิดจะเข้าไปช่วย
“ผัวเมียกันนอนคุยกัน จะแปลกอะไร”
มณีรัตน์แลบลิ้นใส่ฆาตกรโรคจิตตรงหน้า
พยัคฆ์เอ่ยชมเด็กสาวในใจ มณีรัตน์ฉลาด เธอโทรหาเขาระหว่างสนทนามาตามทางที่จะมาตรงหน้าผา เขาเลยตามมาทัน
จริงๆ เขาสงสัยเรื่องการตายของนิลเนตรเหมือนกัน แต่ตำรวจสรุปว่าฆ่าตัวตาย และไม่มีหลักฐาน แถมนิลเนตรยังเขียนจดหมายลาตายเสียอีก เพิ่งมารู้ว่าจดหมายลาตายฉบับนั้นทำให้แพรแก้วเอาตัวรอดจากข้อสงสัยไปได้ เขาไม่ชอบคนอ่อนแอฆ่าตัวตาย นิลเนตรก็เหมือนกัน เธอเรียกร้องมากเกินไป ถึงมณีรัตน์ไม่ทำอะไรให้เข้าใจผิด เขาก็คงคบเธอต่อไม่ไหว
แพรแก้วร้ายกาจมาก ร่วมมือกับพี่ชายลักลอบขนของเถื่อนกลางทะเล การตายที่ชวนสงสัยทำให้เขาต้องแกล้งทำเป็นโกรธมณีรัตน์และขู่ว่าอย่ามาให้เห็นหน้าอีก เพื่อกันเด็กสาวที่เขารักออกไป ไม่ให้มีอันตราย
เขาต้องใจร้ายกับเด็กสาวแสนน่ารักอย่างมณีรัตน์เพื่อให้เธอปลอดภัย
ตำรวจจับกุมตัวแพรแก้วไปอย่างง่ายดาย คนที่ลำพองใจว่าทำอะไรโดยไม่มีใครรู้ ถูกจับได้โดยง่ายเพราะประมาท
มณีรัตน์ถอนใจเฮือกใหญ่ พยัคฆ์เล่าเรื่อง นิลเนตรให้เธอฟังตอนอยู่บนเตียง เขาเลยคิดแผนนี้ขึ้นมา สงสัยแพรแก้วมานานแต่ไม่มีหลักฐาน
เรื่องคลิปวิดีโอนั่นเขาก็หลอกเธอ เพื่อพามายังเกาะ แต่เรื่องความใจร้ายของเขาที่แสดงออก ทำเธอเชื่อสนิท มณีรัตน์แอบงอนเขาอยู่ในใจ แต่ให้อภัยที่เขาห่วงเธอ กลัวจะมีอันตรายเลยทำไปแบบนั้น
พยัคฆ์พามณีรัตน์เข้ากรุงเทพฯ พร้อมด้วยตะวัน เพื่อไปจัดเซอร์ไพร้ส์ให้คเชนทร์ขอขนิษฐาแต่งงานที่ร้านแห่งหนึ่ง เขาเลี่ยงออกมา เพราะต้องรอให้น้าชายแต่งงานเสียก่อน ไม่งั้นวงแตก คเชนทร์ไม่อยากให้เขายุ่งกับมณีรัตน์เพราะเหตุผลว่าเขาเจ้าชู้
หลังจัดเซอร์ไพร้ส์เสร็จ ก็มีงานแต่งงานเกิดขึ้น คเชนทร์กับขนิษฐาฮันนีมูนกลับมาแล้ว เขาจึงไปพูดเรื่องทาบทามสู่ขอมณีรัตน์ โดยพาลุงกับป้าซึ่งก็คือบิดามารดาของตะวันไปด้วย
“ไอ้เสือ!!! มึงตายเสียเถอะ”
คเชนทร์ยกปืนขึ้นจะยิงพยัคฆ์ให้ตายคาบ้านเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“คุณเชนใจเย็นๆ นะคะ”
มณีรัตน์หน้าเสียเมื่อเห็นบิดาจะยิงพยัคฆ์ให้ตาย สีหน้าโกรธจัดนั้นทำเธอประหวั่นพลันพลึง ปกติคเชนทร์ใจดีไม่เคยโกรธอะไรมากมายขนาดนี้มาก่อน
“อาเชนใจเย็นๆ ค่ะ” ขนิษฐารีบปรามสามีเอาไว้
“เชนก็ใจเย็นๆ เถอะ พี่กับพี่ทิตนั่งหัวโด่อยู่ตั้งสองคน”
“ผมเกรงใจพี่จิตนะครับ ไม่งั้นยิงมันทิ้งไปแล้ว หนูณียังเด็ก อายุยังไม่ถึงยี่สิบ ยังเรียนไม่จบ ผมไม่ยกให้หรอกครับ”
“ไม่ยกให้นี่ท้องนะน้าเชน เอากันทุกวัน”
พยัคฆ์ยักคิ้ว หมั่นไส้คนหวงลูกสาว เขาอายุห่างจากคเชนทร์ไม่เยอะ แต่เรียกว่าน้าตามศักดิ์
“ไอ้ๆๆๆๆ มึงอยากได้ใช่ไหมไอ้เสือ กูไม่ยกให้โว้ย หลานคนเดียวกูเลี้ยงได้”
“ผมแคร์ซะที่ไหน นั่นเมียผม ผมจะเอา”
“ไอ้นี่ปากหมา กูไม่ให้โว้ย”
“สองคนนี้เลิกทะเลาะกันสักทีได้ไหม ปวดหัวจริงๆ เลย ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กยันโต ไม่เบื่อบ้างหรือไง”
สุจิตรากุมขมับ มองแล้วถอนใจ ขิงก็ราข่าก็แรง
“ยังไงหนูณีก็อะไรๆ กับเสือไปแล้วนะเชน”
“ใครเขาสนกันแล้วครับพี่”
คเชนทร์พูดเหมือนไม่สนแต่ใบหน้ากระตุก
“คิดจะจับใส่ตะกร้าล้างน้ำว่างั้น” พยัคฆ์ยั่ว
“เรื่องของกู มึงเสือกอะไรด้วย”
“นั่นเมียผม”
“เหอะ! มึงหลอกลูกกูไปปู้ยี้ปู้ยำ”
“เปล่าหลอก หนูณีสมยอมผม”
“ไอ้นี่!”
“คุยกันแบบนี้เมื่อไหร่จะรู้เรื่อง เสือก็หุบปากเสียบ้างเถอะลูก ป้าล่ะปวดหัว”
สุจิตราห้ามทัพอีกรอบ พยัคฆ์ปิดปากฉับ มองสบตากับเมียรัก ที่มองเขาไม่วางตาเหมือนกัน เธอค้อนเขาขวับๆ เขาเลยเริ่มเอาจริง ไม่แหย่คเชนทร์อีก เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่
“คนนี้รักจริง จะเอาทำเมียจริงๆ เลยให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ น้าเชนก็รู้นิสัยผมดี ไม่เอาผมไม่ยุ่ง ถ้ายุ่งคือเอา”
พยัคฆ์พูดแบบแมนๆ ตรงไปตรงมา
“มึงเจ้าชู้ บ้ากาม กูสงสารลูก”
ประโยคของคเชนทร์ทำหลายคนเบือนหน้าหนีแอบอมยิ้ม กลั้นขำจนปวดกราม
“ฮะ แฮม”
คเชนทร์หน้าแดงด้วยความหวงลูกสาว กระแอมจนทุกคนต้องหันกลับมามอง ตีสีหน้านิ่งๆ เอาไว้ ทั้งๆ ที่ยิ้มในหน้า
“มึงเลิกหมดหรือยังที่คั่วอยู่ เดี๋ยวลูกกูน้ำตาเช็ดหัวเข่า”
“คบทีละคน ถ้ามีเป็นตัวเป็นตนไม่ยุ่งกับใคร ผมเป็นลูกผู้ชายพอ พูดคำไหนคำนั้น ที่ซื้อกินไม่นับ ความหื่นเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย”
ประโยคแรกเหมือนจะดี ประโยคท้ายตกม้าตาย คเชนทร์เหมือนยอมอ่อน แต่พอได้ยินประโยคท้ายเขาแยกเขี้ยวทันที
มณีรัตน์อยากกระโดดตบปากพยัคฆ์นัก
“กูไม่ยกให้”
“อ้าว...”
ทุกคนอ้าปากค้างร้องออกมาเป็นประโยคเดียวกัน
“คุณเชนขา”
เสียงหวานๆ ของบุตรสาวทำคเชนทร์ไปไม่เป็น จริงๆ พอจะรู้นิสัยพยัคฆ์ดี ถ้าไม่ต้องการจริงๆ จะไม่มีวันเอ่ยปากให้เสียศักดิ์ศรี
“รักมันหรือไง”
คเชนทร์เอ่ยถาม ทำเสียงขัดใจที่ได้คนที่ไม่ชอบขี้หน้ามาเป็นลูกเขย เขาอุตส่าห์ขัดขวางเต็มที่
“รักค่ะ” คนตอบหน้าแดงขัดเขิน
“แล้วมันล่ะ รักเราจริงหรือเปล่า”
“รักจริงหวังแต่ง ถ้าไม่ได้คนนี้ชาตินี้ยอมขึ้นคาน”
พยัคฆ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ดี กูขอให้มึงขึ้นคานไอ้เสือ”
“ตกลงน้าเชนไม่ยกให้ใช่ไหม”
“ไม่ยกให้”
“โอเคเข้าใจแล้วล่ะ”
ประโยคของพยัคฆ์ทำหลายคนกะพริบตาปริบๆ
“วะ... ว้าย!”
มณีรัตน์กรีดร้องเมื่อโดนยกขึ้นพาดบ่า เธอตกใจเมื่อพยัคฆ์อุ้มวิ่งออกไปที่รถ ก่อนที่เขาจะสั่งลูกน้องให้ออกรถในทันที หลายคนแตกตื่น แต่วิ่งออกมาไม่ทัน
“เฮียเสือ ทำอะไรนี่”
“น้าเชนไม่ยกให้ก็ต้องฉุดสิ ฉุดกันซึ้งๆ หน้านี่แหละ”
“คุณเชนกับเฮียเสือเป็นอะไรกันนักหนา”
เธอกอดอกทำหน้าบูด
“อย่าทำหน้าบูดไปเลย เดี๋ยวถึงเกาะเสือจะจัดชุดใหญ่ให้”
“บ้ากามไม่เลิกนะเฮีย” เธอค้อนเขา
“เดี๋ยวมีลูกค่อยเอาพานไปขอขมา”
“มุขของเฮียฝืดชะมัดยาด”
เขาอุ้มเธอเข้าบ้าน หลังจากเดินทางมานานหลายชั่วโมง แต่เอาผ้ามาปิดตาเธอเอาไว้ ก่อนจะแกะผ้าออกเมื่อถึงห้องนอน
“ปิดตาหนูณีทำไมคะ”
“ไม่บอก”
“เฮียน่ะ”
“เดี๋ยวก็รู้”
“เฮีย...”
“หือ... ว่าไง”
“ถามอะไรหน่อยสิคะ”
“ถามว่า?”
“แฟนพี่ตะวันสวยรึเปล่า”
“ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน” เขาตอบแล้วหัวเราะ
“เฮียหัวเราะแบบนี้ หาเรื่องแกล้งอะไรพี่ตะวันหรือเปล่า”
“เปล๊า”
“เสียงสูงมีพิรุธ”
“แกล้งก็ได้”
“บอกหนูณีด้วย หนูณีจะช่วยคิดแผนเด็ดๆ ให้”
“ยัยตัวแสบ”
เขาวางเธอบนเตียง โยกศีรษะไปมาอย่างเอ็นดู
“ได้ จัดไป”
“หมั่นไส้พี่ตะวัน ไม่ยอมบอกความจริงกับหนูณี”
“โอ๊ย! หยิกเฮียทำไม”
“หมั่นไส้เฮียด้วย”
“ให้ทายว่าพ่อหนูณีจะมาถึงเกาะเสือกี่โมง”
“ไม่ทราบสิคะ”
“เดี๋ยวก็มา มาแบบพายุเลยล่ะ ป่านนี้เหาะตามมาแล้วมั้ง”
“เฮียน่ะชอบไปแกล้งแหย่คุณเชน จะไปขอลูกสาวเขาแล้วไปแหย่ให้เขาโกรธ”
“โอเค ถ้าน้าเชนมารอบนี้ไม่แหย่แล้ว แต่งงานกันเลย”
“แต่งงานกัน หมายถึงพอคุณเชนมาก็แต่งเหรอคะ จะแต่งได้ยังไงกันคะ ยังไม่ได้เตรียมงานอะไรเลย”
“มาดูนี่สิ”
เขาดึงเธอไปที่ระเบียงบ้าน มณีรัตน์อ้าปากค้าง พยัคฆ์กำลังให้คนจัดเตรียมสถานที่
“เดี๋ยวญาติผู้ใหญ่ของเรามาถึงพร้อมกัน แต่งงานกันเลย ดูฤกษ์ยามเอาไว้แล้ว พรุ่งนี้ฤกษ์สะดวกและดีที่สุด”
“เฮียเสือเจ้าเล่ห์”
เขาหัวเราะลงลูกคอก่อนจะอุ้มเธอไปที่เตียง
“เดี๋ยวนะคะ แล้วคนอื่นๆ รู้ไหมคะ”